Figure 1 shows the patterns of ferm

Figure 1 shows the patterns of fermentation with mixed starter cultures. The fermentation
pattern with mixed cultures of S. cerevisiae and Hanseniaspora isolate I (Figure 1A), during
day 1 and day 2, the populations of both yeasts increased approximately 2 log cycles. After day
2, the S. cerevisiae and Hanseniaspora isolate I population were slightly decreased,
approximately 2 log cycles through to the last day. The alcohol content was observed at the
early stage of fermentation and rapidly increased to an amount of 12% (v/v) on the last day of
fermentation. S. cerevisiae produced invertase enzymes which rapidly degraded sucrose.
Consequently, the rapid decrease of TSS in substrate was observed, and then they were utilized
for alcohol production. For the batch with mixed cultures of S’codes ludwigii and
Hanseniaspora isolate I (Figure 1B), the populations of both yeasts increased approximately 2
log cycles at the initial stage of fermentation and were stable throughout the fermentation.
During day 1 and day 2, the alcohol production pattern was similar to the batch with mixed
cultures of S. cerevisiae and Hanseniaspora isolate I. After day 2, the alcohol production
shifted to generally increase throughout the fermentation, allowing the final alcohol increase to
a maximum amount of 14% (v/v) on the last day of fermentation. From the previous research,
Chanprasartsuk et al [19] investigated the fermentation profile of Smooth Cayenne pineapple
juice with the same yeast cultures used in this study. The fermentation profile of Queen
pineapple juice in this study was relatively similar to the Smooth Cayenne pineapple juice
reported. Noticeably, in this study, the population of Hanseniaspora isolate I of mixed starter
cultures was relatively higher than commercial S. cerevisiae and S’codes ludwigii survived
throughout the pineapple juice fermentation. Numerous research on grape juice fermentation
have reported that non-Saccharomyces yeast, especially Kloeckera apiculata (Hanseniaspora)
and Candida stellata, survive during fermentation at a significant level [20, 21]. Additionally,
these yeasts are capable of anaerobic and aerobic growth and may persist during the
fermentation, competing with Saccharomyces for nutrients

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปที่ 1 แสดงรูปแบบของการหมักกับสตาร์ทผสมวัฒนธรรม หมักลวดลายที่ มีวัฒนธรรมผสมของ S. cerevisiae และ Hanseniaspora แยกฉัน (รูปที่ 1A), ในระหว่างวันที่ 1 และวันที่ 2 ประชากรของทั้งสอง yeasts เพิ่มประมาณล็อก 2 รอบ หลังจากวัน2, S. cerevisiae และ Hanseniaspora แยกฉันประชากรได้เล็กน้อยลดลงประมาณ 2 ล็อกเวียนไปจนถึงวันสุดท้าย เนื้อหาแอลกอฮอล์ถูกสังเกตในการระยะแรก ๆ ของการหมัก และอย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 12% (v/v) ในวันสุดท้ายของหมัก S. cerevisiae ผลิตเอนไซม์ invertase ซึ่งซูโครสที่เสื่อมโทรมอย่างรวดเร็วดังนั้น TSS ลดอย่างรวดเร็วในพื้นผิวถูกสังเกต แล้ว พวกเขาถูกใช้ในการผลิตแอลกอฮอล์ สำหรับชุดงานที่มีวัฒนธรรมผสมของ S'codes ludwigii และHanseniaspora เพราะผม (รูปที่ 1B) ประชากรของทั้งสอง yeasts เพิ่มขึ้นประมาณ 2ล็อกรอบที่ระยะเริ่มต้นของหมักดอง และมีเสถียรภาพตลอดหมักในระหว่างวันที่ 1 และวันที่ 2 รูปแบบการผลิตแอลกอฮอล์ชุดพร้อมผสมวัฒนธรรมของ S. cerevisiae และ Hanseniaspora แยกฉัน หลังจากวันที่ 2 การผลิตแอลกอฮอล์จากเพิ่มโดยทั่วไปตลอดทั้งหมัก ให้เพิ่มเหล้าสุดท้ายไปเป็นจำนวนเงินสูงสุด 14% (v/v) ในวันสุดท้ายของหมักดอง จากงานวิจัยก่อนหน้านี้Chanprasartsuk et al [19] ตรวจสอบโพรไฟล์หมักของสับปะรดป่นเรียบน้ำยีสต์วัฒนธรรมเดียวกันที่ใช้ในการศึกษานี้ โพรไฟล์การหมักของควีนน้ำสับปะรดในการศึกษานี้ค่อนข้างเรียบป่นสับปะรดรายงาน อย่างเห็นได้ชัด ในการศึกษานี้ ประชากรของ Hanseniaspora เพราะผมเริ่มต้นผสมวัฒนธรรมค่อนข้างสูงกว่าการค้า S. cerevisiae และ ludwigii S'codes ที่รอดชีวิตหมักน้ำสับปะรดตลอด งานวิจัยจำนวนมากในน้ำองุ่นหมักมีรายงานว่า ยีสต์ Saccharomyces ไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Kloeckera เล็ก (Hanseniaspora)และแคน stellata อยู่รอดในระหว่างการหมักในระดับสำคัญ [20, 21] นอกจากนี้yeasts เหล่านี้สามารถเจริญเติบโตที่ไม่ใช้ออกซิเจน และแอโรบิก และอาจคงอยู่ในระหว่างการหมัก แข่งขันกับ Saccharomyces ในสารอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปที่ 1 แสดงให้เห็นถึงรูปแบบของการหมักกับเชื้อจุลินทรีย์เริ่มต้นผสม หมัก
รูปแบบที่มีวัฒนธรรมที่หลากหลายของเอส cerevisiae และ Hanseniaspora แยกผม (รูปที่ 1A) ในระหว่าง
วันที่ 1 และวันที่ 2 ประชากรของยีสต์ทั้งสองเพิ่มขึ้นประมาณ 2 รอบเข้าสู่ระบบ หลังจากวันที่
2, S. cerevisiae และ Hanseniaspora แยกฉันประชากรลดลงเล็กน้อย
ประมาณ 2 รอบเข้าสู่ระบบผ่านไปในวันที่ผ่านมา ปริมาณแอลกอฮอล์พบว่าใน
ช่วงเริ่มต้นของการหมักและการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นจำนวนเงิน 12% (v / v) ในวันสุดท้ายของ
การหมัก S. cerevisiae ผลิตเอนไซม์อินเวอร์ซึ่งลดลงอย่างรวดเร็วซูโครส.
ดังนั้นการลดลงอย่างรวดเร็วของ TSS ในพื้นผิวเป็นที่สังเกตและพวกเขาก็ถูกนำมาใช้
ในการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สำหรับชุดที่มีเชื้อผสม ludwigii S'codes และ
Hanseniaspora แยกผม (รูปที่ 1B) ประชากรของยีสต์ทั้งสองเพิ่มขึ้นประมาณ 2
รอบเข้าสู่ระบบในระยะเริ่มแรกของการหมักและคงที่ตลอดการหมัก.
ในระหว่างวันที่ 1 และวันที่ 2, รูปแบบการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีความคล้ายคลึงกับชุดที่มีการผสม
วัฒนธรรมของ S. cerevisiae และ Hanseniaspora แยก I. หลังจากวันที่ 2 การผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
โดยทั่วไปจะขยับเพิ่มขึ้นตลอดการหมักที่ช่วยให้การเพิ่มขึ้นของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครั้งสุดท้ายที่จะ
เป็นจำนวนเงินสูงสุด 14% (V / v) ในวันสุดท้ายของการหมัก จากการวิจัยก่อนหน้านี้
Chanprasartsuk et al, [19] การตรวจสอบรายละเอียดการหมักของสับปะรดเรียบ Cayenne
น้ำผลไม้ที่มีวัฒนธรรมยีสต์เดียวกับที่ใช้ในการศึกษานี้ รายละเอียดการหมักของสมเด็จพระราชินี
น้ำสับปะรดในการศึกษานี้ค่อนข้างคล้ายกับน้ำสับปะรด Cayenne เรียบ
รายงาน อย่างเห็นได้ชัดในการศึกษาครั้งนี้ประชากร Hanseniaspora แยกผมเริ่มต้นผสม
วัฒนธรรมค่อนข้างสูงกว่าการค้าเอส cerevisiae และ S'codes ludwigii รอดชีวิต
ทั่วหมักน้ำสับปะรด การวิจัยจำนวนมากในการหมักน้ำองุ่น
มีรายงานว่ายีสต์ที่ไม่ Saccharomyces โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Kloeckera ใบเล็ก (Hanseniaspora)
และ stellata Candida อยู่รอดระหว่างการหมักในระดับที่มีนัยสำคัญ [20 21] นอกจากนี้
ยีสต์เหล่านี้มีความสามารถในการเพาะกายแอโรบิกและการเจริญเติบโตและอาจยังคงมีอยู่ในระหว่างการ
หมักการแข่งขันกับ Saccharomyces สารอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 1 แสดงให้เห็นรูปแบบของกระบวนการหมักด้วยเชื้อบริสุทธิ์เริ่มต้นผสม การหมัก
รูปแบบกับวัฒนธรรมผสมของ S . cerevisiae hanseniaspora แยกชั้น ( รูปที่ 1A ) ในระหว่าง
วันที่ 1 และวันที่ 2 มีทั้งยีสต์เพิ่มขึ้นประมาณ 2 บันทึกรอบ หลังจากวัน
2 , S . cerevisiae hanseniaspora แยกชั้นจำนวนลดลงเล็กน้อย
,ประมาณ 2 log cycles ถึงวันสุดท้าย ปริมาณแอลกอฮอล์พบว่าในระยะแรกของการหมักที่
อย่างรวดเร็วและเพิ่มขึ้นจํานวน 12 เปอร์เซ็นต์ ( v / v ) ในวันสุดท้ายของการหมัก
. S . cerevisiae ผลิตเอนไซม์อินเวอร์เทสซึ่งอย่างรวดเร็วสลายซูโครส .
ดังนั้นอย่างรวดเร็วลด TSS สูงพบว่า พวกเขาจึงใช้
เพื่อการผลิตแอลกอฮอล์สำหรับชุดกับวัฒนธรรมผสมของ s'codes ludwigii และ
hanseniaspora แยกชั้น ( รูปที่ 1A ) มีทั้งยีสต์เพิ่มขึ้นประมาณ 2
รอบเข้าสู่ระบบในขั้นตอนแรกของการหมักและมั่นคงตลอดการหมัก
ในระหว่างวันที่ 1 และวันที่ 2 , แอลกอฮอล์รูปแบบการผลิตที่คล้ายกับชุดกับวัฒนธรรมผสม
ของ S . cerevisiae hanseniaspora แยก .หลังจากวันที่ 2 , แอลกอฮอล์ผลิต
เปลี่ยนโดยทั่วไปเพิ่มตลอดการหมักให้เพิ่มแอลกอฮอล์สุดท้าย

เป็นจํานวน 14 เปอร์เซ็นต์ ( v / v ) ในวันสุดท้ายของการหมัก จากงานวิจัยก่อนหน้านี้
chanprasartsuk et al [ 19 ] ศึกษาการหมักโปรไฟล์ของเรียบ Cayenne สับปะรด
น้ํายีสต์วัฒนธรรมเดียวกันที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประวัติของพระราชินี
หมักน้ำสับปะรดในการศึกษานี้ค่อนข้างคล้ายกับเรียบ Cayenne สับปะรด
รายงาน อย่างเห็นได้ชัด ในการศึกษานี้ ประชากรของ hanseniaspora แยกชั้นของเชื้อบริสุทธิ์เริ่มต้นผสมพาณิชย์
ค่อนข้างสูงกว่า S . cerevisiae s'codes ludwigii รอด
ตลอดสับปะรดหมักการวิจัยมากมายในการหมักน้ำองุ่น
ได้รายงานว่าไม่มี Saccharomyces ยีสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง kloeckera โกงกางใบเล็ก ( hanseniaspora )
และ Candida stellata อยู่รอดในระหว่างการหมักในระดับ [ 20 , 21 ) นอกจากนี้
ยีสต์เหล่านี้มีความสามารถในการใช้และแอโรบิก และอาจคงอยู่ในระหว่าง
หมัก Saccharomyces เพื่อแข่งขันกับสารอาหาร