Early Childhood Emotional and Socia

Early Childhood Emotional and Social Development: Emotional Expressiveness and Understanding
Angela Oswalt, MSW
"Emotional intelligence" is term used to describe someone's ability to express his or her emotions appropriately, to correctly interpret other people's emotions, and to understand the triggers and outcomes of certain emotions. Children with high levels of emotional intelligence are also skilled in their ability to cope with their own or other people's emotions in a way that creates positive social connections. During early childhood, most children show great gains in each of these developmental skills. Advancing in emotional intelligence is a lifelong goal that can help people maintain emotional health and prosocial, cooperative behaviors.

Psychological tests designed to assess emotional intelligence, somewhat like IQ tests, have been developed, but these tests are primarily used in research settings rather than for determining the real-world strengths and weaknesses of particular children. In research settings, children who show higher levels of emotional intelligence also have higher rates of self-esteem, social ability and happiness, as well as lower rates of aggression. However, caregivers should remember that rating children with a score on a test may not adequately describe and reflect each unique child's gifts and assets.

As discussed previously in our other child development documents, the different areas of development are interconnected rather than being separate, isolated skills. The interconnection between cognitive skills and emotional development is particularly important. As children's abstract thinking and language skills increase, they become better able to label and discuss their emotions with others. For example, they can let Mom and Dad know that they are feeling scared rather than just crying or screaming. Similarly, children can explain that a friend is "sad because he misses his Dad."

Language can also allow children to better regulate their feelings, self-soothe in response to negative feelings, and exert some control over emotion-provoking situations. For example, very young children may run away or hide from Uncle Todd when he makes a scary face. In contrast, older children can tell Uncle Todd that his faces are scary, ask him to stop making faces, and/or remind themselves that Uncle Todd is trying to be silly rather than mean. In addition, as older children develop the ability to take other people's viewpoints, they can start to change or stop their behaviors that might hurt someone else's feelings.

During early childhood, children typically start to develop self-conscious emotions as they start evaluating themselves, instead of purely reacting to caregivers' or other adults' evaluations. For instance, an older baby or a younger toddler may be perfectly happy covering himself or herself from head to foot with mud from the backyard, and won't experience a negative emotion until caregivers express their displeasure at the messy situation. Children in the early childhood stage may still enjoy playing in the muddy yard, but as soon as they see Mom coming, shame and/or guilt may emerge as a result of evaluating their appearance. A child may also experience a sense of pride when Daddy says, "That's a great drawing."

According to Erickson's developmental theory, children who start to evaluate themselves have entered the stage of "autonomy versus shame and doubt." At the end of this stage, young children's self-evaluations are either autonomous and positive, or negative and ashamed. Young children who feel autonomous see themselves as good, valuable people who are able to do what is expected of them in a positive way. In contrast, young children who feel ashamed also feel worthless and incapable of doing what is expected of them.

As children become increasingly self-aware, more effective at communicating, and better at understanding the thoughts and feelings of others, their social skills increase. Children in the early childhood stage become skilled at modifying and expressing their emotions to fit different social situations. For example, Billy may feel angry, but he knows that having a tantrum at school is inappropriate. Similarly, Sally learns that acting pleasant and happy even if she feels shy and scared is a better way to meet people at a birthday party when she doesn't know many of the other children. Changing or controlling one's emotions in social situations is an important skill that allows children to fit in with groups and start to create interpersonal relationships.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัยเด็กอารมณ์และสังคมการพัฒนา: ความหมายทางอารมณ์และความเข้าใจ
angela Oswalt, ขยะ
"ความฉลาดทางอารมณ์" เป็นคำที่ใช้อธิบายความสามารถของคนที่จะแสดงอารมณ์ของเขาหรือเธอเหมาะสมที่ถูกต้องตีความอารมณ์ของคนอื่นและเข้าใจการเรียก และผลของอารมณ์บางอย่างเด็กที่มีระดับสูงของความฉลาดทางอารมณ์ที่มีฝีมือยังอยู่ในความสามารถในการรับมือกับอารมณ์ของคนของตัวเองหรือผู้อื่นในทางที่จะสร้างการเชื่อมต่อสังคมในเชิงบวก ในช่วงวัยเด็กตอนต้นเด็กส่วนใหญ่แสดงให้เห็นกำไรที่ดีในแต่ละการพัฒนาทักษะเหล่านี้ ก้าวหน้าในความฉลาดทางอารมณ์เป็นเป้าหมายตลอดชีวิตที่สามารถช่วยให้ผู้คนรักษาสุขภาพทางอารมณ์และ prosocial,พฤติกรรมความร่วมมือ.

การทดสอบทางจิตวิทยาออกแบบมาเพื่อประเมินความฉลาดทางอารมณ์คล้ายการทดสอบไอคิวได้รับการพัฒนา แต่ผลการทดสอบเหล่านี้จะใช้เป็นหลักในการตั้งค่าการวิจัยมากกว่าการพิจารณาจุดแข็งของโลกแห่งความจริงและจุดอ่อนของเด็กโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการตั้งค่าการวิจัยเด็กที่แสดงให้เห็นระดับที่สูงขึ้นของความฉลาดทางอารมณ์ยังมีอัตราที่สูงขึ้นของความนับถือตนเองความสามารถในทางสังคมและมีความสุขเช่นเดียวกับที่อัตราการลดลงของการรุกราน แต่ผู้ดูแลผู้ป่วยควรจำไว้ว่าเด็กคะแนนด้วยคะแนนในการทดสอบอาจจะไม่เพียงพอที่จะอธิบายและสะท้อนให้เห็นถึงของขวัญแต่ละลูกที่ไม่ซ้ำกันและสินทรัพย์.

ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ในเอกสารการพัฒนาเด็กอื่น ๆ ของเราในพื้นที่ที่แตกต่างกันของการพัฒนาที่เชื่อมต่อกันมากกว่าการแยก ทักษะการแยกการเชื่อมต่อระหว่างองค์ความรู้และทักษะในการพัฒนาทางอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นความคิดนามธรรมและทักษะทางภาษาที่เพิ่มขึ้นของเด็กที่พวกเขากลายเป็นดีขึ้นสามารถที่จะติดป้ายและหารือเกี่ยวกับอารมณ์ของพวกเขากับคนอื่น ๆ ตัวอย่างเช่นพวกเขาสามารถช่วยให้พ่อแม่รู้ว่าพวกเขามีความรู้สึกกลัวมากกว่าแค่ร้องไห้หรือกรีดร้อง ในทำนองเดียวกันเด็กสามารถอธิบายได้ว่าเพื่อนคือ "เสียใจเพราะเขาคิดถึงพ่อของเขา."

ภาษานอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้เด็กเพื่อให้ควบคุมความรู้สึกของตนด้วยตนเองบรรเทาในการตอบสนองต่อความรู้สึกเชิงลบและออกแรงควบคุมบางกว่าสถานการณ์ที่กระตุ้นอารมณ์ ตัวอย่างเช่นเด็กเล็กมากอาจจะวิ่งหนีหรือซ่อนตัวจากลุงโทดด์เมื่อเขาทำให้ใบหน้าที่น่ากลัว ในทางตรงกันข้ามเด็กสามารถบอกลุง todd ที่ใบหน้าของเขาเป็นที่น่ากลัวขอให้เขาหยุดการทำใบหน้าและ / หรือการเตือนตัวเองทอดด์ลุงที่มีการพยายามที่จะโง่มากกว่าค่าเฉลี่ย ในนอกจากนี้ยังเป็นเด็กพัฒนาความสามารถที่จะใช้มุมมองของคนอื่นที่พวกเขาสามารถเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงหรือหยุดพฤติกรรมของพวกเขาที่อาจทำร้ายความรู้สึกของคนอื่น.

ในช่วงวัยเด็กตอนต้นเด็กมักจะเริ่มต้นในการพัฒนาอารมณ์ของตัวเองมีสติในขณะที่พวกเขาเริ่มต้นการประเมินตัวเองแทนอย่างหมดจดทำปฏิกิริยากับผู้ดูแลผู้ป่วยหรือผู้ใหญ่คนอื่น ๆ 'การประเมินผล เช่นทารกที่มีอายุมากกว่าหรือเด็กวัยหัดเดินที่มีอายุน้อยกว่าอาจจะมีความสุขอย่างสมบูรณ์แบบครอบคลุมตัวเองหรือตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยโคลนจากสนามหลังบ้านที่และจะไม่ได้สัมผัสกับอารมณ์ความรู้สึกเชิงลบจนผู้ดูแลผู้ป่วยแสดงความไม่พอใจของพวกเขาที่สถานการณ์ยุ่ง เด็กที่อยู่ในขั้นตอนวัยเด็กช่วงต้นอาจจะยังคงสนุกกับการเล่นในสนามเต็มไปด้วยโคลน แต่ทันทีที่พวกเขาเห็นแม่มาความอัปยศและ / หรือความผิดที่เกิดขึ้นอาจเป็นผลมาจากการประเมินลักษณะของพวกเขา เด็กยังอาจพบความรู้สึกของความภาคภูมิใจเมื่อพ่อกล่าวว่า "นั่นคือการวาดภาพที่ดี."

ตามทฤษฎีการพัฒนาเอริกของเด็กที่เริ่มต้นที่จะประเมินตัวเองได้เข้าสู่ขั้นตอนของ "เอกราชเมื่อเทียบกับความอัปยศและความสงสัย." ที่ส่วนท้ายของขั้นตอนนี้การประเมินตนเองของเด็กมีทั้งอิสระและเชิงบวกหรือเชิงลบและละอายใจ เด็กที่รู้สึกว่าตนเองเห็นว่าตัวเองเป็นดีคนที่มีค่าที่มีความสามารถที่จะทำในสิ่งที่คาดหวังของพวกเขาในทางบวก ในทางตรงกันข้ามเด็กหนุ่มที่รู้สึกละอายใจยังรู้สึกไร้ค่าและความสามารถในการทำในสิ่งที่คาดหวังของพวกเขา.

ขณะที่เด็กกลายเป็นตัวรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการสื่อสารและดีกว่าที่การทำความเข้าใจความคิดและความรู้สึกของคนอื่น ๆ ทักษะทางสังคมของพวกเขา เพิ่มขึ้นเด็กที่อยู่ในขั้นตอนวัยเด็กกลายเป็นความชำนาญในการแก้ไขและแสดงอารมณ์ของพวกเขาเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางสังคมที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น billy อาจรู้สึกโกรธ แต่เขารู้ว่ามีความโกรธเคืองที่โรงเรียนไม่เหมาะสม ในทำนองเดียวกันแซลลี่รู้ว่าการแสดงที่น่าพอใจและมีความสุขแม้ว่าเธอรู้สึกอายและกลัวเป็นวิธีที่ดีกว่าที่จะพบกับผู้คนในงานปาร์ตี้วันเกิดของเธอเมื่อไม่ทราบจำนวนมากของเด็กคนอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงหรือการควบคุมอารมณ์ในสถานการณ์ทางสังคมเป็นทักษะที่สำคัญที่จะช่วยให้เด็กเพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มและเริ่มที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อารมณ์ช่วงวัยเด็กและการพัฒนาสังคม: Expressiveness อารมณ์ความเข้าใจ
Angela Oswalt มูลฝอย
"ความฉลาดทางอารมณ์" เป็นคำที่ใช้ในการอธิบายของคนสามารถแสดงอารมณ์ของตน เองอย่างเหมาะสม ถูกตีความอารมณ์ของผู้อื่น และทริกเกอร์และผลของอารมณ์บางอย่าง เด็กที่ มีความฉลาดทางอารมณ์ระดับสูงก็มีทักษะความสามารถในการรับมือกับตนหรืออารมณ์ของบุคคลอื่นในทางที่สร้างการเชื่อมต่อสังคมในเชิงบวก เด็กส่วนใหญ่แสดงกำไรดีในแต่ละทักษะเหล่านี้พัฒนาในช่วงปฐมวัย ความก้าวหน้าในความฉลาดทางอารมณ์เป็นเป้าหมายรองที่สามารถช่วยให้คนที่รักษาสุขภาพอารมณ์ และ prosocial ลักษณะการทำงานแบบมีส่วนร่วม

ได้รับการพัฒนาออกแบบมาเพื่อประเมินความฉลาดทางอารมณ์ ค่อนข้างเช่นทดสอบ IQ ทดสอบทางจิตวิทยา แต่การทดสอบเหล่านี้จะใช้ ในการวิจัยค่า ปรับกำหนดจริงจุดแข็งและจุดอ่อนของเด็กเฉพาะ ในการตั้งค่าวิจัย เด็กแสดงระดับสูงของความฉลาดทางอารมณ์ยังมีราคาสูงกว่าความนับถือตนเอง ความสามารถทางสังคม และความสุข ตลอดจนล่างอัตราการรุกราน อย่างไรก็ตาม เรื้อรังควร จำว่า เด็กจัดอันดับคะแนนในการทดสอบอาจไม่เพียงพออธิบายสะท้อนแต่ละเฉพาะเด็กของขวัญและสินทรัพย์

ตามที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ของเราเอกสารพัฒนาเด็กที่อื่น พื้นที่ต่าง ๆ ของการพัฒนาเชื่อมโยงถึงกันแทนการแยก แยกทักษะการ ความเกี่ยวข้องกันระหว่างทักษะการรับรู้และการพัฒนาทางอารมณ์มีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นเด็กนามธรรมความคิดและภาษาทักษะเพิ่ม พวกเขาเป็นดีกว่าต้องติดฉลาก และหารือเกี่ยวกับอารมณ์ของตนกับผู้อื่น ตัวอย่าง พวกเขาสามารถให้แม่และพ่อรู้ว่า พวกเขารู้สึกกลัวมากกว่าเพียงร้องไห้ หรือกรีดร้อง ในทำนองเดียวกัน เด็กสามารถอธิบายว่า เพื่อน "เศร้า เพราะเขาคิดถึงพ่อของเขา"

ภาษาสามารถอนุญาตให้เด็กควบคุมความรู้สึกของพวกเขา บรรเทาด้วยตนเองในการตอบสนองความรู้สึกทางลบ ดีกว่า และออกแรงควบคุมอารมณ์ provoking สถานการณ์บางอย่างได้ ตัวอย่าง เด็กเล็กอาจวิ่งหนี หรือซ่อนจากทอดด์ลุงเขาทำหน้าน่ากลัว ในทางตรงกันข้าม เด็กสามารถบอกลุงทอดด์ใบหน้าของเขาน่ากลัว ขอให้เขาหยุดทำหน้า หรือเตือนตัวเองว่า ลุงทอดด์กำลังจะโง่ มากกว่าหมายถึง เด็กพัฒนาความสามารถในการใช้มุมมองของคนอื่น พวกเขาสามารถเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง หรือหยุดการทำงานที่อาจทำร้ายผู้อื่นเป็นความรู้สึกได้

ระหว่างปฐมวัย เด็กจะเริ่มพัฒนาอารมณ์ประหม่าจะเริ่มประเมินตัวเอง แทนปฏิกิริยาเพียงอย่างเดียวเพื่อความเรื้อรัง หรือการประเมินของผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ตัวอย่าง เป็นเด็กเก่าหรือเด็กที่หัดเดินที่อายุน้อยกว่าอาจจะแสนสุขครอบคลุมตัวเองตั้งแต่หัวถึงเท้า ด้วยโคลนจากสวนหลังบ้าน และไม่ประสบอารมณ์ลบจนเรื้อรังแสดงความไม่พอใจที่สถานการณ์ยุ่ง เด็กในระยะปฐมวัยอาจยังคงเพลิดเพลินกับการเล่นในลานโคลน แต่ทันทีที่พวกเขาเห็นแม่มา ละอายใจและ/หรือความผิดอาจเกิดจากการประเมินลักษณะที่ปรากฏ เด็กยังอาจรู้สึกภูมิใจว่า พ่อ "ที่เป็นรูปวาดที่ดี"

ตามทฤษฎีการพัฒนาของ Erickson เด็กที่เริ่มจะประเมินตัวเองเข้าขั้น "ตั้งเมื่อเทียบกับความอัปยศและสงสัย" เมื่อสิ้นสุดระยะนี้ self-evaluations ของเด็กมีทั้งปกครอง และเป็น บวก หรือลบ และละอาย เด็กหนุ่มรู้สึกอิสระดูตัวเองเป็นดี คนดีที่จะได้ทำอะไรคาดว่าพวกเขาในทางบวก ในทางตรงกันข้าม เด็กที่รู้สึกละอายใจรู้สึกสามหาว และไม่สามารถทำอะไรคาดว่าพวกเขา

เป็นเด็กกลายเป็น self-aware มากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร และดี เข้าใจความคิดและความรู้สึกของผู้อื่น ทักษะทางสังคมเพิ่มขึ้น เด็กในระยะปฐมวัยเป็นทักษะที่แก้ไข และแสดงอารมณ์ของตนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ ทางสังคม ตัวอย่าง บิลลี่อาจรู้สึกโกรธ แต่เขารู้ว่า มี tantrum การที่เหมาะสม ในทำนองเดียวกัน แฮร์รีรู้ที่ทำหน้าที่ดี และมีความสุขแม้ว่าเธอรู้สึกอาย และกลัวเป็นการพบปะผู้คนในงานเลี้ยงวันเกิดเมื่อเธอไม่รู้ว่าเด็กอื่น ๆ มากมาย เปลี่ยนแปลง หรือการควบคุมอารมณ์เป็นหนึ่งในสถานการณ์ทางสังคมเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้เด็กให้พอดีกับกลุ่ม และการสร้างมนุษยสัมพันธ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ช่วงต้นในวัยเด็กทางสังคมและการพัฒนาทางด้านอารมณ์ความรู้สึกอารมณ์ความรู้สึกและความเข้าใจลึกซึ้ง

ซึ่งจะช่วยแองเจลา oswalt msw "อัจฉริยะทางอารมณ์"เป็นถ้อยคำที่ใช้เพื่ออธิบายถึงของใครบางคนหรือความสามารถในการแสดงของเธออารมณ์ความรู้สึกของเขาได้อย่างเหมาะสมในการแปลอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นได้อย่างถูกต้องและเพื่อทำความเข้าใจและจะทำให้เกิดผลลัพธ์ของอารมณ์ความรู้สึกบางอย่าง.สำหรับเด็กที่พร้อมด้วยระดับสูงของหน่วยข่าวกรองทางอารมณ์มียังมีความชำนาญในความสามารถของเขาในการรับมือกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนของตัวเองหรืออื่นๆในทางที่จะสร้างการเชื่อมต่อทางสังคมในเชิงบวก ในระหว่างช่วงต้นสำหรับเด็กมากที่สุดในวัยเด็กแสดงผลได้อย่างดีเยี่ยมในทักษะด้านการพัฒนาแต่ละอย่างเหล่านี้ ผลักดันในความฉลาดทางอารมณ์มีเป้าหมายตลอดชีวิตที่สามารถช่วยให้ประชาชนรักษา prosocial และอารมณ์เพื่อ สุขภาพลักษณะการทำงานร่วมมือกัน.

ทางจิตวิทยาการทดสอบได้รับการออกแบบเพื่อประเมินความฉลาดทางอารมณ์ค่อนข้างมากเช่นการทดสอบ IQ ได้รับการพัฒนาแต่การทดสอบนี้ซึ่งโดยปกติจะใช้ในการตั้งค่าการวิจัยมากกว่าสำหรับการกำหนดจุดแข็งและจุดอ่อนจริงของเด็กเฉพาะ ในการตั้งค่าการวิจัยเด็กที่แสดงระดับสูงของหน่วยข่าวกรองทางด้านอารมณ์ความรู้สึกทั้งยังมีอัตราสูงกว่าของตนเองความสุขและความสามารถทางสังคมเป็นอย่างดีเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจากการรุกราน. แต่ถึงอย่างไรก็ตามผู้ดูแลเด็กจะจำได้ว่าเด็กมีการจัดอันดับคะแนนในการทดสอบที่อาจจะไม่เพียงพอจะอธิบายและสะท้อนถึงของขวัญที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเด็กแต่ละคนและการใช้สินทรัพย์.

ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ในเอกสารการพัฒนาเด็กคนอื่นๆของเราบริเวณที่แตกต่างกันไปที่เชื่อมต่อเข้าถึงกันได้รับการพัฒนามากกว่าที่จะเป็นความชำนาญแยกแบบแยกพื้นที่การเชื่อมต่อระหว่างกันระหว่างทักษะทางการเรียนรู้และการพัฒนาทางด้านอารมณ์ความรู้สึกเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เป็นความคิดแบบนามธรรมของเด็กและพัฒนาทักษะทาง ภาษา เพิ่มขึ้นก็กลายเป็นดีขึ้นสามารถที่จะป้ายและร่วม อภิปราย อารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นด้วย ยกตัวอย่างเช่นพวกเขาสามารถปล่อยให้แม่และพ่อรู้ว่าพวกเขามีความรู้สึกกลัวมากกว่าร้องไห้หรือร้อง ในทำนองเดียวกันเด็กๆสามารถอธิบายว่าเพื่อนที่เป็น"เศร้าเพราะเขาพลาด ภาษา พ่อ"

ของเขาสามารถให้เด็กเพื่อควบคุมความรู้สึกของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้นด้วยตัวเอง - ผ่อนคลายในการตอบสนองกับความรู้สึกด้านลบและพยายามควบคุมอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างมากกว่าสถานการณ์การกระตุ้น ตัวอย่างเช่นเป็นอย่างมากเด็กอาจไม่สามารถทำงานหรือซ่อนอยู่ห่างออกไปในระยะทางจากลุง, Sweeney Todd เมื่อเขาทำให้หน้าที่สยองเกิดขึ้น ในความเปรียบต่างรุ่นเก่ากว่าเด็กๆสามารถบอกลุง, Sweeney Todd ที่เขาหันหน้าเข้าหาอาจสร้างความตกใจให้กับคุณ,ถามเขาถึงหยุดทำให้ใบหน้าและ/หรือเตือนตัวเองว่าลุง, Sweeney Todd ได้พยายามที่จะโง่มากกว่าหมายถึง. นอกจากนี้ในการเป็นเด็กโตพัฒนาความสามารถที่จะนำความคิดเห็นของคนอื่นก็จะสามารถเริ่มการเปลี่ยนแปลงหรือหยุดการทำงานของตนที่อาจจะทำร้ายผู้อื่นของความรู้สึก.

ในช่วงวัยเด็กตั้งแต่เช้าตรู่โดยปกติแล้วเด็กจะเริ่มพัฒนาอารมณ์ความรู้สึกแบบบริการตัวเองและคำนึงในด้านของพวกเขาเริ่มการประเมินตัวเองแทนอย่างแท้จริงรับมือกับ''ผู้ดูแลเด็กหรือผู้ใหญ่อื่นๆการทดสอบใช้งาน ยกตัวอย่างเช่นลูกน้อยรุ่นเก่าที่เด็กวัยหัดเดินหรืออายุน้อยที่อาจได้รับครอบคลุมอย่างสมบรูณ์แบบด้วยตัวเองมีความสุขหรือว่าตัวเองจากหัวจดเท้าด้วยโคลนจากพื้นที่ด้านหลังและจะไม่รับประสบการณ์ความรู้สึกในทางลบจนกว่าผู้ดูแลเด็ก Express ความไม่พอใจของพวกเขาที่สถานการณ์ความยุ่งเหยิงได้ สำหรับเด็กในช่วงวัยเด็กช่วงต้นที่อาจเพลิดเพลินใจไปกับการเล่นในสนามที่เป็นโคลนแต่ทันทีที่เห็นแม่มาขายหน้าและ/หรือความผิดอาจปรากฏออกมาเป็นผลของการประเมินผลลักษณะของพวกเขา เด็กที่อาจมีความรู้สึกของความ ภาคภูมิใจ เมื่อคุณพ่อบอกว่า"ที่เป็น ภาพ วาดที่ดีเยี่ยม"

ยังตามทฤษฎีการพัฒนาการของเด็กที่เริ่ม Erickson Stadium ในการประเมินผลตนเองได้เข้าสู่ขั้นตอนของ"ความเป็นอิสระเมื่อเทียบกับความอายและไม่ต้องสงสัยเลยว่า"ในช่วงปลายของเวทีนี้ด้วยตนเอง - การทดสอบใช้งานของเด็กเป็นเขตปกครองตนเองและด้านบวกหรือลบและละอายใจ คนหนุ่มสาวที่เขตปกครองตนเองดูความรู้สึกตัวเองเป็นดีคนที่มีค่าที่มีความสามารถในการทำอะไรคาดว่าในเชิงบวกที่. ในทางตรงข้ามเด็กที่ความรู้สึกละอายใจยังมีความรู้สึกไม่มีราคาและไม่สามารถทำให้การถึงความคาดหวังที่มีต่อเขา.

เป็นเด็กเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆด้วยตนเอง - มี ประสิทธิภาพ มากขึ้นในการติดต่อสื่อสารและดีกว่าในการทำความเข้าใจและความรู้สึกความคิดของผู้อื่นทักษะทางสังคมที่เพิ่มขึ้นสำหรับเด็กในช่วงวัยเด็กช่วงต้นที่กลายเป็นมีความชำนาญในการแก้ไขและแสดงความคิดเห็นอารมณ์ของพวกเขาให้เหมาะสมกับสถานการณ์สังคมที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นบิลลี่อาจรู้สึกโกรธมากแต่เขารู้ว่ามีโมโหโทโสที่โรงเรียนไม่เหมาะสม ในทำนองเดียวกันSally เรียนรู้ที่ทำหน้าที่เพลิดเพลินใจและมีความสุขได้ถ้าเธอรู้สึกเขินอายและกลัวว่ามีวิธีการใดที่ดีกว่าเพื่อพบปะกับผู้คนในงานปาร์ตี้วันเกิดเมื่อเธอไม่รู้จำนวนมากของคนอื่นๆ การเปลี่ยนแปลงหรือการควบคุมหนึ่งของอารมณ์ความรู้สึกในสถานการณ์ทางสังคมเป็นทักษะที่สำคัญที่ช่วยให้เด็กได้เหมาะสมกับกลุ่มและเริ่มที่จะสร้างความสัมพันธ์สร้าง สัมพันธภาพ .