The flame on the candle needs the g

The flame on the candle needs the gas oxygen to keep burning. Once we place the glass
container over the lit candle, the oxygen inside begins to get used up. Once all the oxygen has
been used, the flame will go out. However, there are still other gases remaining inside the
glass (nitrogen, argon, carbon dioxide, etc). But these gases have lower pressure inside the
glass when compared to the higher atmospheric pressure on the outside of the glass. This
higher atmospheric pressure from the outside pushes the water from the plate up and into the
glass.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เปลวไฟบนเทียนต้องการออกซิเจนก๊าซเพื่อให้เขียน เมื่อเราวางแก้ว ภาชนะเหนือเทียนสว่าง ออกซิเจนภายในเริ่มต้นจะได้รับใช้ค่า เมื่อมีการให้ออกซิเจน รับใช้ เปลวไฟจะออกไป อย่างไรก็ตาม ยังมีก๊าซอื่น ๆ ที่เหลือภายในการ แก้ว (ไนโตรเจน อาร์กอน คาร์บอนไดออกไซด์ ฯลฯ) แต่ก๊าซเหล่านี้มีแรงดันต่ำภายในตัว แก้วเมื่อเทียบกับความดันบรรยากาศสูงกว่าด้านนอกของแก้ว นี้ ความดันบรรยากาศสูงจากภายนอกดันน้ำจากจานขึ้น และเป็นการ แก้ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เปลวไฟบนเทียนต้องการออกซิเจนก๊าซเพื่อให้การเผาไหม้ เมื่อเราวางแก้ว
ภาชนะเหนือใต้แสงเทียนออกซิเจนภายในเริ่มที่จะได้รับใช้ขึ้น เมื่อทั้งหมดออกซิเจนได้
ถูกนำมาใช้เปลวไฟจะออกไป อย่างไรก็ตามยังคงมีก๊าซอื่น ๆ ที่เหลืออยู่ภายใน
แก้ว (ไนโตรเจนอาร์กอน, คาร์บอนไดออกไซด์, ฯลฯ ) แต่ก๊าซเหล่านี้มีความดันต่ำภายใน
แก้วเมื่อเทียบกับความดันบรรยากาศที่สูงขึ้นที่ด้านนอกของแก้ว นี้
ความดันบรรยากาศสูงจากภายนอกดันน้ำจากจานขึ้นและลงใน
แก้ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เปลวไฟบนเทียนต้องการแก๊สออกซิเจนเพื่อให้ไหม้ เมื่อเราวางแก้วภาชนะเหนือจุดเทียน , ออกซิเจนภายในเริ่มชินขึ้น เมื่อทั้งหมดออกซิเจนได้ใช้เปลวไฟจะออกไปข้างนอก อย่างไรก็ตามยังคงมีก๊าซอื่น ๆที่เหลืออยู่ภายในแก้ว ( ไนโตรเจน อาร์กอน คาร์บอนไดออกไซด์ ฯลฯ ) แต่ก๊าซเหล่านี้มีความดันลดภายในแก้วเมื่อเทียบกับที่สูงกว่าความดันบรรยากาศด้านนอกของแก้ว นี้สูงกว่าความดันบรรยากาศจากภายนอกดันน้ำจากจานขึ้นและลงแก้ว