On daily activities, issued 8 Septe

On daily activities, issued 8 September 1941, consisted of five items:

"Thai people should divide their time into three portions. One for work, one for personal activities, and one for rest and sleeping. This should be orderly and follow a schedule until it becomes habitual."
"Thai people should carry out their normal personal activities as follows:
"Eat meals at set times, no more than four daily;
"Sleep approximately 6-8 hours."
"Thai people should faithfully perform work duties without discouragement or shirking. The midday rest and lunch period should be no longer than one hour. At the end of the working day, exercise by playing sports for at least one hour, or other activities such as gardening, caring for pets, or planting trees. Then, after showering, eat dinner.
"Thai people should use their free time at night to complete necessary work, converse with family and friends, seek knowledge by listening to radio news or reading, or other entertainment or arts, as opportunity permits."
"Thai people should use days off to benefit their bodies and minds by participating in religious activities, listening to sermons, making merit, seeking knowledge, traveling, playing sports, or resting."[12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กิจกรรมประจำวัน ออก 1941 8 กันยายน 5 รายการประกอบด้วย:"คนไทยควรแบ่งเวลาออกเป็นสามส่วน สำหรับทำงาน สำหรับกิจกรรมส่วนบุคคล และสำหรับพักผ่อนและนอนหลับ นี้ควรจะเป็นระเบียบ และตามกำหนดเวลาจนกว่าจะเป็น""คนไทยควรดำเนินกิจกรรมส่วนบุคคลปกติเป็นดังนี้:"กินอาหารที่ตั้งเวลา ทุกวันไม่เกิน 4"นอนประมาณ 6-8 ชั่วโมง""คนไทยควร faithfully ดำเนินงานหน้าที่ โดยความหรือ shirking ระยะเวลาพักผ่อนและอาหารกลางวันควรยาวไม่เกินหนึ่งชั่วโมง เมื่อสิ้นสุดวันทำงาน ออกกำลังกาย โดยการเล่นกีฬาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง หรือกิจกรรมอื่น ๆ เช่นทำสวน การดูแลสัตว์เลี้ยง หรือปลูกต้นไม้ จากนั้น หลังจากสถานอาบอบ กินอาหาร"คนไทยควรใช้เวลาว่างของพวกเขาในเวลากลางคืนทำงานที่จำเป็น สนทนากับครอบครัวและเพื่อน ๆ แสวงหาความรู้จากการฟังข่าววิทยุ หรืออ่าน หนังสือ หรืออื่น ๆ บันเทิง หรือ ศิลปะ เป็นโอกาสขออนุญาต""คนไทยควรใช้วันปิดเพื่อประโยชน์ของร่างกายและจิตใจ โดยการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางศาสนา ฟังธรรม ทำบุญ หาความรู้ ท่องเที่ยว เล่นกีฬา หรือพักผ่อน" [12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกี่ยวกับกิจกรรมในชีวิตประจำวันออก 8 กันยายน 1941 ประกอบด้วยห้ารายการ: "คนไทยควรแบ่งเวลาออกเป็นสามส่วนหนึ่งสำหรับการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งสำหรับกิจกรรมส่วนบุคคลและหนึ่งสำหรับการพักผ่อนและนอนหลับนี้ควรจะเป็นระเบียบและปฏิบัติตามตารางเวลาจน.. มันจะกลายเป็นนิสัย "." คนไทยควรดำเนินกิจกรรมส่วนตัวของพวกเขาปกติดังนี้"; กินอาหารในเวลาที่กำหนดไม่เกินสี่ในชีวิตประจำวัน". นอนประมาณ 6-8 ชั่วโมง "" คนไทยนับถือควรปฏิบัติหน้าที่การทำงานโดยไม่ต้องท้อใจ หรือเลี่ยง. ส่วนที่เหลือเที่ยงวันและระยะเวลาการรับประทานอาหารกลางวันควรจะไม่เกินหนึ่งชั่วโมง. ในตอนท้ายของวันทำงานการออกกำลังกายโดยการเล่นกีฬาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงหรือกิจกรรมอื่น ๆ เช่นสวนดูแลสัตว์เลี้ยงหรือการปลูกต้นไม้ จากนั้นหลังจากที่อาบน้ำกินอาหารเย็น. "คนไทยควรใช้เวลาว่างของพวกเขาในเวลากลางคืนเพื่อให้การทำงานที่จำเป็นสนทนากับครอบครัวและเพื่อน ๆ แสวงหาความรู้ด้วยการฟังข่าววิทยุหรือการอ่านหรือความบันเทิงอื่น ๆ หรือศิลปะการอนุญาตให้เป็นโอกาส." "คนไทยควรจะใช้วันหยุดเพื่อประโยชน์ของร่างกายและจิตใจของพวกเขาโดยการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางศาสนา, ฟังพระธรรมเทศนา, ทำบุญ, แสวงหาความรู้, การเดินทาง, การเล่นกีฬาหรือการพักผ่อน." [12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในกิจกรรมประจำวัน ออก 8 กันยายน 1941 จำนวน 5 รายการ :

" คนไทยควรแบ่งเวลาออกเป็นสามส่วน หนึ่งงาน สำหรับกิจกรรมส่วนบุคคลและหนึ่งสำหรับการพักผ่อนและนอนหลับ นี้ควรมีระเบียบและตามตารางเวลา จนมันกลายเป็นความเคยชิน "
" คนไทยควรปฏิบัติตามปกติของพวกเขาส่วนบุคคลกิจกรรมดังนี้ :
" กินอาหารในเวลาที่กำหนดไม่เกินสี่วัน ;
" นอนประมาณ 6-8 ชั่วโมง . "
" คนไทยควรปฏิบัติหน้าที่ทำงานตามหน้าที่ โดยไม่ท้อแท้ หรือปฏิเสธ . เที่ยงพักและอาหารกลางวันควรมีระยะเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ในตอนท้ายของวัน การออกกำลังกายโดยการเล่นกีฬาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การทำสวน การดูแลสัตว์เลี้ยง หรือปลูกต้นไม้ หลังจากอาบน้ำแล้วกินอาหารเย็น .
" คนไทยควรใช้เวลาว่างตอนกลางคืนเพื่อให้ทำงานที่จำเป็น , สนทนากับครอบครัวและเพื่อน ๆ แสวงหาความรู้จากการฟังวิทยุ ข่าว หรืออ่าน หรือความบันเทิงอื่น ๆ หรือ ศิลปะ ที่ให้โอกาส "
" คนไทยควรใช้วันหยุดเพื่อประโยชน์ของร่างกาย และจิตใจ โดยเข้าร่วมในทางศาสนา กิจกรรมฟังพระธรรมเทศนา การแสวงหาความรู้ท่องเที่ยว , เล่นกีฬา , หรือพักผ่อน " [ 12 ]