The conventional approach to agricu

The conventional approach to agricultural or what also might be
termed the green revolution model, i.e., monocultures of genetically
improved crops supplied with ample agrochemical inputs, has, as an
ideal, the image of endless fields of ripening grains. In many eyes, this
signifies a forthcoming plenitude and a dominion over nature.
Not as utopian as the image projects, ecological shortcomings abound.
These include the loss of natural habitats and in-residing native flora
and fauna.
Additionally, nature has proven less subservient than suggested.
Unabated winds can flatten unprotected grain fields, crop-eating insects
and plant destroying diseases can thrive in large-scale monocrops, highvolume
harvests exhaust soils, and the post-harvest situation, fields,
often lacking a protective cover, expose the land to the forces of erosion.
When magnified through large-scale farming, such shortcomings can
have a broad and undesired impact.
Techniques and new directions have been proposed to overcome the
environmental shortfalls. Born of a desire for differentiated alternatives,
non-mainstream labeling can carry political and policy baggage.
A case in point, the term organic farming is more an expression of
principle than clearly demarcated field practices. Other labels are also
weak in applied meaning.
If agroecology is to serve as an umbrella discipline, it should come
without predilections or preconceived notions. A few have crept in. It
should be noted that agroecology is not exclusively the control of herbivore
insects without synthetic chemicals, not uniquely the application
of natural compost in a backyard garden, nor is it solely within
the realm of the organic producer.
Behind and linking the field-ready expressions of ecological and
environmental concern, there lurks a larger field of study. At the minimum,
there is the imperative that agriculture and farms, while being
productive, also present a nature-friendly face. Less noted, but of concern,
agroecology should have social and cultural meaning, i.e., how

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีทั่วไปในการเกษตรหรืออะไรยังอาจเรียกว่าปฏิวัติเขียวรุ่น เช่น monocultures ของแปลงพันธุกรรมพืชที่ปรับปรุงให้ มีปัจจัยการผลิตเคมีเกษตรที่กว้างขวาง มี เป็นการเหมาะ ภาพเขตสิ้นสุดของ ripening ธัญพืช หลายตา นี้คำ plenitude ชมรมและประเทศราชธรรมชาติไม่เป็นสรรเป็นโครงการภาพ แสดงระบบนิเวศบกรวมถึงการสูญเสียของการอยู่อาศัยตามธรรมชาติและแห่งในพืชพื้นเมืองและสัตว์ป่านอกจากนี้ ธรรมชาติได้พิสูจน์ subservient น้อยกว่าแนะนำลมที่รุนแรงสามารถแผ่เมล็ดข้าวป้องกันเขต พืชกินแมลงและทำลายโรคพืชสามารถเจริญเติบโตในขนาดใหญ่ monocrops, highvolumeharvests ไอดินเนื้อปูน และสถานการณ์หลังการเก็บเกี่ยว เขตมักขาดฝาครอบป้องกัน ทำให้กองกำลังของกัดเซาะผืนดินเมื่อขยายผ่านทำฟาร์มขนาดใหญ่ การแสดงดังกล่าวสามารถผลกระทบที่กว้าง และไม่ได้เทคนิคและเส้นทางใหม่ได้รับการเสนอเพื่อเอาชนะการคาดสิ่งแวดล้อม เกิดของความต้องการสำหรับทางเลือกต่าง ๆติดฉลากกับไม่สามารถดำเนินการทางการเมือง และนโยบายสัมภาระได้กรณีในจุด อินทรีย์ระยะคือราคา มากกว่าค่าของหลักกว่าปฏิบัติชัดเจนแบ่งฟิลด์ ป้ายอื่น ๆ ก็อ่อนแอในความหมายที่ใช้ถ้า agroecology จะเป็นวินัยร่ม ควรมาโดยไม่ต้อง predilections หรือความเข้าใจเข้าใจ ไม่มี crept ใน มันควรสังเกต agroecology ที่ไม่เฉพาะการควบคุม herbivoreแมลงไม่ มีสารเคมีสังเคราะห์ แอพลิเคชันโดยเฉพาะไม่ของปุ๋ยธรรมชาติในสวน หรือเป็นแต่เพียงผู้เดียวภายในขอบเขตของผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์ด้านหลังและการเชื่อมโยงพร้อมฟิลด์นิพจน์ของระบบนิเวศ และปัญหาสิ่งแวดล้อม มี lurks ขนาดใหญ่เขตการศึกษา น้อยมีความจำที่เกษตรและฟาร์ม ในขณะที่กำลังประสิทธิผล ยัง มีใบหน้าเป็นมิตรกับธรรมชาติ แต่น้อยตาม ความกังวลagroecology ควรมีความหมายทางสังคม และวัฒนธรรม เช่น วิธี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการแบบเดิมในการเกษตรกรรมหรือสิ่งที่อาจจะเรียกว่ารูปแบบการปฏิวัติสีเขียวคือ monocultures ของพันธุกรรมพืชที่ดีขึ้นมาพร้อมกับปัจจัยการผลิตเคมีเกษตรกว้างขวางมีเป็นที่เหมาะสำหรับภาพของเขตข้อมูลที่ไม่มีที่สิ้นสุดของเมล็ดสุก ในสายตาของหลาย ๆ คนนี้หมายนองเนืองที่กำลังจะมาและอำนาจเหนือธรรมชาติ. ไม่เป็นยูโทเปียเป็นโครงการภาพบกพร่องของระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์. เหล่านี้รวมถึงการสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัยและในที่อาศัยอยู่พืชพื้นเมืองและสัตว์. นอกจากนี้ธรรมชาติได้รับการพิสูจน์แล้วยอมจำนนน้อย กว่าแนะนำ. ลมคงที่สามารถแผ่สาขาข้าวที่ไม่มีการป้องกันแมลงพืชกินพืชและทำลายโรคสามารถเจริญเติบโตได้ใน monocrops ขนาดใหญ่ highvolume เก็บเกี่ยวดินไอเสียและสถานการณ์หลังการเก็บเกี่ยวเขตมักจะขาดฝาครอบป้องกันเปิดเผยที่ดินกองกำลังของการกัดเซาะได้. เมื่อขยายผ่านการทำฟาร์มขนาดใหญ่ข้อบกพร่องดังกล่าวสามารถมีผลกระทบในวงกว้างและไม่พึงประสงค์. เทคนิคและทิศทางใหม่ได้รับการเสนอที่จะเอาชนะไขสิ่งแวดล้อม เกิดจากความปรารถนาทางเลือกที่แตกต่างสำหรับการติดฉลากที่ไม่สำคัญสามารถดำเนินการทางการเมืองและสัมภาระนโยบาย. ในกรณีที่จุด A, ระยะการทำเกษตรอินทรีย์มากขึ้นการแสดงออกของหลักการเขตแดนอย่างชัดเจนกว่าการปฏิบัติที่สนาม ค่ายอื่น ๆ นอกจากนี้ยังอ่อนแอในความหมายที่ใช้. หาก agroecology คือการทำหน้าที่เป็นวินัยร่มมันจะมาโดยไม่ต้องpredilections หรือความคิดอุปาทาน ไม่กี่ได้พุ่ง. มันควรจะสังเกตว่าagroecology ไม่เฉพาะการควบคุมของมังสวิรัติแมลงโดยไม่ต้องสารเคมีสังเคราะห์ที่ไม่ซ้ำกันแอพลิเคชันของปุ๋ยหมักธรรมชาติในสวนหลังบ้านและไม่เป็นมันแต่เพียงผู้เดียวที่อยู่ในขอบเขตของการผลิตอินทรีย์. ที่อยู่เบื้องหลังและ การเชื่อมโยงการแสดงออกสนามพร้อมของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมมีสิงสถิตสนามขนาดใหญ่ของการศึกษา ที่ต่ำสุดที่มีความจำเป็นที่ภาคเกษตรและฟาร์มในขณะที่กำลังการผลิตนอกจากนี้ยังนำเสนอใบหน้าที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ ตั้งข้อสังเกตน้อย แต่กังวลagroecology ควรมีความหมายทางสังคมและวัฒนธรรมเช่นวิธีการ