Plant regeneration was achieved fro

Plant regeneration was achieved from cells of callus induced from hypocotyl segments of Bauhinia forficata on halfstrength Murashige and Skoog culture medium supplemented with several concentrations of BAP. Within 40 days ofculture shoot buds formation was observed on callus surface. Calli were then transferred to a same compositionculture medium without plant growth regulator in order to induce shoot elongation. Histological studies indicatedthat in vitro plant regeneration in B. forficata occurred through indirect organogenesis. Meristemoids consisting ofsmall cells with dense cytoplasm and prominent nuclei were randomly distributed throughout the callus surfaceindicating early stages of shoot bud differentiation. Shoots developed de novo from superficial layers of cells and thepattern of shoot origin and development were very similar to those previously described for other leguminousspecies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การฟื้นฟูโรงงานก็ประสบความสำเร็จจากเซลล์ของแคลลัสจากการเหนี่ยวนำของกลุ่ม hypocotyl Bauhinia Forficata halfstrength ในอาหารสูตร Murashige และขนาดกลางวัฒนธรรมกุคเสริมที่มีความเข้มข้นหลาย BAP ภายใน 40 วัน ofculture ตายิงก่อพบว่าบนพื้นผิวแคลลัส แคลลัสที่ถูกย้ายไปเป็นสื่อ compositionculture เดียวกันโดยไม่ต้องควบคุมการเจริญเติบโตในการสั่งซื้อที่จะทำให้เกิดการยืดตัวยิง การศึกษาเนื้อเยื่อในหลอดทดลอง indicatedthat ฟื้นฟูโรงงานบี forficata ที่เกิดขึ้นผ่านทางอวัยวะทางอ้อม Meristemoids ofsmall ประกอบด้วยเซลล์ที่มีพลาสซึมหนาแน่นและนิวเคลียสที่โดดเด่นมีการกระจายแบบสุ่มแคลลัสตลอดระยะแรกของการถ่าย surfaceindicating ความแตกต่างของตา หน่อพัฒนาโนโวจากชั้นตื้นของเซลล์และ thepattern แหล่งกำเนิดของการถ่ายภาพและการพัฒนามีความคล้ายกันมากกับที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้สำหรับ leguminousspecies อื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟื้นฟูเซลล์ของพืชที่ได้จากนำแคลลัสที่ได้จากระบบ ส่วนของ forficata บนอาหารสูตร Murashige และ Skoog ชงโค halfstrength อาหารเลี้ยงเชื้อสูตรที่มีความเข้มข้นต่างๆ ที่เหมาะสม ภายใน 40 วัน ofculture ตายิงถูกพบบนพื้นผิวการเกิดแคลลัสแคลลัสแล้วโอนไปยังตัวกลาง compositionculture เดียวกันโดยไม่ต้องควบคุมการเจริญเติบโตพืชเพื่อให้เกิดยิงด . ผลการศึกษาพบว่าในการเพาะเลี้ยงในโรงพ. forficata เกิดขึ้นผ่านแกโนเจเนซีสในทางอ้อมmeristemoids ประกอบด้วยเซลล์ขนาดเล็กที่มีไซโตพลาสซึมหนาแน่นและเด่นของสุ่มกระจายทั่วอาหาร surfaceindicating ช่วงแรกของการยิงตูม . ยิงขึ้นอีกครั้งจากผิวชั้นของเซลล์และรูปแบบดั้งเดิมของยิงและพัฒนามาก คล้ายกับที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้
leguminousspecies อื่น ๆ