The boys then sliced the goat’s hid

The boys then sliced the goat’s hide into strips, dipped them in the sacrificial blood and took to the streets, gently slapping both women and fields of crops with the goathide strips. Far from being fearful, Roman women welcomed being touched with the hides because it was believed the strips would make them more fertile in the coming year. Later in the day, according to legend, all the young women in the city would place their names in a big urn. The city’s bachelors would then each choose a name out of the urn and become paired for the year with his chosen woman. These matches often ended in marriage. Pope Gelasius declared February 14 St. Valentine’s Day around 498 A.D. The Roman ‘lottery’ system for romantic pairing was deemed un-Christian and outlawed. Later, during the Middle Ages, it was commonly believed in France and England that February 14 was the beginning of birds’ mating season, which added to the idea that the middle of February — Valentine’s Day — should be a day for romance. The oldest known valentine still in existence today was a poem written by Charles, Duke of Orleans to his wife while he was imprisoned in the Tower of London following his capture at the Battle of Agincourt. The greeting, which was written in 1415, is part of the manuscript collection of the British Library in London, England. Several years later, it is believed that King Henry V hired a writer named John Lydgate to compose a valentine note to Catherine of Valois.

In Great Britain, Valentine’s Day began to be popularly celebrated around the seventeenth century. By the middle of the eighteenth century, it was common for friends and lovers in all social classes to exchange small tokens of affection or handwritten notes. By the end of the century, printed cards began to replace written letters due to improvements in printing technology. Ready-made cards were an easy way for people to express their emotions in a time when direct expression of one’s feelings was discouraged. Cheaper postage rates also contributed to an increase in the popularity of sending Valentine’s Day greetings. Americans probably began exchanging hand-made valentines in the early 1700s. In the 1840s, Esther A. Howland began to sell the first mass-produced valentines in America.

According to the Greeting Card Association, an estimated one billion valentine cards are sent each year, making Valentine’s Day the second largest card-sending holiday of the year. (An estimated 2.6 billion cards are sent for Christmas.)

Approximately 85 percent of all valentines are purchased by women. In addition to the United States, Valentine’s Day is celebrated in Canada, Mexico, the United Kingdom, France, and Australia.

Valentine greetings were popular as far back as the Middle Ages (written Valentine’s didn’t begin to appear until after 1400), and the oldest known Valentine card is on display at the British Museum. The first commercial Valentine’s Day greeting cards produced in the U.S. were created in the 1840s by Esther A. Howland. Howland, known as the Mother of the Valentine, made elaborate creations with real lace, ribbons and colorful pictures known as “scrap”.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เด็กผู้ชายแล้ว เตรียมการซ่อนของแพะในแถบ จิ้มเลือดเสียสละ และเอาไปตามถนน ค่อย ๆ โกนของพืชมีแถบ goathide และผู้หญิง ห่างไกลจากการกลัว ผู้หญิงโรมันยินดีถูกสัมผัสกับหนัง เพราะมันเชื่อว่า แถบให้อุดมสมบูรณ์มากในปีที่ผ่านมา ในวัน ตำนาน หญิงสาวทั้งหมดในเมืองจะทำชื่อในผอบใหญ่ ปริญญาตรีเมืองจะ แล้วเลือกชื่อจากโกศ และกลายเป็นคู่ปีผู้หญิงของเขาท่าน ตรงนี้มักจะสิ้นสุดในการแต่งงาน สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ประกาศวันวาเลนไทน์วันที่ 14 กุมภาพันธ์ประมาณค.ศ. 498 ระบบโรมัน 'ลอตเตอรี่' จับคู่โรแมนติกถือว่าคริสเตียนไม่ และ outlawed ต่อมา ในสมัยกลาง ก็มักเชื่อในฝรั่งเศส และอังกฤษที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นการเริ่มต้นของนกผสมพันธุ์ฤดูกาล ซึ่งเพิ่มเติมความคิดที่เดือนกุมภาพันธ์ — วันวาเลนไทน์ — ควรวันโรแมนติก วาเลนไทน์รู้จักเก่ายังคงอยู่ในปัจจุบันเป็นบทกวีเขียน โดยชาร์ลส์ ดยุค Orleans กับภรรยาในขณะที่เขาถูกจำคุกในหอคอยลอนดอนต่อจับที่รบทเม้นท์ส อวยพร ที่เขียนใน 1415 เป็นส่วนหนึ่งของการรวบรวมต้นฉบับห้องสมุดอังกฤษในลอนดอน อังกฤษ หลายปีต่อมา เชื่อกันว่าที่กษัตริย์ Henry V จ้างเป็นนักเขียนที่ชื่อจอห์น Lydgate ในการเขียนหมายเหตุวาเลนไทน์แคทเธอรีนแห่งวาลัวในสหราชอาณาจักร วาเลนไทน์เริ่มจะมีการเฉลิมฉลองกันแพร่หลายในศตวรรษที่สิบเจ็ด ช่วงกลางของศตวรรษที่สิบแปด มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเพื่อนและคนรักในสังคมทุกระดับจะแลกโทเค่นเล็กรักหรือบันทึกด้วยลายมือ ในตอนท้ายของศตวรรษ พิมพ์บัตรเริ่มการแทนการเขียนตัวอักษรเนื่องจากการปรับปรุงในเทคโนโลยีการพิมพ์ การ์ดสำเร็จรูปเป็นวิธีง่ายสำหรับคนที่จะแสดงอารมณ์ของพวกเขาในเวลาเมื่อมีการกำลังใจแสดงอารมณ์โดยตรง ราคาถูกกว่าไปรษณีย์ยังส่วนการเพิ่มขึ้นในความนิยมของการส่งคำอวยพรวันวาเลนไทน์ ชาวอเมริกันอาจจะเริ่มแลกเปลี่ยนทำมือวาเลนไทน์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 ในถึงทศวรรษ 1840 เอสเธอร์ A. ฮาวแลนด์เริ่มขายวาเลนไทน์มวลผลิตครั้งแรกในอเมริกาตามสมาคมบัตรอวยพร การ์ดวาเลนไทน์หนึ่งพันล้านโดยประมาณการส่งแต่ละปี ทำให้วันวาเลนไทน์ที่สองที่ใหญ่ที่สุดส่งการ์ดวันปี (บัตร 2.6 พันล้านโดยประมาณจะถูกส่งสำหรับคริสต์มาส)ที่ผู้หญิงซื้อประมาณร้อยละ 85 ของวาเลนไทน์ทั้งหมด นอกจากสหรัฐอเมริกา วันวาเลนไทน์เป็นการเฉลิมฉลองในแคนาดา เม็กซิโก ไทย ฝรั่งเศส และออสเตรเลียคำอวยพรวาเลนไทน์เป็นที่นิยมย้อนกลับไปยุคกลาง (เขียนวาเลนไทน์ไม่เริ่มจนกว่าหลังจาก 1400), และวาเลนไทน์รู้จักเก่าบัตรจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษ อวยพรวันวาเลนไทน์พาณิชย์แรกการ์ดที่ผลิตในสหรัฐอเมริกาได้สร้างขึ้นในถึงทศวรรษ 1840 โดยฮาวแลนด์ A. เอสเธอร์ ฮาวแลนด์ เป็นแม่ของวาเลนไทน์ ผู้สร้างสรรค์อย่างประณีต ด้วยจริงลูกไม้ ริบบิ้นและรูปภาพมีสีสันที่เรียกว่า "ของเสีย"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เด็กชายแล้วหั่นบาง ๆ ซ่อนแพะเป็นเส้นจุ่มพวกเขาในเลือดบูชายัญและพาไปที่ถนนเบา ๆ ตบทั้งผู้หญิงและสาขาของพืชด้วยแถบ goathide ห่างไกลจากการกลัวผู้หญิงโรมันยินดีถูกสัมผัสกับหนังเพราะมันเป็นความเชื่อแถบจะทำให้พวกเขามีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นในปีที่ผ่านมา ต่อมาในวันที่ตามตำนานทั้งหมดที่หญิงสาวในเมืองจะวางชื่อของพวกเขาในโกศขนาดใหญ่ ตรีของเมืองจะแล้วแต่ละเลือกชื่อออกจากโกศและกลายเป็นที่จับคู่สำหรับปีกับผู้หญิงที่เขาเลือก การแข่งขันเหล่านี้มักจะจบลงด้วยการแต่งงาน สมเด็จพระสันตะปาปา Gelasius ประกาศวันที่ 14 กุมภาพันธ์เซนต์วาเลนไทน์รอบ 498 AD โรมัน 'หวย' ระบบสำหรับการจับคู่ที่โรแมนติกก็ถือว่ายกเลิกคริสเตียนและกรรม ต่อมาในช่วงยุคกลางก็เชื่อกันทั่วไปในฝรั่งเศสและอังกฤษที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นจุดเริ่มต้นของฤดูผสมพันธุ์นกซึ่งเพิ่มให้กับความคิดที่ว่ากลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ - วันวาเลนไทน์ - ควรจะเป็นวันสำหรับความโรแมนติก ที่รู้จักกันในวันวาเลนไทน์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงดำรงอยู่ในปัจจุบันเป็นบทกวีที่เขียนโดยชาร์ลส์ดยุคแห่งออร์ลีนภรรยาของเขาในขณะที่เขาถูกขังอยู่ในหอคอยแห่งลอนดอนต่อไปนี้การจับภาพของเขาที่รบของจิน คำอวยพรที่เขียนใน 1415 เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันที่เขียนด้วยลายมือของห้องสมุดอังกฤษในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ หลายปีต่อมาก็เป็นที่เชื่อว่ากษัตริย์เฮนรี่วีได้รับการว่าจ้างนักเขียนชื่อจอห์น Lydgate การเขียนโน้ตวาเลนไทน์ของแคทเธอรีวาลัวส์. ในสหราชอาณาจักรวันวาเลนไทน์เริ่มที่จะมีการเฉลิมฉลองที่นิยมรอบศตวรรษที่สิบเจ็ด โดยช่วงกลางของศตวรรษที่สิบแปดมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเพื่อน ๆ และคนรักในสังคมทุกชนชั้นในการแลกเปลี่ยนราชสกุลเล็ก ๆ ของความรักหรือบันทึกด้วยลายมือ ในตอนท้ายของศตวรรษที่พิมพ์บัตรเริ่มที่จะแทนที่ตัวอักษรที่เขียนเนื่องจากการปรับปรุงในด้านเทคโนโลยีการพิมพ์ บัตรพร้อมทำมีวิธีที่ง่ายสำหรับคนที่จะแสดงอารมณ์ของพวกเขาในช่วงเวลาที่แสดงออกโดยตรงของความรู้สึกของคนเป็นกำลังใจ อัตราค่าจัดส่งทางไปรษณีย์ราคาถูกนอกจากนี้ยังก่อให้เกิดขึ้นในความนิยมของการส่งคำอวยพรวาเลนไทน์วัน ชาวอเมริกันอาจจะเริ่มแลกเปลี่ยนวาเลนไทน์ทำมือในช่วงต้นยุค 1700 ในยุค 1840, เอสเธอร์เอฮาวเริ่มที่จะขายวาเลนไทน์มวลผลิตครั้งแรกในอเมริกา. ตามที่สมาคมบัตรอวยพรประมาณหนึ่งพันล้านการ์ดวาเลนไทน์จะถูกส่งไปในแต่ละปีทำให้วันวาเลนไทน์การ์ดวันหยุดส่งใหญ่เป็นอันดับสองของ ปี. (ประมาณ 2600000000 บัตรจะถูกส่งสำหรับคริสต์มาส.) ประมาณร้อยละ 85 ของวาเลนไทน์ทั้งหมดจะถูกซื้อโดยผู้หญิง นอกเหนือไปจากสหรัฐอเมริกาวันวาเลนไทน์มีการเฉลิมฉลองในแคนาดา, เม็กซิโก, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศสและออสเตรเลีย. ทักทายวาเลนไทน์เป็นที่นิยมไกลกลับเป็นยุคกลาง (เขียนวาเลนไทน์ไม่ได้เริ่มปรากฏให้เห็นจนกระทั่งหลังจากที่ 1400) และเก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันการ์ดวาเลนไทน์แสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกฤษ เชิงพาณิชย์ครั้งแรกวันวาเลนไทน์การ์ดอวยพรที่ผลิตในสหรัฐที่ถูกสร้างขึ้นในยุค 1840 โดยเอสเธอร์เอฮาว ฮาวเป็นที่รู้จักในฐานะที่เป็นแม่ของวาเลนไทน์ทำให้การสร้างสรรค์อย่างประณีตด้วยลูกไม้จริงริบบิ้นและภาพที่มีสีสันที่เรียกว่า "เศษ"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เด็กชายแล้วหั่นซ่อนของแพะเป็นแถบ จุ่มลงในเลือด เสียสละและพาไปที่ถนนค่อยๆตบทั้งผู้หญิงและสาขาของพืชกับ goathide แถบ ห่างไกลจากการหวาดกลัวผู้หญิงโรมันยินดีถูกสัมผัสกับซ่อน เพราะมันไม่เชื่อ แถบจะให้อุดมสมบูรณ์มากขึ้นในปีมา . ต่อมาในวันที่ตามตำนาน หญิงสาวทั้งหมดในเมืองจะวางชื่อของพวกเขาในผอบใหญ่ ตรีของเมืองแล้วจะเลือกชื่อออกจากโกศและกลายเป็นคู่สำหรับปีกับผู้หญิงที่เขาเลือก เหล่านี้การแข่งขันมักจะสิ้นสุดในการแต่งงาน สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสประกาศกุมภาพันธ์ 14 เซนต์วันวาเลนไทน์ประมาณ 498 AD โรมัน ' หวย ' ระบบสำหรับโรแมนติกคู่ถือว่าอุนคริสเตียนและผิดกฎหมาย . ต่อมาในสมัยกลางก็เชื่อกันโดยทั่วไปในฝรั่งเศสและอังกฤษที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นจุดเริ่มต้นของฤดูผสมพันธุ์นก ' ซึ่งเป็นแนวคิดที่กลางเดือนกุมภาพันธ์ - วาเลนไทน์ - ควรเป็นวันที่โรแมนติก . ที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักวาเลนไทน์ยังคงมีอยู่ในวันนี้เป็นบทกวีที่เขียนโดยชาร์ลส์ ดยุคแห่งออร์ลีนส์ ภรรยาของเขาในขณะที่เขาถูกขังอยู่ในหอคอยของลอนดอนตามจับเขาได้ในยุทธการอาแฌ็งกูร์ . การทักทาย ซึ่งถูกเขียนขึ้นใน 1415 , เป็นส่วนหนึ่งของการเก็บต้นฉบับในหอสมุดแห่งชาติอังกฤษในลอนดอน , อังกฤษ หลายปีต่อมา เชื่อกันว่ากษัตริย์เฮนรี่วี จ้างนักเขียนที่ชื่อจอห์นลิดเกตแต่งวาเลนไทน์หมายเหตุแคทเธอรินแห่งวาลัวส์ .ในอังกฤษ , วันวาเลนไทน์เริ่มเป็นที่นิยมเฉลิมฉลองรอบศตวรรษที่ 17 โดยช่วงกลางของศตวรรษที่สิบแปดมันเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนๆและคนรักในชั้นเรียนสังคมทั้งหมดในการแลกเปลี่ยนสัญญาณขนาดเล็กของความรักหรือบันทึกที่เขียนด้วยลายมือ ในตอนท้ายของศตวรรษที่ , บัตรพิมพ์เริ่มแทนที่เขียนตัวอักษรเนื่องจากการปรับปรุงในเทคโนโลยีการพิมพ์ การ์ดสำเร็จรูปมีวิธีการง่ายๆสำหรับคนที่จะแสดงอารมณ์ของพวกเขาในเวลาหนึ่งโดยการแสดงออกของความรู้สึกก็ท้อ ราคาแสตมป์ราคายังสนับสนุนการเพิ่มขึ้นในความนิยมของการส่งวาเลนไทน์ ทักทาย ชาวอเมริกันอาจเริ่มการแลกเปลี่ยนการ์ดทำมือใน 1700s ต้น ในอังกฤษ เอสเธอร์ . ฮาวแลนด์เริ่มขายครั้งแรกเป็นวาเลนไทน์ที่อเมริกาตามที่การ์ดสมาคม , ประมาณหนึ่งพันล้านวาเลนไทน์บัตรจะถูกส่งไปในแต่ละปีทำให้วันวาเลนไทน์บัตรส่งวันหยุดที่ใหญ่ที่สุดที่สองของปี ( ประมาณ 2.6 พันล้านการ์ดถูกส่งสำหรับคริสต์มาส )ประมาณร้อยละ 85 ของวาเลนไทน์ถูกซื้อโดยผู้หญิง นอกจากสหรัฐอเมริกา วันวาเลนไทน์มีการเฉลิมฉลองในแคนาดา , เม็กซิโก , อังกฤษ , ฝรั่งเศสและออสเตรเลียทักทายวาเลนไทน์เป็นที่นิยมเท่าที่ยุคกลาง ( เขียน วันวาเลนไทน์ไม่ได้เริ่มปรากฏจนกว่า 1400 ) , และการ์ดวาเลนไทน์ที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันเป็นบนจอแสดงผลในพิพิธภัณฑ์ของอังกฤษ พาณิชย์แรกวันวาเลนไทน์บัตรอวยพรที่ผลิตในสหรัฐฯ วันที่ถูกสร้างขึ้นใน 1840 โดยเอสเธอร์ฮาวแลนด์ . . . ฮาวแลนด์ เป็นแม่ของ วาเลนไทน์ ทำให้การสร้างที่ซับซ้อนด้วยลูกไม้จริง ริบบิ้นและภาพที่มีสีสัน เรียกว่า " เศษ "