Falling oil prices is beneficial on

Falling oil prices is beneficial on the Thai economy.
The decline in oil prices is an important factor in supporting the recovery and expansion of the global economy. The country has oil imports such as Thailand will see positive results clearly. While exporting oil countries will have lower revenues from oil exports. It make trade and economic stability of these countries have been affected.
Thailand imports oil and fuel approximately 8% of GDP, higher than China and India or import of about 320 million barrels. It can save the cost of oil imports by about 5 billion baht. In the household sector and business sector use volume of gasoline and diesel per year was 29,000 million liters. This will help both sectors save up to 1.5 billion baht per year. Falling oil prices help GDP of Thailand in 2015 increased by 0.2 percentage point (pp) and inflation slowdown 0.8 pp, it make no barrier to ease monetary policy to support the Bank of Thailand. Expansion of tourism in Thailand.
The drop in oil prices would result in higher purchasing power of citizens in the country. From reduced energy expenditure and increased purchasing power that cause the cost of production, transportation, goods, immovable property are reduce lead to investment, employment and economic growth. Expansion of tourism in Thailand.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

น้ำมันลดลงราคาจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย การลดลงของราคาน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการกู้คืนและการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ประเทศมีการนำเข้าน้ำมันเช่นไทยจะเห็นผลบวกชัดเจน ในขณะที่ส่งออกน้ำมันประเทศจะมีรายได้ลดลงจากการส่งออกน้ำมัน ทำการค้าและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบ ไทยนำเข้าน้ำมันและเชื้อเพลิงประมาณ 8% ของ GDP สูงกว่าจีน และอินเดีย หรือการนำเข้าประมาณ 320 ล้านบาร์เรล มันสามารถบันทึกต้นทุนของการนำเข้าน้ำมันประมาณ 5 พันล้านบาท ในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจใช้ปริมาตรของน้ำมันเบนซิน และดีเซลปี 29,000 ล้านลิตร ซึ่งจะช่วยให้ทั้งภาคบันทึกถึง 1.5 พันล้านบาทต่อปี ตกน้ำมันราคาช่วยเพิ่ม GDP ของไทยใน 2015 โดย 0.2 เปอร์เซ็นต์จุด (pp) และอัตราเงินเฟ้อชะลอตัว 0.8 pp มันทำอุปสรรคไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อสนับสนุนธนาคารแห่งประเทศไทย การขยายตัวของการท่องเที่ยวในประเทศไทย ลดลงของราคาน้ำมันจะส่งผลสูงขึ้นอำนาจซื้อของประชาชนในประเทศ จากรายจ่ายพลังงานลดลงและกำลังซื้อเพิ่มขึ้นซึ่งทำให้ ต้นทุนผลิต ขนส่ง สินค้า อสังหาริมทรัพย์จะลดเป้าหมายการลงทุน การจ้างงาน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ การขยายตัวของการท่องเที่ยวในประเทศไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลดลงของราคาน้ำมันจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย.
ลดลงของราคาน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวและการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ประเทศที่มีการนำเข้าน้ำมันเช่นประเทศไทยจะเห็นผลในเชิงบวกอย่างชัดเจน ในขณะที่ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันจะมีรายได้ที่ลดลงจากการส่งออกน้ำมัน มันทำให้การค้าและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบ.
ไทยนำเข้าน้ำมันและน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 8% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าจีนและอินเดียหรือนำเข้าประมาณ 320 ล้านบาร์เรล มันสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายของการนำเข้าน้ำมันโดยประมาณ 5 พันล้านบาท ในภาคครัวเรือนและธุรกิจของปริมาณการใช้งานภาคของน้ำมันเบนซินและดีเซลต่อปีเป็น 29,000 ล้านลิตร นี้จะช่วยให้ทั้งภาคประหยัดได้ถึง 1.5 พันล้านบาทต่อปี ราคาน้ำมันที่ลดลงช่วยให้จีดีพีของไทยในปี 2015 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 จุด (pp) และการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อ 0.8 PP, มันทำให้ไม่มีอุปสรรคเพื่อความสะดวกในการดำเนินนโยบายการเงินเพื่อสนับสนุนการธนาคารแห่งประเทศไทย การขยายตัวของการท่องเที่ยวในประเทศไทย.
ลดลงของราคาน้ำมันจะส่งผลให้กำลังซื้อที่สูงขึ้นของประชาชนในประเทศ จากการใช้พลังงานลดลงและเพิ่มขึ้นกำลังซื้อที่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายของการผลิตการขนส่งสินค้าอสังหาริมทรัพย์จะนำไปสู่การลดการลงทุนการจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ การขยายตัวของการท่องเที่ยวในประเทศไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลดลงของราคาน้ำมันที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย .
การลดลงของราคาน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวและการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ประเทศที่มีน้ำมัน นำเข้า เช่น ประเทศไทย จะเห็นผลลัพธ์ที่เป็นบวกอย่างชัดเจน ในขณะที่การส่งออกน้ำมันประเทศจะมีรายได้ลดลงจากการส่งออกน้ำมัน มันทำให้การค้าและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบ .
ประเทศไทยนำเข้าน้ำมันและเชื้อเพลิงที่ประมาณ 8 % ของ GDP สูงกว่าจีนและอินเดีย หรือนำเข้าประมาณ 320 ล้านบาร์เรล มันสามารถบันทึกต้นทุนการนำเข้าน้ำมันประมาณ 5 พันล้านบาท ในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจใช้ปริมาณเบนซินและดีเซลต่อปีคือ 29 , 000 ล้านลิตร นี้จะช่วยให้ทั้งสองภาคบันทึกถึง 1.5 พันล้านบาทต่อปีลดลงของราคาน้ํามันช่วยให้จีดีพีของไทยในปี 2015 เพิ่มขึ้น 0.2 เปอร์เซ็นต์จุด ( PP ) และอัตราเงินเฟ้อขยายตัว 0.8% PP , ทำให้ไม่มีสิ่งกีดขวางง่ายนโยบายทางการเงิน เพื่อสนับสนุนธนาคารแห่งประเทศไทย การขยายตัวของการท่องเที่ยวในประเทศไทย .
ปล่อยในราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนในประเทศจากการลดใช้พลังงานและเพิ่มอำนาจการซื้อที่ทำให้ต้นทุนการผลิต การขนส่ง สินค้าอสังหาริมทรัพย์ลดทำให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ การขยายตัวของการท่องเที่ยวในประเทศไทย .