On the basis of measurements taken

On the basis of measurements taken of 4298 grade 5 students,
we estimated the provincial prevalence of overweight to
be 32.9% and of obesity to be 9.9%. Children who bought
lunch at school were at increased risk of overweight (fully adjusted
odds ratio [OR] 1.39, 95% confidence interval [CI]
1.16–1.67), whereas those who ate supper together with their
family 3 or more times a week were at decreased risk (OR
0.68, 95% CI 0.52–0.88). Physical education classes 2 or more
times a week at school were associated with a decreased risk of
overweight (OR 0.61, 95% CI 0.43–0.87) and obesity (OR
0.54, 95% CI 0.33–0.88). Children in high-income neighbourhoods
were half as likely to be obese as their peers living in
low-income neighbourhoods (OR 0.50, 95% CI 0.36–0.70).
Interpretation: Parents and schools provide important opportunities
for public health initiatives for reducing childhood overweight
and obesity. Children and schools in low-income
neighbourhoods should receive priority in public health initiatives
to reduce future socioeconomic inequalities in health

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บนพื้นฐานของการวัดการดำเนินการของ 4298 ชั้น 5 นักเรียน
เราคาดว่าความชุกของจังหวัดที่มีน้ำหนักเกินที่จะ
เป็น 32.9% และโรคอ้วนเป็น 9.9% เด็กที่ซื้อ
อาหารกลางวันที่โรงเรียนมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของน้ำหนักเกิน (ปรับอย่างเต็มที่
odds ratio [OR] 1.39, 95% confidence interval [CI]
1.16-1.67) ในขณะที่ผู้ที่กินอาหารมื้อเย็นร่วมกับพวกเขา
ในครอบครัว 3 หรือมากกว่าครั้งต่อสัปดาห์ได้ ที่มีความเสี่ยงลดลง (OR
0.68, 95% CI 0.52-0.88) การศึกษาการเรียนทางกายภาพ 2 หรือมากกว่า
ครั้งต่อสัปดาห์ที่โรงเรียนมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของ
น้ำหนักเกิน (OR 0.61, 95% CI 0.43-0.87) และโรคอ้วน (OR
0.54, 95% CI 0.33-0.88) เด็กที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงที่มีรายได้สูง
มีครึ่งหนึ่งเป็นแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนเป็นเพื่อนของพวกเขาที่อาศัยอยู่ใน
ละแวกใกล้เคียงที่มีรายได้ต่ำ (OR 0.50, 95% CI 0.36-0.70).
การแปลความหมาย: ผู้ปกครองและโรงเรียนให้โอกาสที่สำคัญ
สำหรับการริเริ่มสุขภาพของประชาชนในการลดความอ้วนในวัยเด็ก
และโรคอ้วน เด็กและโรงเรียนในการมีรายได้ต่ำ
ละแวกใกล้เคียงที่ควรได้รับการจัดลำดับความสำคัญในการริเริ่มสุขภาพของประชาชน
เพื่อลดความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจและสังคมในอนาคตในด้านสุขภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บนพื้นฐานของการวัดที่ถ่ายของ 4298 เกรดนักเรียน 5
เราประมาณความชุกของภาวะน้ำหนักเกินจังหวัด

เป็น 32.9 % และโรคอ้วนเป็น 9.9 % เด็กที่ซื้อ
กลางวันที่โรงเรียนมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะน้ำหนักเกิน ( มีปรับ
Odds Ratio หรือ 1.39 , 95% ช่วงความเชื่อมั่น CI ]
[ 1.16 ( 1.67 ) ส่วนผู้ที่กินอาหารค่ำด้วยกันกับ
ครอบครัวหรือมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงลดลง ( หรือ
0.68 , 95% CI 0.52 ( 0.88 ) วิชาพลศึกษา 2 หรือมากกว่า
ครั้งต่อสัปดาห์ที่โรงเรียน มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของ
อ้วน ( หรือ 0.61 , 95% CI 0.43 - 0.87 ) และโรคอ้วน ( หรือ
0.54 , 95% CI 1.31 ( 0.88 ) เด็กมีรายได้สูงแว่ว
เป็นครึ่งมีแนวโน้มจะอ้วนตามเพื่อนที่อาศัยอยู่ในรายได้ต่ำ ( หรือ 0.50
แว่ว95% CI 0.36 - 0.70 ) .
แปล : ผู้ปกครองและโรงเรียนให้
โอกาสสำคัญสำหรับสุขภาพของประชาชนการริเริ่มเพื่อลดอ้วนและโรคอ้วนในวัยเด็ก
. เด็กและโรงเรียนในละแวกใกล้เคียงที่มีรายได้น้อย
ควรได้รับความสำคัญในโครงการสาธารณสุขเพื่อลดความไม่เท่าเทียมกันในสังคม
สุขภาพในอนาคต