DiscussionFirst and foremost our go

Discussion
First and foremost our goal in the present study was to update
and extend our understanding of the relationship between gender
and leadership effectiveness. Toward this end, we quantitatively
review 49 years of research pertaining to the relationship
between gender and leadership effectiveness as well as to
a number of theoretically based moderators of this relationship.
In doing so, we update and extend Eagly et al.’s (1995) metaanalysis
of gender differences in leadership effectiveness.
Moreover, we expand role congruity theory (RCT) by reframing
it such that it applies regardless of gender (i.e., to both men and
women). Finally, we highlight the importance of rating source
in any examination of gender advantages in leadership effectiveness
(i.e., the importance of examining self-reported and
other-reported assessments of leadership effectiveness; Eagly &
Carli, 2003a, 2003b; Vecchio, 2002, 2003).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สนทนาอันดับแรกเป้าหมายของเราในการศึกษาปัจจุบันถูกปรับปรุงและขยายความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเพศของเราและประสิทธิผลภาวะผู้นำ ต่อการนี้ เรา quantitativelyทบทวนปี 49 ของงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างเพศและภาวะผู้นำเกิดประสิทธิผลรวมทั้งเป็นจำนวนผู้ควบคุมครั้งแรกราคาตามความสัมพันธ์นี้ในการทำดังนั้น เราปรับปรุง และขยาย Eagly et al. ของ metaanalysis (1995)ของเพศความแตกต่างในความเป็นผู้นำนอกจากนี้ เราได้ขยายบทบาท congruity ทฤษฎี (RCT) โดย reframingเรื่องดังกล่าวที่มีไม่ว่าเพศ (เช่น ให้ทั้งชาย และผู้หญิง) สุดท้าย เราเน้นความสำคัญของแหล่งการจัดอันดับในการตรวจเพศประโยชน์ใด ๆ ในประสิทธิผลภาวะผู้นำ(เช่น ความสำคัญของการตรวจสอบรายงานตนเอง และอื่น ๆ รายงานประเมินประสิทธิผลภาวะผู้นำ Eagly &Carli, 2003a, 2003b Vecchio, 2002, 2003)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พูดคุยเรื่อง
แรกและสำคัญที่สุดเป้าหมายของเราในการศึกษาครั้งนี้คือการปรับปรุง
และขยายความเข้าใจของเราของความสัมพันธ์ระหว่างเพศ
และประสิทธิผลเป็นผู้นำ ในช่วงท้ายนี้เราปริมาณ
ทบทวน 49 ปีของการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์
ระหว่างเพศและความเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับ
จำนวนของผู้ดูแลตามทฤษฎีของความสัมพันธ์นี้.
ในการทำเช่นเราปรับปรุงและขยาย Eagly et al. ของ (1995 ) metaanalysis
ของความแตกต่างทางเพศในการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ.
นอกจากนี้เราขยายทฤษฎีบทบาทความเหมาะสม (RCT) โดย reframing
มันดังกล่าวว่าจะนำไปใช้โดยไม่คำนึงถึงเพศ (เช่นไปทั้งชายและ
หญิง) สุดท้ายเราเน้นความสำคัญของแหล่งที่มาของคะแนน
ในการตรวจสอบใด ๆ ของข้อได้เปรียบทางเพศในการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิผล
(เช่นความสำคัญของการตรวจสอบตนเองรายงานและ
การประเมินผลอื่น ๆ รายงานประสิทธิผลภาวะผู้นำ Eagly &
Carli, 2003A, 2003b; Vecchio, 2002, 2003 )

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การอภิปราย
ก่อนอื่นเป้าหมายของเราในการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุง
และขยายความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเพศ
และประสิทธิผลภาวะผู้นำ ไปยังจุดสิ้นสุดนี้ เราใช้
ทบทวน 49 ปีของการวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเพศและประสิทธิผลภาวะผู้นำ
เช่นเดียวกับจำนวนของทฤษฎีที่ใช้


ผู้ดูแลความสัมพันธ์นี้ ในการทำเช่นนั้นเราปรับปรุงและขยาย eagly et al . ( 2538 ) metaanalysis
ความแตกต่างของเพศในประสิทธิผลภาวะผู้นำ .
นอกจากนี้ เราได้ขยายทฤษฎีความเหมาะสมในบทบาท Razorflame ) โดย reframing
ซึ่งใช้โดยไม่คำนึงถึงเพศ ( เช่น ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
) ในที่สุด เราเน้นความสำคัญของแหล่งที่มาใด ๆของประโยชน์ในการจัดอันดับ
-
ในประสิทธิผลภาวะผู้นำ ( เช่นความสำคัญของการตรวจสอบและรายงานอื่น ๆ self-reported
การประเมินประสิทธิผลภาวะผู้นำ ; eagly & Carli 2003a 2003b ;
, , โอ , 2002 , 2003 )