Smeaton was born in Austhorpe, Leed

Smeaton was born in Austhorpe, Leeds, England. After studying at Leeds Grammar School he joined his father's law firm, but left to become a mathematical instrument maker (working with Henry Hindley), developing, among other instruments, a pyrometer to study material expansion and a whirling speculum or horizontal top (a maritime navigation aid).

He was elected a Fellow of the Royal Society in 1753, and in 1759 won the Copley Medal for his research into the mechanics of waterwheels and windmills. His 1759 paper "An Experimental Enquiry Concerning the Natural Powers of Water and Wind to Turn Mills and Other Machines Depending on Circular Motion"[1] addressed the relationship between pressure and velocity for objects moving in air (Smeaton noted that the table doing so was actually contributed by "my friend Mr Rouse" "an ingenious gentleman of Harborough, Leicestershire" and calculated on the basis of Rouse's experiments), and his concepts were subsequently developed to devise the 'Smeaton Coefficient'.[2] Smeaton's water wheel experiments were conducted on a small scale model with which he tested various configurations over a period of seven years.[3] The resulting increasing efficiency in water power contributed to the Industrial Revolution.

Over the period 1759–1782 he performed a series of further experiments and measurements on waterwheels that led him to support and champion the vis viva theory of German Gottfried Leibniz, an early formulation of conservation of energy. This led him into conflict with members of the academic establishment who rejected Leibniz's theory, believing it inconsistent with Sir Isaac Newton's conservation of momentum.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Smeaton เกิดใน Austhorpe ลีดส์ อังกฤษ หลังจากเรียนที่โรงเรียนไวยากรณ์ลีดส์ เขาร่วมบิดากฎหมายบริษัท แต่ซ้ายจะกลายเป็น เครื่องมือทางคณิตศาสตร์ชง (ทำงานกับเฮนรี่ Hindley) , พัฒนา ในหมู่เครื่องมืออื่น ๆ pyrometer ศึกษาขยายวัสดุ และ whirling speculum หรือด้านแนวนอน (ช่วยนำทางทางทะเล)เขาได้รับเลือกเพื่อนของราชสมาคมแห่งลอนดอน ใน 1753 และชนะเหรียญทโคบเลย์วิจัยของเขาลงในรายละเอียดของ waterwheels และ windmills 1759 กระดาษ 1759 เขา "อันทดลองสอบถามเกี่ยวกับธรรมชาติอำนาจของน้ำและลมการเปิดโรงงานและอื่น ๆ เครื่องใน Depending กลม" [1] อยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างความดันและความเร็วของวัตถุในอากาศ (Smeaton กล่าวว่า ตารางที่ทำได้จริงส่วน "แยบยลสุภาพบุรุษของ Harborough เลสเตอร์เชอร์" โดย "เพื่อนนายปลุก" และคำนวณการปลุกของการทดลอง) และแนวคิดของเขาในเวลาต่อมาได้พัฒนาประดิษฐ์ 'สัมประสิทธิ์ Smeaton' [2] Smeaton ล้อน้ำได้ดำเนินการทดลองในรูปแบบขนาดเล็กที่เขาทดสอบหลากหลายในช่วงเจ็ดปี [3] การส่งผลการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานน้ำส่วนการปฏิวัติอุตสาหกรรมระยะ 1759-1782 เขาทำชุดทดลองเพิ่มเติมและหน่วยวัดบน waterwheels ที่เขาสนับสนุน และแชมเปี้ยนทฤษฎีวีวิเยอรมัน Gottfried Leibniz การกำหนดช่วงของกฎทรงพลังงาน นี้นำเขาไปขัดแย้งกับสมาชิกของสถานประกอบการศึกษาที่ปฏิเสธทฤษฎีของ Leibniz เชื่อสอดคล้องกับเซอร์ไอแซกนิวตันอนุรักษ์โมเมนตัม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Smeaton เกิดใน Austhorpe ลีดส์ประเทศอังกฤษ หลังจากเรียนที่ลีดส์โรงเรียนมัธยมเขาร่วมงานกับ บริษัท กฎหมายของบิดาของเขา แต่ที่จะกลายเป็นผู้ผลิตเครื่องมือทางคณิตศาสตร์ (การทำงานร่วมกับเฮนรี่ Hindley) การพัฒนาในหมู่เครื่องมืออื่น ๆ เป็นเครื่องวัดเพื่อศึกษาการขยายตัวของวัสดุและถ่างปั่นป่วนหรือด้านบนแนวนอน (เป็นทางทะเล ช่วยนำทาง). เขาได้รับเลือกเป็นเพื่อนของ Royal Society ใน 1,753 และ 1759 ได้รับรางวัลเหรียญ Copley สำหรับการวิจัยของเขาเข้าไปในกลไกของ waterwheels และกังหันลม 1759 กระดาษของเขา "สอบถามการทดลองเกี่ยวกับพลังธรรมชาติของน้ำและลมการเปิดโรงสีและเครื่องอื่น ๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหววงกลม" [1] การแก้ไขความสัมพันธ์ระหว่างความดันและความเร็วสำหรับวัตถุที่เคลื่อนที่ในอากาศ (Smeaton ตั้งข้อสังเกตว่าตารางการทำเช่นนั้นเป็น มีส่วนจริงโดย "เพื่อนของฉันนายปลุก" "สุภาพบุรุษแยบยลของฮาร์เลสเตอร์เชียร์" และคำนวณบนพื้นฐานของการทดลองของ Rouse) และแนวความคิดของเขาได้รับการพัฒนาต่อมาประดิษฐ์ 'Smeaton ค่าสัมประสิทธิ์'. [2] Smeaton ทดลองกังหันน้ำได้ ดำเนินการในรูปแบบขนาดเล็กที่เขาผ่านการทดสอบการกำหนดค่าต่างๆในช่วงเจ็ดปี. [3] ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ประสิทธิภาพในการใช้พลังงานน้ำส่วนร่วมในการปฏิวัติอุตสาหกรรม. ในช่วง 1759-1782 ที่เขาดำเนินการชุดของการทดลองต่อไปและการวัด ใน waterwheels ที่ทำให้เขาให้การสนับสนุนและแชมป์ทฤษฎีพิพาทวีวาเยอรมัน Gottfried Leibniz, สูตรต้นของการอนุรักษ์พลังงาน นี้นำเขาไปสู่ความขัดแย้งกับสมาชิกของสถานประกอบการนักวิชาการที่ปฏิเสธทฤษฎีไลบนิซเชื่อว่ามันไม่สอดคล้องกับการอนุรักษ์เซอร์ไอแซกนิวตันของโมเมนตัม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมีเติ้นเกิดใน austhorpe , Leeds ประเทศอังกฤษ หลังจากเรียนโรงเรียนมัธยมที่ลีดส์เขาเข้าร่วมกับ บริษัท กฎหมายของบิดา แต่ซ้าย เป็นผู้ผลิตเครื่องมือทางคณิตศาสตร์ ( ทำงานกับเฮนรี่ฮินด์ลีย์ ) , การพัฒนาของเครื่องมืออื่น ๆ , วัดอุณหภูมิเพื่อศึกษาการขยายตัวของวัสดุและ Speculum ขว้างหรือแนวนอนด้านบน ( เครื่องช่วยการเดินเรือ ) .

เขาได้รับเลือกเพื่อนของ Royal Society ใน 1144 และใน 1759 ได้รับรางวัลเหรียญ Copley สำหรับการวิจัยของเขาในกลไกของ waterwheels และกังหันลม1759 กระดาษของเขา " ทดลองสอบถามเกี่ยวกับธรรมชาติ พลังของน้ำและลมในการเปิดโรงงานและเครื่องจักรอื่น ๆขึ้นอยู่กับลักษณะเป็นวงกลม " [ 1 ] กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างความดันและความเร็ว สำหรับวัตถุที่เคลื่อนที่ในอากาศ ( สมีเติ้นสังเกตว่าโต๊ะทำดังนั้นก็สนับสนุนโดย " เพื่อนนายฟื้น " แยบยล " สุภาพบุรุษของ harborough ,เลสเตอร์และคำนวณบนพื้นฐานของการกระตุ้นของการทดลอง ) และแนวคิดของเขาได้รับการพัฒนาต่อมาประดิษฐ์ ' สมีเติ้นสัมประสิทธิ์ ' [ 2 ] สมีเติ้นน้ำล้อการทดลองในรูปแบบมาตราส่วนขนาดเล็กที่เขาทดสอบระบบต่างๆในช่วง 7 ปี [ 3 ] ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในน้ำ พลังสนับสนุนการปฏิวัติอุตสาหกรรม .

ช่วง 1759 – 1782 เขาแสดงชุดของการวัดและการทดลองเพิ่มเติมใน waterwheels ที่พาเขาไปสนับสนุน และแชมป์วิสวีว่า ทฤษฎีของเยอรมันวอลต์ดิสนีย์เวิลด์รีสอร์ต เป็นสูตรแรกของการอนุรักษ์พลังงาน นี้ทำให้เขากลายเป็นความขัดแย้งกับสมาชิกในการปฏิเสธทฤษฎีทางวิชาการที่ไลบ์นิซได้เชื่อว่ามันไม่สอดคล้องกับเซอร์ ไอแซก นิวตัน การอนุรักษ์โมเมนตัม .