Abstract. For many years, theories

Abstract. For many years, theories of collaborative learning
tended to focus on how individuals function in a group. More
recently, the focus has shifted so that the group itself has become
the unit of analysis. In terms of empirical research, the initial goal
was to establish whether and under what circumstances
collaborative learning was more effective than learning alone.
Researchers controlled several independent variables (size of the
group, composition of the group, nature of the task,
communication media, and so on). However, these variables
interacted with one another in a way that made it almost
impossible to establish causal links between the conditions and the
effects of collaboration. Hence, empirical studies have more
recently started to focus less on establishing parameters for
effective collaboration and more on trying to understand the role
which such variables play in mediating interaction. In this chapter,
we argue that this shift to a more process-oriented account
requires new tools for analysing and modelling interactions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อ หลายปี ทฤษฎีร่วมกันเรียนรู้มีแนวโน้มให้ ความสำคัญกับวิธีการที่บุคคลทำงานในกลุ่ม เพิ่มเติมล่าสุด โฟกัสได้เปลี่ยนให้กลุ่มตัวเองได้กลายเป็นหน่วยของการวิเคราะห์ ในแง่ของผลวิจัย เป้าหมายเริ่มต้นจะสร้างหรือไม่ และภาย ใต้สถานการณ์ใดเรียนรู้ร่วมกันได้มีประสิทธิภาพกว่าการเรียนรู้เพียงอย่างเดียวนักวิจัยควบคุมตัวแปรอิสระต่าง ๆ (ขนาดของการกลุ่ม องค์ประกอบของกลุ่ม ลักษณะของงานสื่อสื่อสาร และอื่น ๆ) อย่างไรก็ตาม ตัวแปรเหล่านี้อาจ มีอีกวิธีที่ทำให้มันเกือบไม่สามารถสร้างการเชื่อมโยงเชิงสาเหตุระหว่างเงื่อนไขและผลของการทำงานร่วมกัน ดังนั้น มีผลการศึกษาเพิ่มเติมเพิ่ง เริ่มให้ความสำคัญน้อยในการกำหนดพารามิเตอร์สำหรับความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพและมากขึ้นในการพยายามเข้าใจบทบาทตัวแปรดังกล่าวที่เล่นในการโต้ตอบการเป็นสื่อกลาง ในบทนี้เราโต้แย้งที่นี้กะบัญชีเพิ่มเติมกระบวนการมุ่งเน้นต้องใช้เครื่องมือใหม่สำหรับการวิเคราะห์ และสร้างแบบจำลองการโต้ตอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นามธรรม หลายปีที่ผ่านทฤษฎีการเรียนรู้ร่วมกัน
มีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นไปที่วิธีการที่บุคคลที่ทำงานในกลุ่ม อื่น ๆ
เมื่อเร็ว ๆ นี้โฟกัสได้เปลี่ยนเพื่อให้กลุ่มของตัวเองได้กลายเป็น
หน่วยในการวิเคราะห์ ในแง่ของการวิจัยเชิงประจักษ์เป้าหมายแรก
คือการกำหนดว่าและภายใต้สถานการณ์
เรียนรู้ร่วมกันเป็นมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าการเรียนรู้เพียงอย่างเดียว.
นักวิจัยควบคุมตัวแปรอิสระหลายคน (ขนาดของ
กลุ่มองค์ประกอบของกลุ่มธรรมชาติของงาน
สื่อการสื่อสาร และอื่น ๆ ) อย่างไรก็ตามตัวแปรเหล่านี้
มีความสัมพันธ์กับคนอื่นในทางที่ทำให้มันเกือบจะ
เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างการเชื่อมโยงสาเหตุระหว่างเงื่อนไขและ
ผลกระทบของการทำงานร่วมกัน ดังนั้นการศึกษาเชิงประจักษ์ได้มากขึ้น
เริ่มต้นเมื่อเร็ว ๆ นี้จะให้ความสำคัญน้อยลงในการสร้างพารามิเตอร์สำหรับ
การทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพยายามที่จะเข้าใจบทบาท
ซึ่งตัวแปรดังกล่าวเล่นในปฏิสัมพันธ์ไกล่เกลี่ย ในบทนี้
เรายืนยันว่าการเปลี่ยนไปใช้บัญชีของกระบวนการที่มุ่งเน้นมากขึ้นนี้
ต้องใช้เครื่องมือใหม่สำหรับการวิเคราะห์และการมีปฏิสัมพันธ์การสร้างแบบจำลอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม เป็นเวลาหลายปี , ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ
มีแนวโน้มที่จะเน้นวิธีการที่บุคคลที่ทำงานในกลุ่ม เพิ่มเติม
เมื่อเร็ว ๆนี้ , โฟกัสได้เปลี่ยน เพื่อให้กลุ่มตัวเองได้กลายเป็น
หน่วยของการวิเคราะห์ ในแง่ของการวิจัยเชิงประจักษ์ ,
เป้าหมายเริ่มต้นในการสร้างว่าภายใต้สิ่งที่เรียนรู้ร่วมกันและมีประสิทธิภาพมากกว่าการเรียนรู้สถานการณ์

อยู่คนเดียวโดยควบคุมตัวแปรอิสระหลาย ( ขนาดของ
กลุ่ม องค์ประกอบของกลุ่ม ลักษณะของงาน
สื่อและอื่น ๆ ) อย่างไรก็ตาม ตัวแปรเหล่านี้
ปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นในทางที่ทำให้มันเกือบเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้าง
สาเหตุการเชื่อมโยงระหว่างเงื่อนไขและผลของความร่วมมือ ดังนั้น การศึกษาเชิงประจักษ์มี
เพิ่งเริ่มโฟกัสน้อยกว่าการสร้างพารามิเตอร์สำหรับความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพและมากขึ้น

พยายามที่จะเข้าใจบทบาทซึ่งตัวแปรดังกล่าวเล่นในขณะปฏิสัมพันธ์ ในบทนี้
เราโต้เถียงว่า นี้กะมากขึ้น เน้นกระบวนการบัญชี
ต้องการเครื่องมือใหม่สำหรับการวิเคราะห์และการสร้างแบบจำลองการโต้ตอบ