energy is a property of objects whi

energy is a property of objects which can be transferred to other objects or converted into different forms.[1] The "ability of a system to perform work" is a common description, but it is misleading because energy is not necessarily available to do work.[2] For instance, in SI units, energy is measured in joules, and one joule is defined "mechanically", being the energy transferred to an object by the mechanical work of moving it a distance of 1 metre against a force of 1 newton.[note 1] However, there are many other definitions of energy, depending on the context, such as thermal energy, radiant energy, electromagnetic, nuclear, etc., where definitions are derived that are the most convenient.

Common energy forms include the kinetic energy of a moving object, the potential energy stored by an object's position in a force field (gravitational, electric or magnetic), the elastic energy stored by stretching solid objects, the chemical energy released when a fuel burns, the radiant energy carried by light, and the thermal energy due to an object's temperature. All of the many forms of energy are convertible to other kinds of energy. In Newtonian physics, there is a universal law of conservation of energy which says that energy can be neither created nor be destroyed; however, it can change from one form to another.

For "closed systems" with no external source or sink of energy, the first law of thermodynamics states that a system's energy is constant unless energy is transferred in or out by mechanical work or heat, and that no energy is lost in transfer. This means that it is impossible to create or destroy energy. While heat can always be fully converted into work in a reversible isothermal expansion of an ideal gas, for cyclic processes of practical interest in heat engines the second law of thermodynamics states that the system doing work always loses some energy as waste heat. This creates a limit to the amount of heat energy that can do work in a cyclic process, a limit called the available energy. Mechanical and other forms of energy can be transformed in the other direction into thermal energy without such limitations.[3] The total energy of a system can be calculated by adding up all forms of energy in the system.

Examples of energy transformation include generating electric energy from heat energy via a steam turbine, or lifting an object against gravity using electrical energy driving a crane motor. Lifting against gravity performs mechanical work on the object and stores gravitational potential energy in the object. If the object falls to the ground, gravity does mechanical work on the object which transforms the potential energy in the gravitational field to the kinetic energy released as heat on impact with the ground. Our Sun transforms nuclear potential energy to other forms of energy; its total mass does not decrease due to that in itself (since it still contains the same total energy even if in different forms), but its mass does decrease when the energy escapes out to its surroundings, largely as radiant energy.

Mass and energy are closely related. According to the theory of mass–energy equivalence, any object that has mass when stationary in a frame of reference (called rest mass) also has an equivalent amount of energy whose form is called rest energy in that frame, and any additional energy acquired by the object above that rest energy will increase an object's mass. For example, with a sensitive enough scale, one could measure an increase in mass after heating an object.

Living organisms require available energy to stay alive, such as the energy humans get from food. Civilisation gets the energy it needs from energy resources such as fossil fuels, nuclear fuel, or renewable energy. The processes of Earth's climate and ecosystem are driven by the radiant energy Earth receives from the sun and the geothermal energy contained within the earth.
In biology, energy can be thought of as what's needed to keep entropy low.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พลังงานเป็นที่ของวัตถุซึ่งสามารถโอนย้ายไปยังวัตถุอื่น หรือแปลงเป็นรูปแบบต่าง ๆ [1] "ความสามารถของระบบในการทำงาน" เป็นคำอธิบายทั่วไป แต่ก็ทำให้เข้าใจผิดเพราะพลังงานไม่จำเป็นต้องมีการทำงาน [2] เช่น ในหน่วย SI วัดพลังงานเป็นจูล และดังกำหนด "กลไก" เป็นพลังงานโอนวัตถุ โดยการทำงานทางกลของย้ายระยะทาง 1 เมตรจากแรง 1 นิวตัน [note 1] อย่างไรก็ตาม มีหลายอื่น ๆ นิยามของพลังงาน ขึ้นอยู่กับบริบท เช่นพลังงานความร้อน พลังงานสดใส แม่เหล็กไฟฟ้า นิวเคลียร์ ฯลฯ ที่มานิยามที่สะดวกที่สุดรูปแบบทั่วไปของพลังงานได้แก่พลังงานจลน์ของวัตถุเคลื่อนไหว พลังงานศักย์ถูกเก็บไว้ โดยตำแหน่งของวัตถุในฟิลด์บังคับ (แรงโน้มถ่วง ไฟฟ้า หรือแม่เหล็ก), พลังงานยืดหยุ่นที่เก็บไว้ โดยการยืดของแข็ง ปล่อยออกมาเมื่อเผาไหม้เชื้อเพลิง พลังงานสดใสโดยแสง พลังงานเคมี และพลังงานความร้อนเนื่องจากอุณหภูมิของวัตถุ หลายรูปแบบของพลังงานทั้งหมดจะสามารถแปลงเป็นพลังงานชนิดอื่น ในฟิสิกส์ Newtonian มีกฎหมายสากลของการอนุรักษ์พลังงานซึ่งกล่าวว่า พลังงานไม่ได้และ ไม่ถูก ทำลาย อย่างไรก็ตาม มันสามารถเปลี่ยนจากรูปแบบหนึ่งไปยังอีกสำหรับ "ระบบปิด" ที่ไม่มีแหล่งข้อมูลภายนอกหรือเก็บพลังงาน กฎข้อที่หนึ่งของอุณหพลศาสตร์ระบุว่า พลังงานของระบบคงจนกว่าพลังงานจะถูกโอนย้ายใน หรือออก โดยเครื่องจักรกล หรือ ความร้อน และที่ ไม่มีพลังงานจะสูญหายในโอน ซึ่งหมายความ ว่า ไม่สามารถสร้าง หรือทำลายพลังงาน ในขณะที่ความร้อนสามารถเสมอเต็มแปลงงานขยายตัวเบนย้อนกลับของแก๊สอุดมคติเป็น สำหรับกระบวนการวงจรน่าสนใจทางปฏิบัติในเครื่องยนต์ความร้อน ไร้ระเบียบระบุว่า ระบบการทำงานเสมอสูญเสียพลังงานเป็นความร้อนบาง นี้สร้างข้อจำกัดในปริมาณของพลังงานความร้อนที่สามารถทำงานในกระบวนการวงจร การจำกัดที่เรียกว่าพลังงานที่มีอยู่ เครื่องจักรกล และอื่น ๆ รูปแบบของพลังงานสามารถเปลี่ยนในทิศทางที่เป็นพลังงานความร้อนโดยไม่มีข้อจำกัดดังกล่าว [3] รวมพลังงานของระบบสามารถคำนวณได้ โดยเพิ่มขึ้นทุกรูปแบบของพลังงานในระบบตัวอย่างของการแปลงพลังงานได้แก่พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนผ่านกังหันไอน้ำ หรือการยกวัตถุกับแรงโน้มถ่วงที่ใช้พลังงานไฟฟ้าขับรถเครนมอเตอร์ ยกกับแรงโน้มถ่วงทำงานเครื่องจักรกลตามวัตถุ และเก็บพลังงานศักย์โน้มถ่วงในวัตถุ ถ้าวัตถุอยู่กับพื้นดิน แรงโน้มถ่วงทำงานจักรกลบนวัตถุที่แปลงพลังงานศักย์ในฟิลด์เพื่อเผยแพร่เป็นความร้อนการกระทบกับพื้นพลังงานจลน์ความโน้มถ่วง ดวงอาทิตย์ของเราเปลี่ยนศักยภาพนิวเคลียร์พลังงานรูปแบบอื่น ๆ ของพลังงาน ของมวลรวมลดลงเนื่องจากการที่ในตัวเอง (เพราะยังประกอบด้วยเดียวรวมพลังงานแม้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน), แต่มวลของมันลดลงเมื่อพลังงานหนีออกไปเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นพลังงานสดใสมวลและพลังงานมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน ตามทฤษฎีสมมูลมวล-พลังงาน วัตถุที่มีมวลเมื่อเขียนในกรอบการอ้างอิง (เรียกว่ามวล) มีจำนวนเทียบเท่าของพลังงานที่มีแบบฟอร์ม เรียกว่าพลังงานส่วนที่เหลือในเฟรมนั้น และพลังงานใด ๆ เพิ่มเติมมา โดยวัตถุข้างต้นพลังงานที่เหลือจะเพิ่มมวลของวัตถุ เช่น กับมาตราส่วนละเอียดอ่อนพอ หนึ่งสามารถวัดการเพิ่มขึ้นในมวลหลังจากเครื่องทำความร้อนของวัตถุชีวิตต้องมีพลังงาน มีชีวิตอยู่เป็นมนุษย์พลังงานที่ได้รับจากอาหาร อารยธรรมได้รับพลังงานที่ต้องการจากทรัพยากรพลังงาน เช่นเชื้อเพลิงฟอสซิล นิวเคลียร์ พลังงานทดแทน กระบวนการของระบบนิเวศและสภาพภูมิอากาศของโลกขับเคลื่อน ด้วยพลังงานสดใสโลกได้รับจากดวงอาทิตย์และพลังงานความร้อนใต้พิภพที่อยู่ภายในโลกชีววิทยา พลังงานสามารถถือได้ว่า เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ entropy ต่ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พลังงาน คือ คุณสมบัติของวัตถุที่สามารถโอนไปยังวัตถุอื่น หรือแปลงเป็นรูปแบบ [ 1 ] " ความสามารถของระบบการดําเนินงาน " เป็นคำอธิบายทั่วไป แต่มันเป็นความเข้าใจผิด เพราะเป็นพลังงานที่ไม่จําเป็นต้องพร้อมที่จะทำงาน [ 2 ] ตัวอย่างเช่นในหน่วย SI , พลังงานคือวัด ใน จูล และหนึ่งจูลนิยาม " กลไก " เป็นพลังงานที่วัตถุโดยงานเครื่องกลเคลื่อนที่ได้ระยะทาง 1 เมตรกับแรง 1 นิวตัน [ 1 ] อย่างไรก็ตาม ไม่มีความหมายอื่น ๆอีกมากมายของพลังงานขึ้นอยู่กับบริบท เช่น พลังงานความร้อน พลังงานสดใส , ไฟฟ้า นิวเคลียร์ ฯลฯ ซึ่งความหมายจะได้มาที่สะดวกที่สุดรูปแบบพลังงานทั่วไป เช่น พลังงานจลน์ของวัตถุที่เคลื่อนที่ ศักยภาพพลังงานที่เก็บไว้ตามตำแหน่งของวัตถุในสนามพลัง ( แรงโน้มถ่วง , ไฟฟ้าหรือแม่เหล็ก พลังงานยืดหยุ่นเก็บไว้โดยยืดวัตถุของแข็งเคมีพลังงานออกเมื่อเชื้อเพลิงเผาไหม้ พลังงานสดใสโดยแสงและพลังงานความร้อนเนื่องจาก อุณหภูมิของวัตถุ ทั้งหมดของหลายรูปแบบของพลังงานจะสามารถเปลี่ยนชนิดอื่น ๆของพลังงาน ฟิสิกส์นิวตัน มีกฎหมายสากลของการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งกล่าวว่า พลังงานจะไม่สร้างหรือถูกทำลาย อย่างไรก็ตาม มันสามารถเปลี่ยนจากรูปหนึ่งไปอีก" ระบบปิด " ที่ไม่มีแหล่งข้อมูลภายนอกหรืออ่างของพลังงาน แรกกฎหมายของอุณหพลศาสตร์กล่าวว่าพลังงานของระบบจะคงที่จนกว่าพลังงานจะย้ายเข้าหรือออกจากงานเครื่องกล หรือความร้อน และไม่มีพลังงานที่สูญเสียในการถ่ายโอน ซึ่งหมายความว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างหรือทำลายพลังงาน ในขณะที่ความร้อนจะอยู่ครบ แปลงเป็น ทำงานใน , การขยายตัวคงที่ของก๊าซอุดมคติ สำหรับกระบวนการแรงงานที่น่าสนใจในความร้อนเครื่องยนต์ที่สองกฎหมายของอุณหพลศาสตร์กล่าวว่าระบบทำงานเสมอเสียพลังงานเป็นความร้อนเสีย นี้จะสร้างการจำกัดปริมาณของพลังงานความร้อนที่สามารถทำงานในกระบวนการที่เรียกว่าวัฏจักรจำกัดพลังงานที่ใช้ได้ รูปแบบอื่น ๆของเครื่องกลและพลังงานสามารถเปลี่ยนรูปไปในทิศทางอื่น ๆให้เป็นพลังงานความร้อนโดยปราศจากข้อจำกัดดังกล่าว . [ 3 ] พลังงานรวมของระบบสามารถคำนวณโดยการเพิ่มขึ้นทุกรูปแบบของพลังงานในระบบตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงพลังงานรวมถึงการสร้างพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนผ่านกังหันไอน้ำหรือยกวัตถุต่อต้านแรงโน้มถ่วงที่ใช้พลังงานไฟฟ้าขับเครนมอเตอร์ การต่อต้านแรงโน้มถ่วงแสดงงานเครื่องกลในวัตถุและร้านค้าพลังงานศักย์โน้มถ่วงในวัตถุ ถ้าวัตถุตกถึงพื้น แรงโน้มถ่วงทำงานเครื่องจักรกลบนวัตถุที่แปลงพลังงานที่มีสนามโน้มถ่วง กับพลังงานจลน์ที่ปล่อยความร้อนกระทบกับพื้นดิน ดวงอาทิตย์ของเราแปลงศักยภาพพลังงานนิวเคลียร์เพื่อรูปแบบอื่น ๆของพลังงาน มวลรวมของมันไม่ได้ลดลง เนื่องจากว่าในตัวเอง ( เพราะมันยังคงมีปริมาณพลังงานเดียวกันแม้ว่าในรูปแบบที่แตกต่างกัน ) แต่มวลจะลดลงเมื่อพลังงานหนีออกจากสภาพแวดล้อมส่วนใหญ่เป็นพลังงานสดใส .มวลและพลังงานมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด . ตามทฤษฎีของความสมมูลระหว่างมวล - พลังงานใด ๆวัตถุที่มีมวลเมื่อนิ่งในกรอบอ้างอิง ( เรียกว่ามวลส่วนที่เหลือ ) มีจำนวนเท่ากับของพลังงานที่มีรูปแบบ เรียกว่า พลังงานที่เหลืออยู่ในกรอบใด ๆเพิ่มเติมและพลังงานที่ได้จากวัตถุข้างต้นส่วนที่เหลือที่พลังงานจะเพิ่มมวลของวัตถุ ตัวอย่างเช่น ด้วยขนาดความไวเพียงพอหนึ่งสามารถวัดการเพิ่มขึ้นในมวลหลังจากความร้อนวัตถุสิ่งมีชีวิตต้องใช้พลังงานการมีชีวิตอยู่ เช่น มนุษย์ ได้รับพลังงานจากอาหาร อารยธรรมที่ได้รับพลังงานจากแหล่งพลังงาน เช่น ความต้องการเชื้อเพลิงฟอสซิล เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ หรือพลังงานทดแทน กระบวนการของสภาพภูมิอากาศของโลกและระบบนิเวศจะขับเคลื่อนโดยพลังงานสดใสโลกได้รับจากดวงอาทิตย์และพลังงานใต้พิภพที่มีอยู่ภายในโลกในชีววิทยา , พลังงานสามารถคิดเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้เลือดต่ำ