is achieved. The professional nurse

is achieved. The professional nurse must not only know
what to do, how to do something, and demonstrate how
it is done but also perform it in practice when no one is
looking. Organizations must identify who within the organization bears accountability for each of these levels and tie
this responsibility into performance. Critical to this analysis
is the requirement that any process of competency assurance must be shaped and guided by the profession of
nursing (ANA, 2000).
There is sufficient evidence in the literature to demonstrate that competency assessment is a very productive and
viable approach in quality management and performance
improvement (Alspach, 1990; Stanton, Swanson, & Baker,
2005). ‘‘Tying competency assessment to quality improvement is the key to creating meaningful, cost-effective, ongoing competency assessment’’ (Wright, 2005, p. 20). Stanton
et al. (2005) emphasized that the selected competencies
should be defined as measures and should be able to be collected in a standardized way across multiple staff and sites
of care. By connecting competency assessment to measurable performance improvement data, the organization has
ensured that competent practice is more than validating a
set of steps only when someone is watching.
Promoting a competency-based practice model consistently facilitates the application of what a nurse knows into
his or her practice. This model guides the development of
programmatic objectives to assist in defining the competencies needed to ensure quality. Pforr, Leeseberg, and Brixey
(2010) defined competency-based practice as ‘‘a patient care
delivery system that emphasizes the nurse’s ability to demonstrate competence in the high-risk, problem-prone
aspects of care related to a specific role and clinical setting’’ (p. 121)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ที่ทำ พยาบาลมืออาชีพต้องไม่รู้ว่าเท่านั้นจะทำอย่างไร วิธีการทำงาน และสาธิตวิธีจะทำ แต่ยัง ทำได้ในทางปฏิบัติเมื่อไม่มีใครมอง องค์กรต้องระบุภายในความรับผิดชอบหมีองค์กรสำหรับแต่ละระดับเหล่านี้ และผูกนี้ความรับผิดชอบในประสิทธิภาพ ความสำคัญต่อการวิเคราะห์นี้มีความต้องการที่ว่า กระบวนการใด ๆ ของการรับรองความสามารถต้องเป็นรูป และคำแนะนำจากอาชีพของพยาบาล (ANA, 2000)มีหลักฐานเพียงพอในวรรณกรรมเพื่อแสดงให้เห็นว่าการประเมินความสามารถประสิทธิภาพมาก และวิธีการทำงานในการจัดการคุณภาพและประสิทธิภาพปรับปรุง (Alspach, 1990 สแตนตัน Swanson, & เบ เกอร์2005) . ''ผูกความสามารถประเมินเพื่อปรับปรุงคุณภาพเป็นสำคัญเพื่อสร้างการประเมินสมรรถนะมีความหมาย คุ้มค่า ต่อเนื่อง '' (ไรท์ 2005, p. 20) สแตนตันal. ร้อยเอ็ด (2005) เน้นที่ความสามารถเลือกควรกำหนดเป็นมาตรการ และต้องการจะรวบรวมวิธีการมาตรฐานในหลายไซต์และพนักงานดูแล ด้วยการเชื่อมต่อความสามารถประเมินข้อมูลการปรับปรุงประสิทธิภาพวัด องค์กรที่มีมั่นใจว่า เชี่ยวชาญปฏิบัติเป็นมากกว่าตรวจสอบการชุดของขั้นตอนเท่านั้นเมื่อคนดูส่งเสริมแบบฝึกตามศักยภาพอย่างต่อเนื่องของพยาบาลที่รู้เป็นที่อำนวยความสะดวกการปฏิบัติ ตน รุ่นนี้แนะนำการพัฒนาวัตถุประสงค์ที่ทางโปรแกรมเพื่อช่วยในการกำหนดสมรรถนะที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจคุณภาพ Pforr, Leeseberg และ Brixeyตามความสามารถปฏิบัติตามกำหนด (2010) '' ดูแลผู้ป่วยระบบจัดส่งที่เน้นความสามารถของพยาบาลแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการอิก แนวโน้มของปัญหาด้านดูแลเกี่ยวข้องกับบทบาทเฉพาะและตั้งคลินิก '' (p. 121)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จะประสบความสำเร็จ พยาบาลวิชาชีพต้องไม่เพียง แต่รู้
ว่าจะทำอย่างไรวิธีที่จะทำบางสิ่งบางอย่างและแสดงให้เห็นถึงวิธี
การที่จะทำ แต่ยังดำเนินการในทางปฏิบัติเมื่อไม่มีใคร
มอง องค์กรจะต้องระบุที่ภายในองค์กรหมีความรับผิดชอบสำหรับแต่ละระดับเหล่านี้และผูก
รับผิดชอบเข้าไปในการแสดงครั้งนี้ ที่สำคัญในการวิเคราะห์นี้
เป็นข้อกำหนดว่ากระบวนการของการประกันความสามารถใด ๆ จะต้องมีรูปร่างและแนะนำโดยวิชาชีพของ
พยาบาล (ANA, 2000).
มีหลักฐานเพียงพอในวรรณคดีที่จะแสดงให้เห็นถึงการประเมินความรู้ความสามารถที่มีประสิทธิผลมากและ
วิธีการทำงานได้ในคุณภาพ การจัดการและประสิทธิภาพ
การปรับปรุง (Alspach 1990; สแตนตัน, สเวนสัน & Baker,
2005) '' ผูกการประเมินขีดความสามารถในการปรับปรุงคุณภาพเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความหมายค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพการประเมินขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง '' (ไรท์ปี 2005 พี. 20) สแตนตัน
และคณะ (2005) เน้นย้ำว่าความสามารถที่เลือก
ควรจะกำหนดมาตรการและควรจะสามารถเรียกเก็บได้ในวิธีที่เป็นมาตรฐานทั่วพนักงานหลายและเว็บไซต์
ของการดูแล โดยการเชื่อมต่อการประเมินข้อมูลปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานที่วัดความสามารถองค์กรได้
มั่นใจว่าการปฏิบัติที่มีความสามารถมากกว่าการตรวจสอบ
ชุดของขั้นตอนเท่านั้นเมื่อมีคนดู.
การส่งเสริมรูปแบบการปฏิบัติตามความสามารถอย่างต่อเนื่องอำนวยความสะดวกในการประยุกต์ใช้สิ่งที่พยาบาลรู้ว่าเป็น
ของเขาหรือ การปฏิบัติของเธอ รุ่นนี้แนวทางในการพัฒนา
วัตถุประสงค์การเขียนโปรแกรมเพื่อช่วยในการกำหนดความสามารถที่จำเป็นเพื่อให้มีคุณภาพ Pforr, Leeseberg และ Brixey
(2010) กำหนดปฏิบัติความสามารถใช้เป็น '' การดูแลผู้ป่วย
ระบบการจัดส่งที่เน้นความสามารถของพยาบาลที่จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการมีความเสี่ยงสูงปัญหาได้ง่าย
ด้านของการดูแลที่เกี่ยวข้องกับบทบาทที่เฉพาะเจาะจงและตั้งค่าทางคลินิก '' (พี. 121)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คือความ พยาบาลวิชาชีพต้องไม่เพียง แต่รู้
ทำอย่างไร , วิธีการทำ และสาธิตวิธีการทำ แต่ยังดำเนินการ
ในทางปฏิบัติเมื่อไม่มีใคร
ตามหา องค์กรต้องระบุที่ภายในองค์กรหมีความรับผิดชอบสำหรับแต่ละระดับเหล่านี้และผูก
ความรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน วิกฤตนี้การวิเคราะห์
คือความต้องการที่กระบวนการรับรองความสามารถคงรูป และแนะนำอาชีพพยาบาล ( อานา , 2000 )
.
มีหลักฐานในวรรณกรรมแสดงให้เห็นว่าการประเมินสมรรถนะเป็นที่มีประสิทธิภาพมากและ
ได้วิธีในการจัดการคุณภาพและการปรับปรุงประสิทธิภาพ
( alspach 1990 ; บำรุงเส้น& , สแตนตัน เบเกอร์
2005 )' 'tying การประเมินสมรรถนะเพื่อการปรับปรุงคุณภาพเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความหมาย ประหยัดต้นทุน ประเมินสมรรถนะอย่างต่อเนื่อง ' ' ( Wright , 2005 , 20 หน้า ) สแตนตัน
et al . ( 2005 ) เน้นว่า ควรเลือกสมรรถนะ
กำหนดเป็นมาตรการ และควรจะเก็บในมาตรฐานทางข้ามหลายเว็บไซต์
และเจ้าหน้าที่ดูแลโดยการเชื่อมต่อข้อมูลการปรับปรุงการประเมินความสามารถวัดประสิทธิภาพ องค์กรมี
มั่นใจว่าฝึกความสามารถมากกว่าตรวจสอบ
ชุดของขั้นตอนเมื่อมีคนเฝ้าดู .
ส่งเสริมการปฏิบัติตามเกณฑ์ความสามารถอย่างต่อเนื่องในการประยุกต์ใช้สิ่งที่พยาบาลรู้เข้า
การปฏิบัติของเขาหรือเธอ รุ่นนี้เป็นแนวทางการพัฒนาของ
เพื่อช่วยในการเขียนโปรแกรมเพื่อกำหนดสมรรถนะที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจคุณภาพ pforr leeseberg , และ brixey
( 2010 ) กำหนดฐานสมรรถนะการปฏิบัติเป็น ' ' ดูแลผู้ป่วย
ระบบการจัดส่ง ที่เน้นความสามารถในการแสดงความสามารถของพยาบาลในที่เสี่ยง ปัญหาแนวโน้ม
แง่มุมของการดูแลที่เกี่ยวข้องกับบทบาทที่เฉพาะเจาะจงและการตั้งค่า ' คลินิก ' ( หน้า 121 )