In order to investigate discriminan

In order to investigate discriminant validity, the method proposed by Fornell and Larcker (1981) is initially applied. According to this method, the extracted variance for each individual construct should be greater than the squared correlation (i.e., shared variance) between constructs. An examination of Table 2 shows that the extracted variance for each of the constructs exceeds the squared correlation. Moreover, to further test discriminant validity, the baseline measurement model is compared with alternative models where covariances between pairs of constructs are constrained to unity (Anderson and Gerbing, 1988). In every case, the restricted model has a significant (p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การตรวจสอบตั้งแต่ discriminant เริ่มมีใช้วิธีการนำเสนอ โดย Fornell และ Larcker (1981) ตามวิธีการนี้ ต่างแยกสำหรับแต่ละโครงสร้างแต่ละควรมากกว่าความสัมพันธ์ยกกำลังสอง (เช่น ร่วมต่าง) ระหว่างโครงสร้าง การตรวจสอบตารางที่ 2 แสดงว่า ผลต่างที่แยกสำหรับแต่ละโครงสร้างเกินกว่าสหสัมพันธ์ยกกำลังสอง นอกจากนี้ การทดสอบเพิ่มเติม มีผลบังคับใช้ discriminant แบบประเมินพื้นฐานเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นซึ่งจำกัด covariances ระหว่างคู่ของโครงสร้างเพื่อความสามัคคี (แอนเดอร์สันและ Gerbing, 1988) มีความสำคัญในทุกกรณี แบบจำกัด (p < 0.05) ย่อมเหมาะสมกว่าแบบจำกัดที่มีผลบังคับใช้ discriminant พอแนะนำกรอกข้อมูล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อที่จะตรวจสอบความถูกต้องจำแนกวิธีการที่เสนอโดย Fornell และ Larcker (1981) จะเริ่มใช้ ตามวิธีการนี้ความแปรปรวนที่สกัดสำหรับแต่ละบุคคลที่สร้างควรจะมากกว่าความสัมพันธ์กำลังสอง (เช่นความแปรปรวนที่ใช้ร่วมกัน) ระหว่างโครงสร้าง การตรวจสอบของตารางที่ 2 แสดงให้เห็นว่าความแปรปรวนที่สกัดสำหรับแต่ละสร้างเกินกว่าความสัมพันธ์กำลังสอง นอกจากนี้เพื่อความถูกต้องจำแนกทดสอบเพิ่มเติมรูปแบบการวัดพื้นฐานเมื่อเทียบกับรุ่นทางเลือกที่ covariances ระหว่างคู่ของโครงสร้างมีข้อ จำกัด ที่จะมีความเป็นเอกภาพ (แอนเดอ Gerbing, 1988) ในทุกกรณีรูปแบบที่มี จำกัด อย่างมีนัยสำคัญ (p <0.05) แบบที่ด้อยกว่ารุ่นไม่ จำกัด จำแนกความถูกต้องเพียงพอที่บอก.
เต็ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อตรวจสอบความตรงเชิงจำแนก วิธีการที่เสนอโดยฟอร์เนิล และ larcker ( 1981 ) เป็นครั้งแรกที่ใช้ ตามวิธีนี้สกัดความแปรปรวนแต่ละสร้างควรจะมากกว่า squared ความสัมพันธ์ ( เช่น ใช้ความแปรปรวนระหว่างโครงสร้าง .การตรวจสอบของตารางที่ 2 แสดงให้เห็นว่า สารสกัดความแปรปรวนของแต่ละโครงสร้างเกินยกกำลังสอง ) นอกจากนี้ได้ทดสอบความเที่ยงตรงระดับพื้นฐานการวัดแบบเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นที่ covariances ระหว่างคู่ของโครงสร้างถูกกำหนดเพื่อความสามัคคี ( Anderson และ gerbing , 1988 ) ในทุกกรณี , จำกัดรูปแบบได้อย่างมีนัยสำคัญ ( p < 005 ) พอดี ยากจนกว่าไม่จำกัดรูปแบบแนะนำความตรงจำแนก
อิ่มเพียงพอ