Papaya are climacteric and begin to

Papaya are climacteric and begin to yellow from the
blossom end (Akamine 1966). See Table 1 for respiration
rates at specific temperatures.
To get mL kg-1 h-1, divide the mg kg-1 h-1rate by 2.0
at 0°C (32°F), 1.9 at 10°C (50°F), and 1.8 at 20°C (68°F).
To calculate heat production, multiply mg kg-1 h-1 by
220 to get BTU per ton per day or by 61 to get kcal per
metric ton per day

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มะละกอมี climacteric และเริ่มเหลืองจากการดอกสุดท้าย (อะคามิเนะ 1966) ดูตารางที่ 1 การหายใจราคาพิเศษที่อุณหภูมิเฉพาะรับ mL 1 กก. h-1 แบ่งมก.กก.-1 h-1rate โดย 2.0ที่ 0° C (32° F), 1.9 10° c (50° F), และ 1.8 ที่ 20° C (68° F)การคำนวณการผลิตความร้อน คูณ h-1 กก.-1 มิลลิกรัมโดย220 รับ BTU ต่อตัน ต่อวัน หรือ 61 กิโลแคลอรี่ต่อการเมตริกตันต่อวัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะละกอเป็นจุดสำคัญในชีวิตและเริ่มเป็นสีเหลืองจาก
ปลายดอก (Akamine 1966) ดูตารางที่ 1 สำหรับการหายใจ
อัตราที่อุณหภูมิเฉพาะ.
ที่จะได้รับมล KG-1 H-1, แบ่งมิลลิกรัมกิโลกรัม-1 H-1rate 2.0
ที่ 0 ° C (32 ° F) 1.9 ที่ 10 ° C (50 ° F ) และ 1.8 ที่ 20 ° C (68 ° F).
ในการคำนวณการผลิตความร้อนคูณมิลลิกรัมกิโลกรัม-1 H-1 โดย
220 จะได้รับบีทียูต่อตันต่อวันหรือ 61 กิโลแคลอรีที่จะได้รับต่อ
เมตริกตันต่อวัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มะละกอจะหมดและเริ่มเหลืองจากดอกสุดท้าย ( akamine 1966 ) ดูจากตารางที่ 1 สำหรับการหายใจอัตราที่อุณหภูมิเฉพาะรับ kg-1 มิลลิลิตร ส่วนแบ่ง kg-1 h-1rate โดย 2.0 มิลลิกรัมต่อลิตรที่ 0 ° C ( 32 ° F ) ที่ 10 ° C ( 50 1.9 ° F ) และ 1.8 ที่ 20 ° C ( 68 ° F )คำนวณ การผลิตความร้อน คูณมิลลิกรัม kg-1 ส่วนโดย220 เพื่อให้ได้บีทียูต่อตันต่อวัน หรือ 61 ได้รับกิโลแคลอรีต่อตันต่อวัน