Lost genetic history of Inca child

Lost genetic history of Inca child mummy
Scientists have unravelled part of the genetic code of a child who was sacrificed in a ritual ceremony by the Inca civilisation 500 years ago.
The boy's mummified remains were discovered on an Argentinean mountain.
Analysis of his mitochondrial DNA, which is passed from mother to child, showed that the boy's closest living relatives are in Peru and Bolivia.
He belonged to a population of native South Americans that almost disappeared after the Spanish conquest.
Researchers in Spain were given permission to extract mitochondrial DNA from the seven-year-old boy to study part of his genome.
By comparing his genetic code with hundreds of thousands of samples held in genetic databases, they found his genetic profile was very rare.
One match was to DNA from an individual belonging to the ancient Wari Empire, which ruled the Andes long before the Incas.
And three were to modern-day people living in Peru and Bolivia.
Lead researcher Antonio Salas, a geneticist at the University of Santiago de Compostela, said the data suggested that the boy's genetic line is nearly extinct in modern-day people but was probably more common at the time of the Incas.
"It is well-known that the effective population size was severely reduced at the arrival of the Spanish conquerors (due, for example, to epidemics caused by pathogens brought by Europeans, such as influenza)," he said.
"An important amount of the variability of these populations could have disappeared at the time of this contact.
"It is very informative the fact that we found a member of the Wari civilisation (which overlapped in space and time with the Incas) carrying a profile very related to the mummy's lineage; then suggesting that this lineage might be more frequent at the time at these latitudes."
Ancient DNA
Ancient DNA has been retrieved and analysed from only a small number of mummies, including the prehistoric Tyrolean Iceman and a handful of Inca sacrifice victims.
The study, published in the journal, Scientific Reports, is thought to be the first to investigate the complete mitochondrial DNA of an Inca mummy.
Prof Salas is now working on the complete nuclear genome of the boy and also hopes to sequence the DNA of microbes inside his gut.
"The important point of this project is that this mummy is very special, because of his unique anthropological characteristics and because it is very well-preserved," he added.
"We have now material for more ambitious projects with this mummy; and we can take advantage of new technological developments in the field of genomics and bioinformatics."
Sacrificial rites
Child sacrifice, known as capacocha, was performed during the reign of the Incas in South America.
Children were taken to high mountain peaks where they were killed or left to die.
The boy was discovered in 1985 by mountaineers on Aconcagua mountain in Argentina.
His body had been wrapped in cloth and was surrounded by six small statues.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติสูญหายทางพันธุกรรมของมัมมี่เด็กอินคานักวิทยาศาสตร์ได้ unravelled ส่วนหนึ่งของรหัสพันธุกรรมของเด็กที่เสียสละในพิธีพิธี โดยยังอินคาเมื่อ 500 ปีที่ผ่านมาของเด็กชายยังคง mummified ถูกค้นพบบนภูเขาเชี่ยววิเคราะห์ DNA mitochondrial ของเขา ซึ่งถูกส่งผ่านจากแม่ไปลูก แสดงให้เห็นว่า ญาติอยู่ใกล้เคียงที่สุดของเด็กผู้ชายอยู่ในเปรูและโบลิเวียเขาอยู่กับประชากรชาวอเมริกันใต้ดั้งเดิมที่เกือบจะหายไปหลังจากชนะสเปนนักวิจัยในสเปนได้รับอนุญาตให้แยก mitochondrial DNA จากเด็กอายุเจ็ดปีการศึกษาหนึ่งกลุ่มของเขาโดยการเปรียบเทียบรหัสพันธุกรรมของเขา มีหลายร้อยหลายพันตัวอย่างในฐานข้อมูลทางพันธุกรรม พวกเขาพบประวัติทางพันธุกรรมของเขาได้ยากหนึ่งจับได้ดีเอ็นเอจากการเป็นสมาชิกแต่ละอาณาจักรนงนุชโบราณ ที่ปกครองอังเดสยาวนานก่อนชาวอินคาและสามมีคนทันสมัยที่อาศัยอยู่ในเปรูและโบลิเวียนักวิจัยนำศาลา Antonio, geneticist ที่มหาวิทยาลัยของ Santiago โปส กล่าวว่า ข้อมูลแนะนำเส้นทางพันธุกรรมเด็กจะเกือบสูญคนสมัย แต่ถูกคงทั่วไปในขณะชาวอินคา"เป็นที่รู้จักว่า ขนาดประชากรที่มีประสิทธิภาพลดลงอย่างรุนแรงที่มาพิชิตสเปน (ครบกำหนด ตัวอย่าง การโรคระบาดที่เกิดจากโรคที่นำ โดยชาวยุโรป เช่นไข้หวัดใหญ่)," เขากล่าวว่า"ยอดสำคัญความแปรผันของประชากรเหล่านี้อาจหายครั้งนี้ติดต่อ"ข้อมูลมากเป็นความจริงที่เราพบเป็นสมาชิกยังนงนุช (ที่ซ้อนกันในพื้นที่และเวลากับชาวอินคา) แบกโพรไฟล์มากที่เกี่ยวข้องกับคนเชื้อสายของมัมมี่ แล้ว แนะนำว่า ลินเนจนี้อาจบ่อยขึ้นในเวลาที่ latitudes เหล่านี้"ดีเอ็นเอโบราณดึง และ analysed จากเพียงจำนวนน้อยของมัมมี่ดีเอ็นเอโบราณ รวมถึงในยุคก่อนประวัติศาสตร์ Tyrolean ไอซ์แมนและกำมือของอินคาเสียสละช่วยเหลือผู้ประสบการศึกษา สมุด รายงานทางวิทยาศาสตร์ การเผยแพร่ความคิดก่อนการตรวจสอบดีเอ็นเอ mitochondrial สมบูรณ์ของมัมมี่อินคาศาสตราจารย์ศาลาขณะนี้ทำงานบนจีโนมนิวเคลียร์สมบูรณ์ของเด็ก และยัง หวังที่จะลำดับดีเอ็นเอของจุลินทรีย์ในลำไส้ของเขา"จุดสำคัญของโครงการนี้คือว่า มัมมี่นี้พิเศษมาก มีลักษณะพัณฑ์เฉพาะของเขาและเนื่อง จากเป็นมากรักษา, " เขาเพิ่มขึ้น"เรามีตอนนี้วัสดุสำหรับโครงการที่ทะเยอทะยานมากมัมมี่นี้ และเราสามารถใช้ประโยชน์จากการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในฟิลด์ของ genomics และ bioinformatics"พิธีกรรมบูชาลูกบูชา capacocha เรียกว่าทำในสมัยชาวอินคาในอเมริกาใต้เด็กที่ถ่ายไปยอดภูเขาสูงที่พวกเขาถูกฆ่า หรือซ้ายตายเด็กถูกค้นพบในปี 1985 โดย mountaineers บนเขา Aconcagua ในอาร์เจนตินาร่างกายของเขามีการห่อในผ้า และถูกล้อมรอบ ด้วยรูปปั้นขนาดเล็ก 6

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลืมประวัติศาสตร์ทางพันธุกรรมของเด็ก Inca
แม่นักวิทยาศาสตร์ได้หลุดส่วนหนึ่งของรหัสพันธุกรรมของเด็กที่ได้รับการเสียสละในพิธีพิธีกรรมโดยอารยธรรมอินคา500 ปีที่ผ่านมา.
ตายซากของเด็กยังคงถูกค้นพบบนภูเขาอาร์เจนตินา.
วิเคราะห์ยลดีเอ็นเอของเขา ซึ่งจะถูกส่งผ่านจากแม่ไปสู่ลูกแสดงให้เห็นว่าอยู่ใกล้ญาติของเด็กที่อยู่ในเปรูและโบลิเวีย.
เขาเป็นประชากรอเมริกันใต้พื้นเมืองที่เกือบจะหายไปหลังจากที่สเปนชนะ.
นักวิจัยในประเทศสเปนได้รับอนุญาตในการสกัดยลดีเอ็นเอจาก เด็กเจ็ดปีในการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของจีโนมของเขา.
โดยการเปรียบเทียบรหัสพันธุกรรมของเขาด้วยหลายร้อยหลายพันตัวอย่างที่จัดขึ้นในฐานข้อมูลทางพันธุกรรมที่พวกเขาพบว่ารายละเอียดทางพันธุกรรมของเขาเป็นที่หายากมาก.
หนึ่งในการแข่งขันคือการตรวจดีเอ็นเอจากบุคคลที่เป็นของโบราณที่ วารีเอ็มไพร์ซึ่งปกครองเทือกเขาแอนดีนานก่อนที่จะอินคา.
และสามคนกับคนสมัยใหม่ที่อาศัยอยู่ในเปรูและโบลิเวีย.
ผู้นำการวิจัยอันโตนิโอ Salas เป็นพันธุกรรมที่มหาวิทยาลัยซานติอาโกเดอคอมโพกล่าวว่าข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่าสายพันธุกรรมของเด็ก เกือบจะสูญพันธุ์ในคนที่ทันสมัยวัน แต่อาจจะเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในช่วงเวลาของอินคาที่.
"มันเป็นที่รู้จักกันดีว่าขนาดของประชากรที่มีประสิทธิภาพได้รับการลดลงอย่างรุนแรงในการมาถึงของสเปนชนะ (เนื่องจากตัวอย่างเช่นการระบาดที่เกิด โดยเชื้อโรคที่นำโดยชาวยุโรปเช่นไข้หวัดใหญ่)
"เขากล่าว." จำนวนเงินที่สำคัญของความแปรปรวนของประชากรเหล่านี้จะได้หายไปในช่วงเวลาของการติดต่อนี้.
"มันเป็นข้อมูลมากความจริงที่ว่าเราพบว่าสมาชิกของวารีที่ อารยธรรม (ซึ่งซ้อนทับในพื้นที่และเวลากับอินคา) การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับรายละเอียดมากที่จะเชื้อสายแม่ของ; แล้วบอกว่าเชื้อสายนี้อาจจะบ่อยมากขึ้นในเวลาที่ละติจูดเหล่านี้.
"ดีเอ็นเอโบราณดีเอ็นเอโบราณที่ได้รับการเรียกคืนและการวิเคราะห์จากเพียงจำนวนน้อยของมัมมี่รวมทั้ง
Iceman สินะยุคก่อนประวัติศาสตร์และกำมือของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการเสียสละอินคาได้.
การศึกษา, ตีพิมพ์ในวารสารรายงานทางวิทยาศาสตร์ก็คิดว่าจะเป็นคนแรกที่จะตรวจสอบดีเอ็นเอยลสมบูรณ์ของมัมมี่ Inca.
ศ Salas คือตอนนี้ทำงานบนจีโนมนิวเคลียร์ที่สมบูรณ์ของเด็กและยังหวังที่จะลำดับดีเอ็นเอของจุลินทรีย์ที่อยู่ภายในลำไส้ของเขา .
"จุดสำคัญของโครงการนี้ก็คือว่าแม่นี้เป็นพิเศษมากเพราะลักษณะทางมานุษยวิทยาของเขาที่ไม่ซ้ำกันและเพราะมันเป็นอย่างดีรักษา" เขากล่าวเสริม.
"เรามีวัสดุในขณะนี้สำหรับโครงการที่มีความทะเยอทะยานมากขึ้นกับแม่นี้ และเราสามารถใช้ประโยชน์จากการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในด้านฟังก์ชั่นและชีวสารสนเทศได้.
"บวงสรวงพิธีกรรมเสียสละเด็กที่รู้จักกันเป็น
capacocha ได้รับการดำเนินการในช่วงรัชสมัยของอินคาในอเมริกาใต้.
เด็กถูกนำตัวไปที่ยอดภูเขาสูงที่พวกเขาถูกฆ่าตาย หรือทิ้งให้ตาย.
เด็กที่ถูกค้นพบในปี 1985 โดยชำนาญบนภูเขา Aconcagua ในอาร์เจนตินา.
ร่างของเขาได้รับการห่อด้วยผ้าและถูกล้อมรอบด้วยรูปปั้นขนาดเล็กที่หก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หายไปพันธุประวัติของนักวิทยาศาสตร์มัมมี่อินคามีเด็ก unravelled ส่วนหนึ่งของรหัสทางพันธุกรรมของเด็กที่ถูกสังเวยในพิธีกรรม โดยอารยธรรมอินคา 500 ปีที่ผ่านมา .
ของเด็กสำคัญยังคงมีการค้นพบบนภูเขาอาร์เจนตินา .
การวิเคราะห์ดีเอ็นเอของเขาที่ส่งผ่านจากแม่สู่ลูกพบว่า เด็กก็ใกล้ญาติในเปรูและโบลิเวีย
เขาเป็นของประชากรพื้นเมืองทางใต้ของชาวอเมริกันที่เกือบจะหายไปหลังจากการพิชิตสเปน .
นักวิจัยในสเปน ได้รับอนุญาตให้สกัดดีเอ็นเอจากเจ็ดขวบเรียนส่วนหนึ่งของจีโนมของเขา .
โดยการเปรียบเทียบรหัสทางพันธุกรรมของเขาที่มีหลายร้อยหลายพันตัวอย่างที่จัดขึ้นในฐานข้อมูลพันธุกรรม พบรายละเอียดทางพันธุกรรมของเขาก็ยากมาก .
ราคาเป็นดีเอ็นเอจากบุคคลที่เป็นของอาณาจักรวารีโบราณซึ่งปกครอง Andes นานก่อนอินคา .
3 คือ ปัจจุบันผู้คนที่อาศัยอยู่ในเปรูและโบลิเวีย
นักวิจัยตะกั่ว อันโตนิโอ ซาลัส ,