Malaysia’s Pattern of Economic Grow

Malaysia’s Pattern of Economic Growth

Malaysia has seen strong rates of economic growth from the 1980s. Veritably, in the period leading up to the East Asian Financial Crisis, it was achieving almost double figures in GDP growth.
Figure 1.1 shows the growth Malaysian economy from 1970 till 2000 by percentage of GDP[2] growth along with a timeline of significant industrial developments. This figure will be revisited during later posts with supplemented with economic policy implementation as well as notable periods of transition. From the outset, Malaysia experienced three significant economic crises during this period, in 1975, 1986 and 1998. The 1975 period is attributed to the OPEC oil crisis[3] and also marks the implementation of the New Economic Policy. The 1975 period of recession was due to the halving of crude oil and palm oil prices[4]. Finally, the 1997 recession was caused by the well known East Asian Financial Crisis.

Recessions are an integral process of all economies; even MEDCs[5] experience downturns every so often. Contemporary examples include most of Western Europe and the United States during the 2008 Financial Crisis caused by sub-prime mortgage bubbles. Developed states usually deal with recessions by way of providing substantial financial assistance to financial institutions (both central and private banks). They are able to manage this due to the fact that they are able to draw upon their large reserves of cash; for example, the US Federal Reserve appropriated US$85bn in the efforts of bailing out AIG, a major insurance firm[6] while the United Kingdom injected £36bn[7] (equivalent of US$60m) in bailing out its banks in 2008.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซียมาเลเซียได้เห็นแข็งแรงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจากไฟต์ Veritably ในรอบระยะเวลานำไป วิกฤตการเงินเอเชียตะวันออก มันถูกบรรลุเกือบสองตัวเลขอัตราการเติบโตของ GDPรูปที่ 1.1 แสดงการเติบโตเศรษฐกิจมาเลเซียจาก 1970 จนถึง 2000 ตามเปอร์เซ็นต์ของ GDP [2] เติบโตพร้อมกับเส้นเวลาของการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ ตัวเลขนี้จะถูก revisited ระหว่างโพสต์ต่อด้วยเสริม ด้วยนโยบายทางเศรษฐกิจตลอดจนบรรยากาศรอบระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลง จากมือ มาเลเซียประสบวิกฤติเศรษฐกิจสำคัญในสามในช่วงเวลานี้ ใน 1975, 1986 และ 1998 ระยะ 1975 เกิดจากภาวะวิกฤตน้ำมันโอเปก [3] และยัง ทำเครื่องหมายปฏิบัตินโยบายเศรษฐกิจใหม่ 1975 ระยะถดถอยเกิด halving ของน้ำมันดิบและราคาน้ำมันปาล์ม [4] สุดท้าย ถดถอยปี 1997 ที่เกิดจากวิกฤตการเงินเอเชียตะวันออกรู้จักกันดีRecessions are an integral process of all economies; even MEDCs[5] experience downturns every so often. Contemporary examples include most of Western Europe and the United States during the 2008 Financial Crisis caused by sub-prime mortgage bubbles. Developed states usually deal with recessions by way of providing substantial financial assistance to financial institutions (both central and private banks). They are able to manage this due to the fact that they are able to draw upon their large reserves of cash; for example, the US Federal Reserve appropriated US$85bn in the efforts of bailing out AIG, a major insurance firm[6] while the United Kingdom injected £36bn[7] (equivalent of US$60m) in bailing out its banks in 2008.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มาเลเซียเป็นแบบแผนของการเติบโตทางเศรษฐกิจ

มาเลเซียได้เห็นอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่แข็งแกร่งจากไฟต์ อ่า . . . ในช่วงเวลาที่นำไปสู่วิกฤติการเงินเอเชีย มันบรรลุตัวเลขเกือบสองเท่าในการเจริญเติบโตของ GDP .
รูปที่ 1.1 แสดงการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจมาเลเซียจาก 1970 จนถึงปี 2000 โดยเปอร์เซ็นต์ของจีดีพี [ 2 ] การเจริญเติบโต พร้อมกับระยะเวลาของการพัฒนาอุตสาหกรรมที่สำคัญรูปนี้จะมาเยือนในช่วงโพสต์ทีหลังกับเสริมด้วยการใช้นโยบายเศรษฐกิจ ตลอดจนระยะเวลาที่โดดเด่นของการเปลี่ยนภาพ จากเริ่มแรกมาเลเซียประสบวิกฤตเศรษฐกิจที่สำคัญสามในช่วงเวลานี้ในค.ศ. 1986 และปี 1998 ระยะเวลาปี 1975 จากวิกฤติน้ำมันโอเปก [ 3 ] และยังเป็นนโยบายเศรษฐกิจใหม่1975 ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำเนื่องจากการแบ่งน้ำมันดิบและราคาน้ำมันปาล์ม [ 4 ] ในที่สุด , 1997 ) จากที่รู้จักกันดีตะวันออกวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย

รายเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเศรษฐกิจ แม้ medcs [ 5 ] ประสบการณ์ททุกบ่อยตัวอย่างร่วมสมัยประกอบด้วยส่วนใหญ่ของยุโรปตะวันตกและสหรัฐอเมริกาในช่วง 2008 วิกฤตการณ์ทางการเงินที่เกิดจากฟองอากาศจำนอง sub - prime . รัฐพัฒนามักจะจัดการกับรายการโดยการให้ความช่วยเหลือทางการเงินอย่างมากให้กับสถาบันการเงิน ( ทั้งในส่วนกลางและธนาคาร ) ส่วนตัวพวกเขาจะสามารถจัดการกับนี้เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาสามารถวาดเมื่อสำรองของพวกเขาขนาดใหญ่ของเงินสด เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ โดยสหรัฐ $ 85bn ในความพยายามของประกันตัวออกเอไอจี บริษัทประกันภัยรายใหญ่ [ 6 ] ในขณะที่สหราชอาณาจักรฉีดยาง 36bn [ 7 ] ( เทียบเท่า US $ 60M ) ประกันตัวออกของธนาคารในปี 2551