The euro is managed and administere

The euro is managed and administered by the Frankfurt-based European Central Bank (ECB) and the Eurosystem (composed of the central banks of the eurozone countries). As an independent central bank, the ECB has sole authority to set monetary policy. The Eurosystem participates in the printing, minting and distribution of notes and coins in all member states, and the operation of the eurozone payment systems.
The 1992 Maastricht Treaty obliges most EU member states to adopt the euro upon meeting certain monetary and budgetary convergence criteria, although not all states have done so. The United Kingdom and Denmark negotiated exemptions,[12] while Sweden (which joined the EU in 1995, after the Maastricht Treaty was signed) turned down the euro in a 2003 referendum, and has circumvented the obligation to adopt the euro by not meeting the monetary and budgetary requirements. All nations that have joined the EU since 1993 have pledged to adopt the euro in due course.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เงินยูโรมีการจัดการและบริหารงานโดยแฟรงค์เฟิร์ตตามธนาคารกลางยุโรป (ECB) และ Eurosystem (ประกอบด้วยธนาคารกลางของประเทศในยูโรโซน) ในฐานะที่เป็นธนาคารกลางที่เป็นอิสระ ECB มีอำนาจ แต่เพียงผู้เดียวในการกำหนดนโยบายการเงิน Eurosystem มีส่วนร่วมในการพิมพ์การผลิตเหรียญและการกระจายของธนบัตรและเหรียญในทุกประเทศสมาชิกและการดำเนินงานของระบบการชำระเงินยูโรโซน.
สนธิสัญญา 1992 บังคับมากที่สุดประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่จะนำมาใช้เงินยูโรเมื่อการประชุมเกณฑ์ลู่การเงินและงบประมาณบางอย่างแม้ว่าจะไม่ทุกรัฐได้ทำเพื่อ สหราชอาณาจักรเดนมาร์กและการเจรจาต่อรองข้อยกเว้น [12] ในขณะที่สวีเดน (ซึ่งเข้าร่วมสหภาพยุโรปในปี 1995หลังจากสนธิสัญญา maastricht ลงนาม) หันมาเงินยูโรในการลงประชามติ 2003 และมีการโกงหน้าที่ที่จะต้องนำมาใช้เงินยูโรโดยไม่สนองความต้องการทางการเงินและงบประมาณ ทุกประเทศที่ได้เข้าร่วมสหภาพยุโรปตั้งแต่ปี 1993 ได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะนำมาใช้เงินยูโรในหลักสูตรเนื่องจาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยูโร มีจัดการ และดูแล โดยกลางแฟรงค์เฟิร์ตจากยุโรปธนาคารกลางแห่ง) และ Eurosystem (ประกอบด้วยธนาคารกลางของประเทศยูโรโซน) ธนาคารกลางมีอิสระ กลางแห่งการมีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวเพื่อกำหนดนโยบายการเงิน Eurosystem การมีส่วนร่วมในการพิมพ์ minting และจำหน่ายตั๋วและเหรียญในรัฐสมาชิกทั้งหมด และการดำเนินงานของยูโรโซนชำระเงินระบบ
สนธิสัญญามาสทริชต์ 1992 obliges รัฐสมาชิกของ EU ส่วนใหญ่จะนำมาใช้ยูโรเมื่อตรงกับเงื่อนไขการลู่เข้าการเงิน และงบประมาณ แม้ว่าอเมริกาไม่ได้ทำการ สหราชอาณาจักรและเดนมาร์กเจรจา exemptions, [12] ในขณะที่สวีเดน (ซึ่งเข้าร่วม EU ในปี 1995 หลังจากมีการลงนามสนธิสัญญามาสทริชต์) เปิดลงยูโรใน 2003 และมีข้อผูกมัดเพื่อนำมาใช้ยูโร โดยไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางการเงิน และงบประมาณที่คนนั้น ทุกประเทศที่ได้เข้าร่วม EU ตั้งแต่ 1993 ได้บริจาคเพื่อนำมาใช้ยูโรในครบกำหนดหลักสูตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟุตบอลยูโรได้รับการจัดการและบริหารงานโดยธนาคารกลางยุโรป Frankfurt (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผล)และ eurosystem (ประกอบด้วยธนาคารกลางของประเทศกลุ่มยูโร) เป็นธนาคารกลางที่มีความเป็นอิสระได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลที่มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการตั้งค่านโยบายการเงิน eurosystem ได้มีส่วนร่วมในการจัดจำหน่ายและ minting การพิมพ์และบันทึกเหรียญในประเทศสมาชิกทั้งหมดและการทำงานของระบบการชำระเงินกลุ่มยูโร.
1992 Maastricht สนธิสัญญาทางการเกษตรรัฐสมาชิก สหภาพ ยุโรปส่วนใหญ่จะนำเงินยูโรที่เมื่อการประชุมผู้นำชีวิต Convergence Lifestyle เกณฑ์การเงินงบประมาณและบางอย่างแต่ไม่ใช่ทั้งหมดรัฐได้ทำไปแล้ว สหราชอาณาจักรและเดนมาร์กเจรจาการยกเว้น[ 12 ]ในขณะที่สวีเดน(ซึ่งเข้าร่วม สหภาพ ยุโรปในปี 1995หลังจาก Maastricht สนธิสัญญานี้ได้ลงนาม)ก็หันมาลงเงินยูโร 2003 ในการออกเสียงประชามติและมี circumvented ภาระ ผูกพันที่จะใช้เงินยูโรโดยไม่จำเป็นการประชุมการเงินและงบประมาณที่ ประเทศทั้งหมดที่ได้เข้าร่วม สหภาพ ยุโรปที่มีมาตั้งแต่ปี 1993 จะใช้เงินยูโรที่ในหลักสูตรเนื่องจาก