Would be nice to have it translated

Would be nice to have it translated it for the rest of the team members***



It must make young professionals think back to the conundrum they had when graduating: how can I ever get that first job, if every first job asks for prior experience? For many of those young professionals climbing the ladder five years later, that question becomes: how can I prove I have the required leadership skills, if I was always asked to perform non-leadership tasks?

Herminia Ibarra, in her book “Act Like a Leader, Think Like a Leader”, offers a pragmatic answer: perform in your current job as if you are already a leader, and your mindset and title will eventually follow. How does that work exactly, and what are the other lessons from her book?

1.) Thinking like a leader is the product of your past experience as a leader
The logic behind her first advice, Ibarra tells us, is that the way you think is a product of your past experience. If your past experience is that of an office clerk, you will think like an office clerk. If your past experience is that of a consultant, you will think like a consultant. But if you build leadership routines into your role from now on, the more you will also think like a leader in a few weeks or months from now.

So how do you put that theory into practice? Perhaps you can observe what your boss does as a daily routine, and replicate it on your own. Your boss might list all objectives of the team on a weekly basis, and then inform everyone who should do what. He or she might spend a lot of time on the phone or in meetings, talking to other team leaders in and outside the organization. And he or she might attend board meetings, where the vision, strategy and macroeconomic environment of your organization is discussed.

Of course, you can’t do exactly as your boss does. But you can create a micro-version of it.

Make a schedule of your to dos, organize them according to priority and report back to your boss more frequently to show your progress.
Schedule lunches, coffee catch-ups, or ‘sweatworking‘ with peers and other people in and outside your organization, and pick their brain to get a more holistic view of the organization you work at.
Attend lectures, courses or social events where you can educate yourself on what is happening in the outside world
After a while, that should ‘wire’ you differently: as you act differently, you will think differently. But there might be another, and in my view larger, benefit from going about your work in this way: it increases your visibility with your colleagues and manager as a pro-active employee. In other words, it’s not just your behaviour that changes, it’s also other people’s perception of your work.

2.) Being a leader is not the same as being a manager
Ibarra offers a number of other practical tips that should help you “act” rather than “think” like a leader. While they are all valuable an sich, the eureka moment for me occurred when Ibarra pointed out that being a manager is not the same as being a leader. It’s a simple, straightforward statement, and it’s obviously true.

But what does it imply? It implies, for example, that in the example above, that listing and distributing tasks is clearly a managerial activity, not necessarily a leadership activity. Leadership goes beyond the operational, day-to-day activities. It is about the “why” of doing things, it’s about pointing out where we are going.

To become a leader in that sense is thus more about seeing the bigger picture. It’s not about delivering great results in the next quarter or year; it’s about seeing where your industry is going in five years, and steering the team and its activities in that direction.

That is why someone who is simply a great executor, won’t make a great leader. Sure, your results are what often get you promoted, but once you are promoted in a leadership position, it’s not just about your individual performance anymore. You now have to inspire others to perform, and make sure the team performance evolves as your team evolves.

3.) To see the bigger picture, get out of your silo
This is a lesson Gillian Tett of the FT also draws in her latest book, “The Silo Effect.” The point is, that the more you are inward looking, the more you spend time only at your desk, or in your team’s office space, the higher the chance you will miss the bigger picture of what matters outside of your team.

As a junior employee, you are not expected to worry about anything else other than your job, your task, your piece of the puzzle. But as you climb the ladder, seeing the bigger picture does become increasingly important. To do so, you need to spend more and more time outside of your office, outside of your fix network. As Tett shows in her book, doing so isn’t only a useful tool to act, think and be seen as a leader; it can make or break your team’s or organizational relevance.

For Ibarra, those learnings didn’t just come from teaching; she applied many of them herself. It made her become not just a tenured professor at INSEAD, but one that thinks and acts like one, too. Her book thus practices what she preaches, making it a useful guide to read and apply.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จะดีจะมีก็แปลว่าสำหรับส่วนเหลือของสมาชิกทีม ***มันต้องให้มืออาชีพหนุ่มคิดไป conundrum ที่มีเมื่อจบการศึกษา: เคยเข้างานแรก ถ้าทุกงานแรกขอทราบประสบการณ์ จำนวนมากของผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นหนุ่มปีนบันไดห้าปีต่อมา คำถามกลายเป็น: วิธีสามารถฉันพิสูจน์มีทักษะความเป็นผู้นำที่จำเป็น ถ้าถูกถามในการทำงานไม่ใช่ผู้นำเสมอHerminia Ibarra เธอจอง "พระราชบัญญัติเช่นผู้นำ คิดชอบเป็นผู้นำ" มีคำตอบที่ปฏิบัติ: ปฏิบัติงานปัจจุบันของคุณประหนึ่งว่าท่านเป็นผู้นำ และ mindset และชื่อของคุณจะทำตามในที่สุด วิธีทำที่งานแน่นอน และบทจากหนังสือของเธอคืออะไร1) คิดเช่นผลิตภัณฑ์ของประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นผู้นำเป็นผู้นำตรรกะด้านหลังแนะนำครั้งแรกของเธอ Ibarra บอกเรา เป็นที่แบบที่คุณคิดว่า เป็นผลิตภัณฑ์ของประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ้าประสบการณ์ของคุณผ่านมาเป็นที่ของเจ้าหน้าที่สำนักงาน คุณจะคิดว่า เช่นเสมียนสำนักงาน ถ้าประสบการณ์ของคุณผ่านมาเป็นที่ของปรึกษา คุณจะคิดว่า เหมือนปรึกษา แต่ ถ้าคุณสร้างตามปกติเป็นผู้นำในบทบาทของคุณจากนี้ ยิ่งคุณจะยังคิดเหมือนผู้นำในไม่กี่สัปดาห์หรือเดือนนี้คุณใส่ที่ทฤษฎีสู่การปฏิบัติหรือไม่ดังนั้น อาจสังเกตเห็นสิ่งที่เจ้านายของคุณไม่เป็นกิจวัตรประจำวันที่ และคุณจำลองด้วยตนเอง เจ้านายของคุณอาจแสดงรายการวัตถุประสงค์ทั้งหมดของทีมในสัปดาห์ กแล้ว แจ้งให้ทุกคนที่ควรทำอะไร เขาหรือเธออาจใช้เวลา ในโทรศัพท์ หรือ ในการ ประชุม พูดคุยอื่น ๆ ทีมงานใน และ นอกองค์กร และเขาอาจเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการ การกล่าวถึงวิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ และเศรษฐกิจมหภาคสภาพแวดล้อมขององค์กรเป็นที่แน่นอน คุณไม่สามารถทำได้เหมือนกับเจ้านายของคุณ แต่คุณสามารถสร้างไมโครรุ่นของมันทำให้กำหนดการของคุณ dos จัดระเบียบเหล่านั้นตามลำดับความสำคัญ และรายงานกลับไปให้เจ้านายของคุณบ่อยเพื่อแสดงความก้าวหน้าของคุณเวลาอาหารกลางวัน กาแฟ catch-ups หรือ 'sweatworking' กับเพื่อนและคนอื่น ๆ ใน และ นอกองค์กร และสมองของพวกเขาจะได้รับมุมมองแบบองค์รวมมากขึ้นขององค์กรที่คุณทำงานที่เลือกเข้าร่วมบรรยาย หลักสูตร หรือกิจกรรมพิเศษที่คุณสามารถรู้ตนเองในสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกภายนอกหลัง ที่ควร 'สาย' คุณแตกต่างกัน: เป็นคุณทำหน้าที่แตกต่างกัน คุณจะคิดต่างกัน แต่อาจมีอีก และของฉันดูใหญ่ขึ้น ประโยชน์จากการไปทำงานในลักษณะนี้: มันเพิ่มการมองเห็นของคุณกับเพื่อนร่วมงานและผู้จัดการพนักงานอยู่ ในคำอื่น ๆ ไม่เพียงของพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง ก็ยังเป็นของคนอื่นรับรู้งานของคุณ2) เป็นผู้นำจะไม่เหมือนกันเป็น ผู้จัดการIbarra ขอเสนอเคล็ดลับการปฏิบัติอื่น ๆ ที่จะช่วยให้คุณ "กระทำ" มากกว่าที่ "คิด" เช่นเป็นผู้นำ ในขณะที่พวกเขาทั้งหมดมีคุณค่าอัน sich ยูเรก้า ขณะฉันเกิดขึ้นเมื่อ Ibarra ชี้ให้เห็นว่า การจัดการไม่เหมือนกับการเป็นผู้นำ เป็นคำง่าย ตรงไปตรงมา และมันเป็นความจริงอย่างชัดเจนแต่อะไรไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์แบบ มันหมายถึง เช่น ในตัวอย่างข้างต้น รายการนั้นและการกระจายงานชัดเจนกิจกรรมการบริหารจัดการ ภาวะผู้นำเป็นกิจกรรมไม่จำเป็นต้อง นำไปนอกเหนือจากกิจกรรมการดำเนินงาน ประจำวัน เกี่ยวกับการ "เหตุ" การทำ มันกำลังชี้ให้เห็นการที่เราจะไปได้เป็น ผู้นำในเป็นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูรูปภาพใหญ่ ไม่เกี่ยวกับการส่งผลลัพธ์ที่ดีในไตรมาสถัดไปหรือปี ได้เห็นที่อุตสาหกรรมของคุณเป็นไปใน 5 ปี และพวงมาลัยทีมงานและกิจกรรมของทิศทางนั้นนั่นคือเหตุผลที่คนที่เป็นเพียงที่ดีดำเนิน ไม่ทำให้ผู้นำ แน่นอน ผลลัพธ์ของคุณคือ อะไรมักจะได้รับคุณเลื่อนขึ้น แต่เมื่อคุณถูกเลื่อนขึ้นในตำแหน่งความเป็นผู้นำ ไม่เพียงแต่ละประสิทธิภาพอีกต่อไป คุณตอนนี้มีแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นทำ และให้แน่ใจว่าประสิทธิภาพการทำงานของทีมงานอยู่เสมอเป็นทีมของคุณอยู่เสมอ3) เพื่อดูภาพขนาดใหญ่ รับจากไซโลของคุณนี่คือบทเรียน Tett จิลเลียนของ FT ยังวาดในสมุดล่าสุดของเธอ "ไซโลผล" จุดคือ ยิ่งคุณเข้าด้านในมอง ยิ่งคุณใช้เวลาที่โต๊ะทำงาน หรือในพื้นที่ของทีมงานสำนักงาน สูงโอกาสที่คุณจะพลาดสิ่งสำคัญนอกทีมคุณภาพใหญ่เป็นพนักงานจูเนียร์ คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอะไรไม่ใช่งานของคุณ การงาน ชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ แต่ เป็นคุณปีนบันได ดูรูปภาพใหญ่เป็นสิ่งสำคัญมาก ดัง คุณจำเป็นต้องใช้มากขึ้น และมากขึ้นเวลานอกสำนักงานของคุณ นอกเครือข่ายของคุณแก้ไข เป็น Tett แสดงในหนังสือของเธอ ทำเพื่อให้ไม่เพียงเครื่องมือประโยชน์ทำ คิด และถือเป็นผู้นำ มันสามารถสร้าง หรือทำลายของทีมหรือความเกี่ยวข้องขององค์กรของคุณสำหรับ Ibarra, learnings เหล่านั้นไม่เพียงมาจากสอน เธอใช้หลายตัว มันทำให้เธอไม่ได้เป็น เพียงอาจารย์ tenured ที่โครงการแลก แต่คิด และทำหน้าที่เหมือนหนึ่ง เกินไป หนังสือของเธอจึงปฏิบัติเธอ preaches ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์การอ่าน และนำไปใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จะดีจะมีมันแปลสำหรับส่วนที่เหลือของสมาชิกในทีม *** มันจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กคิดว่ากลับไปปริศนาที่พวกเขาได้เมื่อจบการศึกษา: ฉันจะเคยได้รับที่งานแรกถ้าทุกงานแรกขอประสบการณ์ก่อน ? สำหรับส่วนมากของผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กเหล่านั้นปีนบันไดห้าปีต่อมาคำถามที่กลายเป็น: วิธีการที่ฉันสามารถพิสูจน์ได้ว่าผมมีทักษะความเป็นผู้นำที่จำเป็นถ้าฉันถูกถามเสมอที่จะดำเนินการเป็นผู้นำไม่? Herminia โลเมในหนังสือของเธอ "พระราชบัญญัติชอบ ผู้นำคิดเช่นผู้นำ "ที่มีคำตอบในทางปฏิบัติ: ปฏิบัติหน้าที่ในงานปัจจุบันของคุณเช่นถ้าคุณมีอยู่แล้วเป็นผู้นำและความคิดและชื่อของคุณก็จะทำตาม วิธีการทำงานตรงนั้นและสิ่งที่เป็นบทเรียนจากหนังสือของเธอ? 1. ) คิดเหมือนผู้นำเป็นผลิตภัณฑ์ของประสบการณ์ที่ผ่านมาของคุณเป็นผู้นำตรรกะที่อยู่เบื้องหลังคำแนะนำครั้งแรกของเธอที่โลเมบอกเราก็คือวิธีที่คุณคิดเป็นผลิตภัณฑ์ของประสบการณ์ที่ผ่านมาของคุณ ถ้าประสบการณ์ที่ผ่านมาของคุณเป็นที่ของพนักงานที่ทำงานคุณจะคิดว่าเหมือนเสมียนสำนักงาน ถ้าประสบการณ์ที่ผ่านมาของคุณเป็นที่ของที่ปรึกษาคุณจะคิดเช่นที่ปรึกษา แต่ถ้าคุณสร้างกิจวัตรเป็นผู้นำในบทบาทของคุณจากนี้ไปมากกว่าที่คุณยังจะคิดเช่นเป็นผู้นำในไม่กี่สัปดาห์หรือเดือนนับจากนี้. ดังนั้นวิธีที่คุณจะนำทฤษฎีที่ว่าในการปฏิบัติ? บางทีคุณอาจจะสังเกตสิ่งที่เจ้านายของคุณไม่เป็นกิจวัตรประจำวันและทำซ้ำด้วยตัวคุณเอง เจ้านายของคุณอาจแสดงรายการวัตถุประสงค์ของทีมงานเป็นประจำทุกสัปดาห์และจากนั้นแจ้งให้ทุกคนที่ควรจะทำในสิ่งที่ เขาหรือเธออาจใช้เวลามากในโทรศัพท์หรือในการประชุมพูดคุยกับผู้นำทีมอื่น ๆ ทั้งในและนอกองค์กร และเขาหรือเธออาจจะเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการที่มีวิสัยทัศน์กลยุทธ์และสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคขององค์กรของคุณจะกล่าวถึง. แน่นอนคุณไม่สามารถทำตรงตามที่เจ้านายของคุณไม่ แต่คุณสามารถสร้างไมโครรุ่นของมัน. ทำให้ตารางเวลาของคุณไปยังดอสการจัดระเบียบให้ตามลำดับความสำคัญและรายงานกลับมาให้เจ้านายของคุณบ่อยครั้งมากขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นความคืบหน้าของคุณ. อาหารกลางวันตารางกาแฟจับอัพหรือ 'sweatworking ด้วย เพื่อนและคนอื่น ๆ ทั้งในและนอกองค์กรของคุณและรับสมองของพวกเขาที่จะได้รับมุมมองแบบองค์รวมมากขึ้นขององค์กรที่คุณทำงานที่. เข้าร่วมการบรรยายหลักสูตรหรือกิจกรรมทางสังคมที่คุณสามารถรู้ด้วยตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกภายนอกหลังจากที่ในขณะที่ควร 'สาย' คุณแตกต่างกัน: ในขณะที่คุณทำหน้าที่แตกต่างกันคุณจะคิดแตกต่างกัน แต่อาจจะมีอีกและในมุมมองของฉันที่มีขนาดใหญ่ได้รับประโยชน์จากการไปเกี่ยวกับการทำงานในลักษณะนี้ของคุณ: มันจะเพิ่มการมองเห็นของคุณกับเพื่อนร่วมงานและผู้จัดการของคุณเป็นพนักงานรุก ในคำอื่น ๆ มันไม่ได้เป็นเพียงพฤติกรรมของคุณที่มีการเปลี่ยนแปลงก็ยังมีการรับรู้ของคนอื่น ๆ การทำงานของคุณ. 2. ) การเป็นผู้นำไม่ได้เป็นเช่นเดียวกับการเป็นผู้จัดการโลเมมีจำนวนของเคล็ดลับการปฏิบัติอื่นๆ ที่จะช่วยให้คุณ "ทำหน้าที่" มากกว่า "คิดว่า" เหมือนเป็นผู้นำ ในขณะที่พวกเขาทั้งหมดที่มีคุณค่า Sich เป็นช่วงเวลาที่ eureka สำหรับผมเกิดขึ้นเมื่อโลเมชี้ให้เห็นว่าเป็นผู้จัดการไม่ได้เป็นเช่นเดียวกับการเป็นผู้นำ มันเป็นเรื่องที่ง่ายและตรงไปตรงมาคำสั่งและมันเป็นความจริงที่เห็นได้ชัด. แต่สิ่งที่ไม่ได้บ่งบอกถึง? มันหมายถึงการยกตัวอย่างเช่นว่าในตัวอย่างข้างต้นรายชื่อที่และงานที่กระจายอย่างชัดเจนกิจกรรมการบริหารจัดการที่ไม่จำเป็นต้องเป็นกิจกรรมที่เป็นผู้นำ เป็นผู้นำที่นอกเหนือไปจากการดำเนินงานกิจกรรมวันต่อวัน มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ "ทำไม" การทำสิ่งที่มันเป็นเรื่องที่ชี้ให้เห็นว่าเราจะไป. จะกลายเป็นผู้นำในแง่ที่ว่าจึงเป็นมากขึ้นเกี่ยวกับการเห็นภาพใหญ่ มันไม่เกี่ยวกับการส่งมอบผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในไตรมาสถัดไปหรือปี มันเป็นเรื่องของการมองเห็นที่อุตสาหกรรมของคุณเป็นไปในห้าปีและพวงมาลัยทีมงานและกิจกรรมของ บริษัท ย่อยในทิศทางที่. นั่นคือเหตุผลที่คนที่เป็นเพียงผู้บริหารที่ดีจะไม่ทำให้เป็นผู้นำที่ดี แน่นอนว่าผลลัพธ์ของคุณเป็นสิ่งที่มักจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งคุณ แต่เมื่อคุณมีการส่งเสริมในฐานะที่เป็นผู้นำก็ไม่ได้เป็นเพียงเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของแต่ละบุคคลอีกต่อไป ขณะนี้คุณมีคนอื่น ๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจที่จะดำเนินการและให้แน่ใจว่าประสิทธิภาพของทีมงานวิวัฒนาการเป็นทีมงานของคุณวิวัฒนาการ. 3) เพื่อดูภาพใหญ่ได้ออกจากไซโลของคุณนี้เป็นบทเรียนGillian Tett ของ FT ยังเหลืออยู่ในหนังสือเล่มล่าสุดของเธอ "ผลไซโล." จุดคือว่ายิ่งคุณกำลังเข้ามองที่มากกว่าที่คุณใช้เวลาเฉพาะที่โต๊ะทำงานของคุณหรือในพื้นที่สำนักงานของทีมที่สูงกว่าโอกาสที่คุณจะพลาดภาพใหญ่ของสิ่งที่สำคัญนอก ของทีมงานของคุณ. ในฐานะที่เป็นพนักงานจูเนียร์คุณไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งอื่นนอกเหนือจากงานของคุณงานของคุณชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ของคุณ แต่เป็นคุณปีนบันไดเห็นภาพใหญ่ไม่กลายเป็นความสำคัญมากขึ้น ต้องการทำเช่นนั้นคุณจะต้องใช้เวลามากขึ้นและอื่น ๆ ที่อยู่นอกสำนักงานของคุณอยู่นอกเครือข่ายการแก้ไขของคุณ ในฐานะที่เป็น Tett แสดงให้เห็นในหนังสือของเธอทำเช่นนั้นไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือที่มีประโยชน์ที่จะทำหน้าที่คิดและถูกมองว่าเป็นผู้นำ; มันสามารถสร้างหรือทำลายทีมของคุณหรือความเกี่ยวข้องขององค์กร. สำหรับโลเม, การเรียนรู้เหล่านั้นไม่ได้เพียงแค่มาจากการเรียนการสอน เธอนำมาใช้มากของพวกเขาตัวเอง มันทำให้เธอกลายเป็นไม่ได้เป็นเพียงดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ที่ INSEAD แต่อย่างหนึ่งที่คิดและทำหน้าที่อย่างหนึ่งมากเกินไป หนังสือของเธอจึงปฏิบัติสิ่งที่เธอบอกกล่าวทำให้มันเป็นคู่มือที่มีประโยชน์ในการอ่านและนำไปใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จะดีเพื่อให้มันแปลมันสำหรับส่วนที่เหลือของทีมสมาชิก * * * * * *



มันต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กคิดกลับไป ปริศนาที่พวกเขามีเมื่อเรียนจบ : วิธีสามารถฉันได้งานแรกที่ ถ้าทุกงานแรกขอประสบการณ์ ? หลายของบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กปีนบันไดห้าปีต่อมา กลายเป็นคำถามที่ : วิธีการที่ฉันสามารถพิสูจน์ได้ว่าฉันได้ใช้ภาวะผู้นำ ทักษะถ้าฉันถูกเสมอขอให้ปฏิบัติงานผู้นำที่ไม่ ?

herminia บาร์รา ในหนังสือ " ทำตัวเหมือนหัวหน้าของเธอ คิดอย่างผู้นำ " ให้คำตอบอย่างจริงจัง : แสดงในงานปัจจุบันของคุณเช่นถ้าคุณมีผู้นำ และความคิดและชื่อของคุณจะปฏิบัติตาม มันทำงานยังไงกันแน่ และอะไรเป็นบทเรียนอื่น ๆจากหนังสือของเธอ

1) คิดเหมือนผู้นำที่เป็นผลิตภัณฑ์ของประสบการณ์ที่ผ่านมาของคุณในฐานะผู้นำ
เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังคำแนะนำแรก บาร์ราบอกเราว่าวิธีที่คุณคิดว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของคุณ ถ้ามีประสบการณ์ของคุณที่สำนักงานเสมียน คุณจะคิดเหมือนสำนักงานเสมียน ถ้าประสบการณ์ที่ผ่านมาของคุณเป็นที่ของที่ปรึกษา คุณจะชอบเป็นที่ปรึกษาแต่ถ้าคุณสร้างกิจวัตรประจำวันความเป็นผู้นำในบทบาทของคุณจากนี้ไป คุณจะยังคิดแบบผู้นำในไม่กี่สัปดาห์หรือเป็นเดือนเลย

แล้วคุณจะเอาทฤษฎีไปปฏิบัติ ? บางทีคุณอาจจะสามารถสังเกตสิ่งที่เจ้านายของคุณเป็นประจำทุกวัน และทำเอง เจ้านายของคุณอาจจะแสดงรายการทั้งหมดวัตถุประสงค์ของทีมบนพื้นฐานรายสัปดาห์ แล้วบอกให้ทุกคนที่ควรทำอะไรเขาหรือเธออาจจะใช้จ่ายมากเวลาในโทรศัพท์หรือในการประชุม คุยกับหัวหน้าทีมอื่น ๆในและนอกองค์กร และเขาหรือเธออาจจะเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการ ที่ วิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคขององค์กรของคุณกล่าวถึง .

แน่นอน คุณไม่สามารถทำตามที่เจ้านายของคุณจะ แต่คุณสามารถสร้างรุ่น Micro มัน

ทำให้ตารางเวลาของคุณ DOS ,จัดระเบียบตามลําดับความสําคัญและรายงานให้เจ้านายของคุณบ่อยมากขึ้นเพื่อแสดงความคืบหน้าของคุณ .
อาหารกลางวันเวลา UPS รับกาแฟ หรือ sweatworking ' ' กับเพื่อนและคนอื่น ๆ ทั้งในและนอกองค์กรของคุณและเลือกสมองของพวกเขาที่จะได้รับมุมมองแบบองค์รวมมากขึ้นขององค์กรที่คุณทำงานอยู่
เข้าร่วมบรรยายหลักสูตรหรือกิจกรรมทางสังคมที่คุณสามารถศึกษาด้วยตนเองในสิ่งที่เกิดขึ้นใน
โลกภายนอก หลังจากที่ในขณะ ที่ควร ' ลวดคุณต่างตามที่คุณปฏิบัติแตกต่างกัน คุณจะคิดต่างออกไป แต่อาจจะมีอีก และในมุมมองขนาดใหญ่ของฉัน ผลประโยชน์จากงานของคุณในลักษณะนี้จะเพิ่มการมองเห็นของคุณกับเพื่อนร่วมงานของคุณและผู้จัดการเป็นลูกจ้างมืออาชีพใช้งานในคำอื่น ๆที่ไม่ใช่แค่พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง มันยังคนอื่น ๆรับรู้งานของคุณ .

2 ) เป็นผู้นำนั้นไม่เหมือนกับการเป็นผู้จัดการ
บาร์รามีเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์อื่น ๆที่จะช่วยให้คุณ " ทำ " มากกว่า " คิด " เหมือนผู้นำ . ในขณะที่พวกเขาทั้งหมดเป็นบริษัทที่มี ,ช่วงเวลาที่ยูเรก้าเลยเกิดขึ้น เมื่อ บาร์รา ชี้ว่า การเป็นผู้จัดการ ไม่เหมือนกับการเป็นผู้นำ มันเป็นคำสั่งที่ง่าย ตรงไปตรงมา และมันก็จริง . . . . .

แต่มันบ่งบอกถึง ? มันบาง ยกตัวอย่าง เช่น ในตัวอย่างข้างต้น ที่รายการ และการกระจายงานที่ชัดเจน เป็นกิจกรรมการบริหาร กิจกรรม ไม่ จำเป็น ต้อง ผู้นำภาวะผู้นำที่นอกเหนือไปจากการจัดกิจกรรมแบบวันต่อวัน มันคือเรื่อง " ทำไมต้อง " ทำ มันชี้ให้เห็นว่า เราจะไป

จะกลายเป็นผู้นำในแง่ที่ว่าจึงมีว่า เห็นภาพใหญ่ มันไม่ได้เกี่ยวกับการส่งมอบผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในไตรมาสถัดไปหรือปี ; มันเกี่ยวกับการเห็นที่อุตสาหกรรมของคุณไปใน 5 ปีและคณะทีมงานและกิจกรรมในทิศทางนั้น

นั่นคือเหตุผลที่คนที่เป็นเพียงผู้จัดการมรดกที่ดี จะไม่ทำให้ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ แน่นอน ผลลัพธ์ของคุณเป็นสิ่งที่มักจะได้รับการส่งเสริม แต่เมื่อคุณเลื่อนในตำแหน่งความเป็นผู้นำ มันไม่ใช่แค่เกี่ยวกับประสิทธิภาพของแต่ละบุคคลแล้ว ตอนนี้คุณต้องสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นแสดงและให้แน่ใจว่าผลงานของทีมพัฒนาเป็นทีมของคุณวิวัฒนาการ .

3 . ) เพื่อดูภาพใหญ่ ออกจาก
ไซโลของคุณนี่คือบทเรียนจิลเลียนเท็ตต์ของฟุตยังวาดในหนังสือเล่มล่าสุดของเธอ " ไซโลผล " ประเด็นคือ ว่า ยิ่งคุณเข้าไปด้านใน มองที่ ยิ่งคุณใช้เวลาที่โต๊ะของคุณ หรือในพื้นที่สำนักงานของทีมของคุณมีโอกาสสูงที่คุณจะคิดถึงภาพใหญ่ของเรื่องภายนอกของทีม

ในฐานะพนักงานจูเนียร์ , คุณคาดว่าจะไม่กังวลเรื่องอื่นมากกว่างานของคุณ งานของคุณ ชิ้นส่วนของปริศนา แต่เป็นคุณปีนบันได เห็นภาพที่ใหญ่กว่าจะกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น ต้องการทำเช่นนั้นคุณจำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้นนอกสำนักงานของคุณนอกเครือข่ายแก้ไขปัญหาของคุณ เป็น tett แสดงในหนังสือของเธอ ทำให้ไม่เพียงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ที่จะทำ คิด เห็น เป็น หัวหน้า มันสามารถสร้างหรือทำลายของคุณ ทีม หรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง .

สำหรับบาร์ราเรียน , นั้นไม่ได้มาจากการสอน เธอใช้มากของพวกเขาเอง มันทำให้เธอกลายเป็นไม่เพียง แต่เป็นอาจารย์สอนที่ INSEAD แต่สิ่งหนึ่งที่คิดและทำเหมือนกันหนังสือของเธอจึงปฏิบัติสิ่งที่เธอสอนให้มันเป็นคู่มือที่เป็นประโยชน์เพื่ออ่านและสมัคร