The basic thrust of the social risk

The basic thrust of the social risk management framework is supported by two established facts: (i) The poor are typically most exposed to diverse risks, whether they are natural (such as earthquakes, flooding or illness) or man-made ( such as unemployment, environmental degradation or war), and (i) the poor have the fewest instruments to deal with these risks ( such as access to government provided income support and market-based instruments like insurance). This facts have important consequences, most importantly: (i) the poor are the most vulnerable in society and shocks are likely to have the strongest welfare consequences for them. For welfare reasons, therefore, they should have increase access to social risk management instruments: and (ii) the high vulnerability makes them risk averse and thus unable or unwilling to engage in higher risk/higher return activities. Hence, access to social risk management instruments would tend to make the poor more risk-taking and thus provide the opportunity to gradually move out of poverty.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระตุกพื้นฐานของกรอบการบริหารความเสี่ยงทางสังคมสนับสนุนข้อเท็จจริงขึ้นสอง: (i) คนจนกำลังปกติสุดเผชิญกับความเสี่ยงหลากหลาย ว่าพวกเขาเป็นธรรมชาติ (เช่นแผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือการเจ็บป่วย) หรือมนุษย์สร้างขึ้น (เช่นการว่างงาน สิ่งแวดล้อมย่อยสลาย หรือสงคราม), และ (i) คนจนมีเครื่องมือน้อยที่สุดในการจัดการกับความเสี่ยงเหล่านี้ (เช่นการเข้าถึงสนับสนุนรายได้ให้รัฐบาลและตลาดที่ใช้เครื่องมือเช่นการประกันภัย) ข้อเท็จจริงนี้มีผลกระทบสำคัญ สำคัญ: (i) คนจนมีความเสี่ยงมากที่สุดในสังคม และแรงกระแทกมักให้ผลสวัสดิการรัดกุมที่สุดสำหรับพวกเขา เหตุผลสวัสดิการ ดังนั้น พวกเขาควรได้เพิ่มการเข้าถึงเครื่องมือจัดการความเสี่ยงทางสังคม: (ii) ความเสี่ยงสูงที่ทำให้พวกเขาเสี่ยง averse และดังนั้นไม่สามารถ หรือจำยอมในที่สูงความเสี่ยง/สูงกลับกิจกรรม ดังนั้น การเข้าถึงเครื่องมือจัดการความเสี่ยงทางสังคมจะมีแนวโน้มเสี่ยงมากไม่ดี และทำ ให้โอกาสที่จะค่อย ๆ ย้ายจากความยากจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แรงผลักดันพื้นฐานของการบริหารความเสี่ยงทางสังคมได้รับการสนับสนุนโดยสองข้อเท็จจริงที่จัดตั้งขึ้น (i) ที่ยากจนมักจะสัมผัสมากที่สุดกับความเสี่ยงที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ (เช่นแผ่นดินไหวน้ำท่วมหรือความเจ็บป่วย) หรือที่มนุษย์สร้างขึ้น (เช่นการว่างงาน ทำลายสิ่งแวดล้อมหรือสงคราม) และ (i) ที่ไม่ดีมีเครื่องมือน้อยที่สุดในการจัดการกับความเสี่ยงเหล่านี้ (เช่นการเข้าถึงไปยังรัฐบาลให้การสนับสนุนรายได้และเครื่องมือที่ใช้ในตลาดเช่นประกัน) ข้อเท็จจริงนี้มีผลกระทบที่สำคัญที่สำคัญที่สุดคือ (i) ที่ไม่ดีมีความเสี่ยงมากที่สุดในสังคมและแรงกระแทกมีแนวโน้มที่จะมีผลกระทบสวัสดิการที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับพวกเขา สำหรับเหตุผลสวัสดิการดังนั้นพวกเขาควรจะมีการเพิ่มการเข้าถึงเครื่องมือการบริหารความเสี่ยงทางสังคมและ (ii) ช่องโหว่สูงทำให้พวกเขาชอบเสี่ยงและทำให้ไม่สามารถหรือไม่เต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในความเสี่ยงสูง / สูงกิจกรรมการกลับมา ดังนั้นการเข้าถึงเครื่องมือการบริหารความเสี่ยงทางสังคมจะมีแนวโน้มที่จะทำให้ยิ่งน่าสงสารความเสี่ยงจึงให้โอกาสที่จะค่อยๆย้ายออกจากความยากจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แรงผลักดันพื้นฐานของความเสี่ยงทางสังคม การจัดการและการสนับสนุนจากสองข้อเท็จจริงที่สร้างขึ้น : ( ฉัน ) คนจนมักจะสัมผัสมากที่สุดมีความเสี่ยงที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือเจ็บป่วย ) หรือที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น การว่างงาน , สิ่งแวดล้อมการย่อยสลายหรือสงคราม )และ ( ฉัน ) จนมีจำนวนน้อยที่จะจัดการกับความเสี่ยงเหล่านี้ ( เช่นการเข้าถึงรายได้รัฐบาลให้การสนับสนุนและตลาดที่ใช้เครื่องมือเช่นประกัน ) ข้อเท็จจริงนี้ได้ผล ที่สำคัญที่สุดคือ : ( 1 ) คนยากจนที่มีความเสี่ยงมากที่สุดในสังคม และทำให้มีแนวโน้มที่ผลสวัสดิการสำหรับพวกเขา สำหรับเหตุผลที่ สวัสดิการ ดังนั้นพวกเขาควรจะเพิ่มการเข้าถึงเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางสังคม และ ( 2 ) ความเสี่ยงสูงทำให้พวกเขาไม่ชอบความเสี่ยง และดังนั้นจึง ไม่สามารถหรือไม่เต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในความเสี่ยงสูง / สูงกลับกิจกรรม ดังนั้น การเข้าถึงเครื่องมือการบริหารความเสี่ยงทางสังคมมักจะทำให้คนจนมากขึ้นความเสี่ยงและจึงให้โอกาสที่จะค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากความยากจน