Besmer and Lipford (2010a) explored

Besmer and Lipford (2010a) explored the privacy implications and social tensions of photo tagging on Facebook.They found that users had a sense of helplessness with their friends posting and tagging photos of them, some of which they might not want on the Internet. But, their desires for photo sharing outweighed these concerns. Pesce, Casas, Rauber, and Almeida (2012) demonstrated the privacy implications of activities such as photo tagging, which can be used to harvest sensitive information for malicious intent. Using inference algorithms on photo tagging activity from 664 participants, they were able to accurately predict certain user attributes, including gender, current country, and current city. The filtering done by photo tagging made prediction even stronger—and therefore the privacy risk even greater—in attributes that evolve over time, such as music, books, political views, and favorite teams (Pesce et al., 2012). Conversely, though, Klemperer et al. (2012) found that photo tags could be used to automatically create reasonable photo privacy settings for users to improve their photo privacy. A common theme within this research has been the privacy implications associated with photo tagging.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Besmer และ Lipford (2010a) อุดมผลกระทบความเป็นส่วนตัว และความตึงเครียดทางสังคมของภาพถ่ายที่ติดป้ายบน Facebook.They พบว่า ผู้ใช้มีความ helplessness กับเพื่อนของพวกเขาลง และติดแท็กภาพถ่ายของพวกเขา ซึ่งพวกเขาอาจไม่ต้องการบนอินเทอร์เน็ต แต่ ความปรารถนาสำหรับการแบ่งปันภาพถ่าย outweighed ความกังวลเหล่านี้ Pesce, Casas, Rauber, Almeida (2012) และแสดงผลข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมเช่นภาพติดป้าย ซึ่งสามารถใช้เพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูลสำคัญสำหรับกวน ใช้อัลกอริทึมข้อในภาพที่ติดป้ายกิจกรรมจากผู้เข้าร่วม 664 พวกเขาสามารถที่จะทำนายบางผู้ใช้แอตทริบิวต์ เพศ ประเทศปัจจุบัน และเมืองปัจจุบันได้อย่างถูกต้อง กรองทำได้ โดยการติดป้ายภาพทำการคาดเดาที่แข็งแกร่ง — ดังนั้นความเป็นส่วนตัวความเสี่ยงยิ่งและ — ในแอตทริบิวต์ที่พัฒนาเหนือการ เวลา เพลง หนังสือ มุมมองทางการเมือง และชื่นชอบทีม (Pesce et al., 2012) ในทางกลับกัน แม้ว่า Klemperer et al. (2012) พบว่า สามารถใช้แท็กรูปภาพเพื่อสร้างภาพที่เหมาะสมค่าความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวภาพถ่ายของพวกเขา รูปแบบทั่วไปภายในงานวิจัยนี้ได้รับผลกระทบความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับรูปติดป้าย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Besmer และ Lipford (2010a) สำรวจผลกระทบความเป็นส่วนตัวและความตึงเครียดทางสังคมของการติดแท็กภาพบน Facebook.They พบว่าผู้ใช้มีความรู้สึกของการทำอะไรไม่ถูกกับเพื่อน ๆ ของพวกเขาโพสต์และการติดแท็กภาพถ่ายของพวกเขาบางส่วนที่พวกเขาอาจจะไม่ต้องการบนอินเทอร์เน็ต แต่ความปรารถนาของพวกเขาสำหรับการแบ่งปันภาพถ่ายในแง่ความกังวลเหล่านี้ Pesce, เสซ Rauber และไมย์ (2012) แสดงให้เห็นถึงผลกระทบความเป็นส่วนตัวของกิจกรรมต่าง ๆ เช่นการติดแท็กภาพซึ่งสามารถใช้ในการเก็บเกี่ยวข้อมูลที่สำคัญสำหรับเจตนาร้าย โดยใช้กลไกการอนุมานเกี่ยวกับกิจกรรมการติดแท็กภาพจาก 664 ผู้เข้าร่วมพวกเขาก็สามารถที่จะคาดการณ์ได้อย่างถูกต้องใช้คุณลักษณะบางอย่างรวมถึงเพศประเทศในปัจจุบันและเมืองในปัจจุบัน กรองทำโดยการติดแท็กภาพถ่ายทำให้การคาดการณ์ที่แข็งแกร่งและมีความเสี่ยงจึงมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นคุณลักษณะแม้ในที่มีวิวัฒนาการในช่วงเวลาเช่นเพลง, หนังสือ, มุมมองทางการเมืองและทีมงานที่ชื่นชอบ (Pesce et al., 2012) ตรงกันข้าม แต่ Klemperer et al, (2012) พบว่าแท็กภาพถ่ายสามารถนำมาใช้โดยอัตโนมัติสร้างค่าความเป็นส่วนตัวภาพที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ในการปรับปรุงความเป็นส่วนตัวภาพของพวกเขา เป็นเรื่องธรรมดาที่อยู่ในงานวิจัยนี้ได้รับผลกระทบความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับการติดแท็กภาพถ่าย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และ besmer lipford ( 2010a ) สำรวจความเป็นส่วนตัวผลกระทบและความตึงเครียดทางสังคมของภาพการติดแท็กบน Facebook . พวกเขาพบว่าผู้ใช้มีความรู้สึกของไม่มีประโยชน์กับเพื่อนของพวกเขาโพสต์และการติดแท็กภาพถ่ายของพวกเขา ที่พวกเขาไม่อาจต้องการ บนอินเทอร์เน็ต แต่ความปรารถนาสำหรับการแบ่งปันภาพถ่ายนิเวศความกังวลเหล่านี้ แพส Casas rauber , , ,และอัลเมด้า ( 2012 ) แสดงความเป็นส่วนตัวผลกระทบของกิจกรรมต่างๆ เช่น การติดแท็กภาพถ่าย , ซึ่งสามารถใช้ในการเก็บข้อมูลเพื่อจุดประสงค์ร้าย การใช้อัลกอริทึมการอนุมานเกี่ยวกับการติดแท็กภาพถ่ายกิจกรรมจาก 664 คน พวกเขาถูกต้องสามารถทำนายคุณลักษณะผู้ใช้บางประเทศในปัจจุบัน ได้แก่ เพศ และเมืองปัจจุบันกรองทำได้โดยการติดแท็กภาพถ่ายทำให้การคาดการณ์ที่แข็งแกร่งและความเป็นส่วนตัวความเสี่ยงมากขึ้นในลักษณะที่วิวัฒนาการในช่วงเวลา เช่น ดนตรี การเมือง หนังสือ มุมมอง และทีมโปรด ( แพส et al . , 2012 ) ในทางกลับกัน แม้ว่า klemperer et al .( 2012 ) พบว่าภาพถ่ายแท็กสามารถใช้โดยอัตโนมัติสร้างที่เหมาะสมภาพการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้เพื่อปรับปรุงความเป็นส่วนตัวภาพถ่ายของพวกเขา ชุดรูปแบบทั่วไปในการวิจัยนี้ได้รับความเป็นส่วนตัวผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการติดแท็กภาพถ่าย
.