virus (Aragao et al., 2013). Cotton

virus (Aragao et al., 2013). Cotton transgenic has been developed
earlier by using antisense movement protein gene an
Indian variety (F846) and was observed to be resistant against
cotton leaf curl disease (Sanjaya et al., 2005). The genetic
transformation and regeneration of cotton (G. hirsutum cv.
Coker 310) plants have been developed earlier by using
somatic embryogenesis (Chaudhary et al., 2004; Kumar and
Tuli 2004). However, in our study, the bC1gene has been used
to transform the hypocotyls of cotton (Coker 312). The developed
plants were confirmed by PCR and Southern blot hybridization.
Southern blot hybridization is the excellent techniques
to determine the virus load in the plant tissue and has a direct
correlation with disease resistance (Taylor et al., 2004). The
developed cotton lines showed a variable resistance pattern
against Cotton leaf curl virus after inoculation, not only in
the greenhouse, but also in open field conditions. It is observed
that the level of virus accumulation in transgenic plants was
low as it produced delayed or less severe symptoms. Finally,
we were able to select some resistant plants with significant
or delayed symptom appearance. The developed plants have
single copy integration in the cotton genome and their inheritance
pattern showed the stable integration, but their stability
will be further evaluated in the breeding program.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไวรัส (Aragao et al., 2013) ผ้าฝ้ายดัดแปลงพันธุกรรมได้รับการพัฒนา
ก่อนหน้านี้โดยใช้ยีนโปรตีนเคลื่อนไหว antisense
หลากหลายอินเดีย (F846) และได้รับการปฏิบัติที่จะทนต่อ
โรคใบฝ้ายขด (Sanjaya et al., 2005) พันธุกรรม
(. G. hirsutum พันธุ์การเปลี่ยนแปลงและการฟื้นฟูจากผ้าฝ้าย
Coker 310) พืชได้รับการพัฒนาก่อนหน้านี้โดยใช้
เอมบริร่างกาย (Chaudhary et al, 2004;. มาร์และ
Tuli 2004) อย่างไรก็ตามในการศึกษาของเรา, bC1gene ถูกนำมาใช้
ในการแปลงส่วนใต้ใบเลี้ยงจากผ้าฝ้าย (Coker 312) การพัฒนา
พืชได้รับการยืนยันโดยวิธี PCR และการผสมข้ามพันธุ์ blot ภาคใต้.
ไฮบริ blot ภาคใต้เป็นเทคนิคที่ยอดเยี่ยม
ในการตรวจสอบการโหลดไวรัสในเนื้อเยื่อพืชและมีโดยตรง
ความสัมพันธ์กับความต้านทานโรค (เทย์เลอร์, et al., 2004)
เส้นฝ้ายพัฒนาแสดงให้เห็นรูปแบบตัวแปรต้านทาน
ต่อเชื้อไวรัสใบฝ้ายขดหลังการฉีดวัคซีนไม่เพียง แต่ใน
เรือนกระจก แต่ยังอยู่ในสภาพสนามที่เปิด มันเป็นที่สังเกต
ว่าระดับของการสะสมไวรัสในพืชดัดแปรพันธุกรรมเป็น
ต่ำเป็นมันผลิตล่าช้าหรืออาการรุนแรงน้อยกว่า ในที่สุด
เราก็สามารถที่จะเลือกพืชทนบางอย่างมีนัยสำคัญกับ
ลักษณะอาการหรือล่าช้า พืชมีการพัฒนา
บูรณาการสำเนาเดียวในจีโนมผ้าฝ้ายและมรดกของเขา
แสดงให้เห็นรูปแบบบูรณาการที่มีเสถียรภาพ แต่ความมั่นคงของพวกเขา
จะได้รับการประเมินต่อไปในโครงการปรับปรุงพันธุ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไวรัส ( aragao et al . , 2013 ) ฝ้ายดัดแปลงพันธุกรรมได้รับการพัฒนา
ก่อนหน้านี้โดยใช้โปรตีนยีน antisense การเคลื่อนไหวที่หลากหลายอินเดีย
( f846 ) และตรวจสอบเพื่อให้ต้านทานต่อโรคใบหงิก
ฝ้าย ( กัปตันซึบาสะ et al . , 2005 ) การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม และการงอกของฝ้าย
( G hirsutum CV
Coker 310 ) พืชที่ได้รับการพัฒนาก่อนหน้านี้โดยใช้
เกิดโซมาติกเอ็มบริโอ ( Chaudhary et al . ,2004 ; Kumar และ
Tuli 2004 ) อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาของเรา bc1gene ถูกใช้
เปลี่ยนสารฝ้าย ( ตัวผม ) พัฒนา
พืชได้รับการยืนยันด้วยวิธี PCR และ Southern blot hybridization Southern blot hybridization .

เป็นเทคนิคที่ยอดเยี่ยมเพื่อตรวจสอบไวรัสโหลดในเนื้อเยื่อพืช และมีความสัมพันธ์โดยตรง
ที่มีความต้านทานโรค ( Taylor et al . , 2004 )
การพัฒนาเส้นฝ้ายให้ต้านทานตัวแปรแบบแผน
กับผ้าฝ้ายใบหงิกไวรัสหลังจากที่ได้รับไม่เพียง แต่ใน
เรือนกระจก แต่ยังอยู่ในเงื่อนไขเปิดสนาม มันเป็นที่สังเกต
ว่าระดับของไวรัสในพืชดัดแปรพันธุกรรม การสะสมคือ
น้อย มันผลิตล่าช้า หรืออาการรุนแรงน้อยลง ในที่สุด เราก็สามารถที่จะเลือก

บางป้องกันพืชกับอย่างมีนัยสำคัญหรือล่าช้าที่ปรากฏอาการ การพัฒนาพืช
รวมคัดลอกเดียวในฝ้ายจีโนมและแบบแผนมรดก
มีการมั่นคง แต่ความมั่นคงของพวกเขา
จะเพิ่มเติมประเมินในการเพาะพันธุ์