ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลก
ในปัจจุบันบทบาทของดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลกนับวันยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากข้อมูลการสำรวจที่ได้จากดาวเทียมมีวิวัฒนาการไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านการเก็บบันทึกและวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล โดยเฉพาะระบบบันทึกข้อมูลมีการพัฒนาปรับปรุงในเรื่องของความละเอียดเชิงพื้นที่ (Spatial resolution) และความละเอียดเชิงคลื่น (Spectral resolution) ทำให้เกิดความหลากหลายในการนำไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ข้อมูลจากดาวเทียมเป็นที่ยอมรับกันในปัจจุบันว่าสามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลในการติดตามตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ทางธรรมชาติและที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ได้อย่างทันท่วงที เนื่องจากมีการบันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบทั้งในด้านของเวลา ช่วงคลื่น และเชิงพื้นที่ อีกทั้งการบันทึกข้อมูลจากดาวเทียมยังบันทึกเป็นข้อมูลเชิงเลข (Digital format) ทำให้สามารถนำไปผลิตภาพและวิเคราะห์ภาพด้วยระบบคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง และสามารถนำไปใช้ร่วมกับระบบภูมิสารสนเทศ (Geographic Information System) ได้อย่างมีประสิทธิภาพดาวเทียมที่นำมาใช้งานด้านการสำรวจจากระยะไกลสามารถจัดกลุ่มตามลักษณะของการโคจร ชนิดของเครื่องบันทึกข้อมูลที่ใช้ในการผลิตภาพ และการครอบคลุมพื้นที่ในการบันทึกข้อมูล ซึ่งอาจแบ่งกลุ่มของดาวเทียมด้านการสำรวจจากระยะไกลได้ 3กลุ่ม ได้แก่ 1) ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลก (Earth Resources Satellite) 2) ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา (Meteorological Satellite) และ 3) ดาวเทียมสำรวจสมุทรศาสตร์ (Marine Observation Satellite)
เนื่องจากในปัจจุบันมีดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลกที่ถูกส่งขึ้นโคจรอย่างมากมาย และมีการนำข้อมูลจากดาวเทียมเหล่านั้นไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ กันอย่างแพร่หลายรวมทั้งในประเทศไทยด้วย ดังนั้นนิสิตจำเป็นที่จะต้องทราบถึงคุณสมบัติที่สำคัญของดาวเทียมแต่ละดวง เพื่อที่จะนำข้อมูลไปประยุกต์ใช้งานได้ถูกต้องและเหมาะสมในด้านต่างๆ ต่อไป