It’s been known since the late 19th

It’s been known since the late 19th century that the brain’s activity gives off electrical signals, and the first recording of that activity in humans was in 1924. EEG works by
attaching recording electrodes to the scalp. It is used in clinical settings to diagnose epilepsy and monitor coma patients, and until recently (when better technologies like
MRI came along) it was also used for diagnosing tumors and strokes. EEG is also a popular neuroscience research method and can provide very detailed information about the
brain’s activity while the participant performs some kind of laboratory task. EEG is only good for sensing the activity of the surface of the brain; activity lower down is just too far
away from the electrodes on the scalp to get reliable data. Recording neural activity through the skull is like listening to an argument in the apartment below yours by pressing
your ear against the floor; you might be able to hear some muffled voices, and maybe even some of the louder details,but you’ve no hope at all of hearing what’s happening in an apartment five floors below

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก็เป็นการรู้จักกันตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่กิจกรรมของสมองให้ปิดสัญญาณไฟฟ้า และบันทึกเสียงครั้งแรกของกิจกรรมในมนุษย์ค.ศ. 1924 EEG ทำงานโดย
แนบบันทึกหุงตกับหนังศีรษะ ใช้ ในการตั้งค่าทางคลินิกเพื่อวินิจฉัยโรคลมชัก และติดตามผู้ป่วยหมดสติ และจน กระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ (เมื่อเทคโนโลยีดีชอบ
MRI มาเที่ยว) มันถูกใช้ในการวินิจฉัยเนื้องอกและจังหวะ EEG เป็นวิธีวิจัยประสาทวิทยาศาสตร์นิยม และสามารถให้ข้อมูลรายละเอียดมากเกี่ยวกับการ
กิจกรรมของสมองในขณะที่ผู้เรียนดำเนินการปฏิบัติงานบางประการ EEG จะดีสำหรับการตรวจวัดกิจกรรมของพื้นผิวของสมอง กิจกรรมลดลงเป็นเพียงไกล
จากหุงตบนหนังศีรษะจะได้รับข้อมูลที่เชื่อถือได้ บันทึกกิจกรรมประสาทผ่านกะโหลกศีรษะเป็นเหมือนฟังอาร์กิวเมนต์ในด้านล่างของคุณโดยการกด
หูของคุณกับพื้น คุณอาจจะสามารถได้ยินเสียงบาง muffled และบางทีแม้แต่บางรายละเอียดดัง แต่คุณไม่หวังเลยได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นในการอพาร์ทเมนท์ 5 ชั้นด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันเป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ว่ากิจกรรมของสมองให้ปิดสัญญาณไฟฟ้าและบันทึกเสียงครั้งแรกของกิจกรรมมนุษย์ที่อยู่ในสมอง 1924 ทำงานโดยการ
แนบบันทึกขั้วไฟฟ้าเพื่อให้หนังศีรษะ มันถูกใช้ในการตั้งค่าทางคลินิกในการวินิจฉัยโรคลมชักและตรวจสอบผู้ป่วยที่อาการโคม่าและจนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ (เมื่อเทคโนโลยีที่ดีขึ้นเช่น
MRI มาพร้อม) มันก็ยังใช้สำหรับการวินิจฉัยเนื้องอกและจังหวะ EEG ยังเป็นวิธีการวิจัยทางด้านประสาทวิทยาที่เป็นที่นิยมและสามารถให้ข้อมูลรายละเอียดมากเกี่ยวกับ
การทำงานของสมองในขณะที่ผู้เข้าร่วมการดำเนินการชนิดของงานห้องปฏิบัติการบางอย่าง EEG เป็นเพียงที่ดีสำหรับการตรวจวัดกิจกรรมของพื้นผิวของสมอง; กิจกรรมต่ำลงเป็นเพียงไกล
ห่างจากขั้วไฟฟ้าบนหนังศีรษะที่จะได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือ บันทึกกิจกรรมประสาทผ่านกะโหลกศีรษะเป็นเหมือนฟังข้อโต้แย้งในอพาร์ทเม้นด้านล่างของคุณโดยการกด
หูของคุณกับพื้น; คุณอาจจะสามารถที่จะได้ยินเสียงบางเสียงในลำคอและแม้กระทั่งบางรายละเอียดดัง แต่คุณได้ความหวังที่ทุกคนได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นในอพาร์ทเม้นห้าชั้นด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ที่กิจกรรมของสมองให้ปิดสัญญาณทางไฟฟ้าและบันทึกแรกของกิจกรรมในมนุษย์ใน 1924 . สมองทำงานโดย
แนบบันทึกขั้วไฟฟ้าเพื่อหนังศีรษะ มันถูกใช้ในการตั้งค่าทางคลินิกในการวินิจฉัยและติดตามผู้ป่วยโรคลมชัก โคม่า และจนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆเมื่อเทคโนโลยีเช่น
ดีกว่าMRI มาด้วย ) มันก็ยังใช้ในการวินิจฉัยเนื้องอกและลายเส้นที่ขีด คลื่นสมองยังเป็นที่นิยมประสาทวิทยาศาสตร์ วิธีการวิจัย และสามารถให้ข้อมูลมากเกี่ยวกับ
สมองกิจกรรมในขณะที่ผู้เข้าร่วมการบางประเภทของงานห้องปฏิบัติการ สมองเป็นเพียงที่ดีสำหรับกิจกรรมพื้นผิวของสมอง สัมผัส กิจกรรมที่ลดลงเป็นเพียงเกินไป
ห่างจากขั้วไฟฟ้าบนหนังศีรษะได้รับข้อมูลที่เชื่อถือได้ บันทึกกิจกรรมประสาทผ่านกระโหลกจะชอบฟังเพื่อโต้แย้งในพาร์ทเมนท์ของคุณโดยการกดปุ่มด้านล่าง
หูของคุณกับพื้น คุณอาจจะได้ยินเสียงอู้อี้ และแม้กระทั่งบางส่วนของรายละเอียดดัง แต่คุณไม่มีความหวังเลยได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นในอพาร์ทเม้นท์ 5 ชั้น ด้านล่าง