In 1981, Bath began working on her

In 1981, Bath began working on her most well-known invention: the Laserphaco Probe (1986). Harnessing laser technology, the device created a less painful and more precise treatment of cataracts. She received a patent for the device in 1988, becoming the first African-American female doctor to receive a patent for a medical purpose. (She also holds patents in Japan, Canada and Europe.) With her Laserphaco Probe,

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปี 1981 อาบน้ำเริ่มทำงานกับสิ่งประดิษฐ์ที่รู้จักกันดีที่สุดของเธอ: laserphaco สอบสวน (1986) เทคโนโลยีเลเซอร์การควบคุมอุปกรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นการรักษาความเจ็บปวดน้อยและแม่นยำมากขึ้นของต้อกระจก เธอได้รับสิทธิบัตรสำหรับอุปกรณ์ในปี 1988 เป็นครั้งแรก African-American แพทย์หญิงที่ได้รับการจดสิทธิบัตรเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ (เธอยังถือสิทธิบัตรในประเทศญี่ปุ่นแคนาดาและยุโรป) ที่มีการสอบสวน laserphaco เธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1981 อ่างอาบน้ำเริ่มทำงานในสิ่งประดิษฐ์ของเธอรู้จักมากที่สุด: โพรบ Laserphaco (1986) ควบคุมเทคโนโลยีเลเซอร์ อุปกรณ์สร้างรักษาความเจ็บปวดน้อย และชัดเจนยิ่งขึ้นของโรคต้อกระจก เธอได้รับสิทธิบัตรสำหรับอุปกรณ์ใน 1988 เป็นที่แรกหมอผู้หญิง African-American เพื่อรับสิทธิบัตรสำหรับวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ (เธอยังถือสิทธิบัตรในประเทศญี่ปุ่น แคนาดา และยุโรป) กับโพรบ Laserphaco เธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 1981 อ่างอาบน้ำก็เริ่มทำงานในการประดิษฐ์มีชื่อเสียงอย่างสูงสุดของเธอ laserphaco probe ( 1986 ) เทคโนโลยีเลเซอร์การควบคุมอุปกรณ์ที่สร้างการบำบัดน้อยและเจ็บปวดมากขึ้นได้อย่างแม่นยำของ cataracts เธอได้รับสิทธิบัตรที่ใช้สำหรับอุปกรณ์ที่ในปี 1988 กลายเป็นแพทย์หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนแรกที่ได้รับสิทธิบัตรสำหรับจุดประสงค์ทางการแพทย์ (เธอยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตรในประเทศญี่ปุ่นแคนาดาและยุโรป)พร้อมด้วย laserphaco ตรวจสอบของเธอ