In a hash file, records do not have

In a hash file, records do not have to be written sequentially to the file. Instead, a
hash function calculates the address of the page in which the record is to be stored
based on one or more fields in the record. The base field is called the hash field,
or if the field is also a key field of the file, it is called the hash key. Records in a
hash file will appear to be randomly distributed across the available file space. For
this reason, hash files are sometimes called random, or direct, files.
The hash function is chosen so that records are as evenly distributed as possible
throughout the file. One technique, called folding, applies an arithmetic function,
such as addition, to different parts of the hash field. Character strings are converted
into integers before the function is applied using some type of code, such
as alphabetic position or ASCII values. For example, we could take the first two
characters of the staff number, staffNo, convert them to an integer value, then add
this value to the remaining digits of the field. The resulting sum is used as the
address of the disk page in which the record is stored. An alternative, more popular
technique, is the division-remainder hashing. This technique uses the MOD function,
which takes the field value, divides it by some predetermined integer value,
and uses the remainder of this division as the disk address.
The problem with most hashing functions is that they do not guarantee a unique
address, because the number of possible values a hash field can take is typically
much larger than the number of available addresses for records. Each address generated
by a hashing function corresponds to a page, or bucket, with slots for multiple
records. Within a bucket, records are placed in order of arrival. When the
same address is generated for two or more records, a collision is said to have

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในแฟ้มแฮ คอร์ดไม่ได้เขียนตามลำดับไปยังแฟ้ม แทน การอยู่ของหน้าที่ระเบียนจะถูกเก็บไว้คำนวณฟังก์ชันแฮชใช้อย่าง น้อยหนึ่งเขตข้อมูลในระเบียน เมื่อเรียกว่าฟิลด์แฮหรือถ้าฟิลด์เป็นฟิลด์คีย์แฟ้ม เรียกว่าคีย์แฮ บันทึกในการแฮแฟ้มจะปรากฏแบบสุ่มกระจายทั่วพื้นที่มีแฟ้ม สำหรับด้วยเหตุนี้ แฮแฟ้มบางครั้งเรียกว่าสุ่ม โดย ตรง แฟ้มฟังก์ชันแฮชถูกเลือกเพื่อให้ระเบียนเป็นเท่า ๆ กันกระจายเป็นตลอดทั้งแฟ้ม เทคนิคหนึ่ง พับ เรียกใช้ฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์เช่นนี้ ส่วนต่าง ๆ ของฟิลด์แฮ แปลงสายอักขระเป็นจำนวนเต็มก่อนมีใช้ฟังก์ชันใช้บางชนิดของรหัส เช่นเป็นตำแหน่งตัวอักษรหรือค่า ASCII ตัว เราสามารถนำครั้งแรกตัวอักษรจำนวนพนักงาน staffNo แปลงค่าจำนวนเต็ม แล้วเพิ่มค่านี้ตัวเลขที่เหลือของฟิลด์ ใช้ได้ผลเป็นที่อยู่ของดิสก์ที่ระเบียนจะถูกเก็บ ทางเลือก นิยมมากขึ้นเทคนิค ที่เหลือแบ่งเป็น hashing เทคนิคนี้ใช้ฟังก์ชัน MODซึ่งใช้ค่าของฟิลด์ หาร ด้วยค่าจำนวนเต็มที่กำหนดไว้บางใช้ส่วนเหลือของส่วนนี้เป็นอยู่บนดิสก์ปัญหาเกี่ยวกับฟังก์ชันการ hashing ส่วนใหญ่เป็นที่พวกเขาไม่รับประกันเฉพาะที่อยู่ เพราะแฮฟิลด์จะใช้เป็นปกติขนาดใหญ่กว่าหมายเลขของระเบียนที่มีอยู่ สร้างแต่ละรายโดยฟังก์ชัน hashing ตรงไปยังหน้า กลุ่ม มีช่องสำหรับหลายเรกคอร์ด ภายในฝากข้อมูล ระเบียนอยู่ในใบสั่งของมา เมื่อการสร้างขึ้นสำหรับเรกคอร์ดที่ที่สอง หรือมากกว่าที่อยู่เดียวกัน ความขัดแย้งกันว่า มี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในแฟ้มกัญชาบันทึกไม่ได้ที่จะเขียนตามลำดับไปยังแฟ้ม แทนฟังก์ชันแฮชคำนวณที่อยู่ของหน้าซึ่งบันทึกจะถูกเก็บไว้ขึ้นอยู่กับหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งเขตข้อมูลในการบันทึก เขตฐานที่เรียกว่าเขตกัญชา, หรือถ้าสนามยังเป็นสาขาที่สำคัญของไฟล์ก็จะเรียกว่าสำคัญกัญชา บันทึกในไฟล์กัญชาจะปรากฏที่จะกระจายทั่วพื้นที่สุ่มไฟล์ที่มีอยู่ สำหรับเหตุผลนี้ไฟล์กัญชาบางครั้งเรียกว่าสุ่มหรือโดยตรงไฟล์. ฟังก์ชั่นแฮชได้รับการแต่งตั้งเพื่อให้เป็นไปตามที่บันทึกกระจายที่เป็นไปได้ตลอดทั้งไฟล์ หนึ่งเทคนิคที่เรียกว่าพับใช้ฟังก์ชั่นทางคณิตศาสตร์เช่นการบวกการไปยังส่วนต่างๆของสนามกัญชา สตริงตัวอักษรจะถูกแปลงลงในจำนวนเต็มก่อนที่ฟังก์ชั่นที่มีการใช้ใช้ประเภทของรหัสบางอย่างเช่นตำแหน่งตัวอักษรหรือค่าASCII ตัวอย่างเช่นเราอาจจะใช้เวลาสองคนแรกที่ตัวละครของจำนวนพนักงาน staffNo, แปลงให้เป็นค่าจำนวนเต็มแล้วเพิ่มค่านี้เป็นตัวเลขที่เหลือของสนาม ผลรวมส่งผลให้ถูกใช้เป็นที่อยู่ของหน้าดิสก์ที่บันทึกจะถูกเก็บไว้ ทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเทคนิคเป็นคร่ำเครียดส่วนที่เหลือ เทคนิคนี้ใช้ฟังก์ชั่น MOD, ซึ่งจะมีค่าของฟิลด์หารค่าจำนวนเต็มบางที่กำหนดไว้และใช้ที่เหลือของส่วนนี้เช่นที่อยู่ดิสก์. ปัญหาส่วนใหญ่ฟังก์ชั่นคร่ำเครียดก็คือพวกเขาไม่รับประกันไม่ซ้ำกันอยู่เพราะจำนวนค่าที่เป็นไปสนามกัญชาสามารถใช้โดยทั่วไปจะมีขนาดใหญ่กว่าจำนวนที่อยู่สามารถใช้ได้สำหรับการบันทึก ที่อยู่แต่ละคนสร้างขึ้นโดยฟังก์ชั่นคร่ำเครียดสอดคล้องกับหน้าหรือถังที่มีช่องสำหรับหลายระเบียน ภายในถังบันทึกจะอยู่ในคำสั่งของมาถึง เมื่ออยู่เดียวกันถูกสร้างขึ้นสำหรับสองคนหรือมากกว่าบันทึกการปะทะกันจะกล่าวว่ามี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในแฟ้มประวัติเสียไม่ต้องเขียนเป็นกับไฟล์ แทน ,
กัญชาฟังก์ชันคำนวณที่อยู่ของหน้าเว็บที่บันทึกจะถูกเก็บไว้
ตามหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งเขตข้อมูลในระเบียน ฐานข้อมูลที่เรียกว่ากัญชาเขต ,
หรือถ้าสนามเป็นสนามหลักของแฟ้ม มันถูกเรียกว่าสับคีย์
ประวัติในแฟ้มใหม่จะปรากฏเป็นแบบสุ่มกระจายทั่วพื้นที่ไฟล์ที่มีอยู่ สำหรับ
เหตุผลนี้ ไฟล์ hash บางครั้งเรียกว่าแบบสุ่มหรือโดยตรง ไฟล์ .
ฟังก์ชันแฮชจะเลือกเพื่อให้ประวัติที่กระจายตัวมากที่สุด
ตลอดทั้งไฟล์ เทคนิคหนึ่งที่เรียกว่าพับ ใช้ฟังก์ชันคณิตศาสตร์
, เช่น บวก กับชิ้นส่วนที่แตกต่างกันของกัญชาที่สนามสตริงอักขระจะถูกแปลงให้เป็นจำนวนเต็มก่อน
ฟังก์ชันจะใช้ใช้บางชนิดของรหัสเช่น
ตำแหน่งตัวอักษรหรือ ASCII ค่า ตัวอย่างเช่น เราสามารถใช้สอง
ตัวอักษรแรกของพนักงานจำนวน staffno ให้แปลงจำนวนเต็มค่า แล้วเพิ่ม
มูลค่านี้ที่เหลือค่าของฟิลด์ ซึ่งจะใช้เป็น
ผลรวมที่อยู่ของดิสก์หน้าที่บันทึกเก็บไว้ ทางเลือก , เทคนิคที่นิยม
เพิ่มเติมเป็นส่วนเหลือ hashing . เทคนิคนี้ใช้ฟังก์ชัน mod
ซึ่งใช้ค่าสนามหาร โดยมีกำหนดจำนวนเต็มค่า
และใช้ส่วนที่เหลือของส่วนนี้เป็นดิสก์ที่อยู่ .
ปัญหาส่วนใหญ่แฮชฟังก์ชันที่พวกเขาไม่ได้รับประกันที่อยู่เฉพาะ
,เนื่องจากจำนวนค่าที่เป็นไปได้แฮชสนามสามารถใช้เป็นปกติ
ขนาดใหญ่กว่าจำนวนของที่อยู่ที่สามารถบันทึก แต่ละที่อยู่สร้าง
โดยแฮชฟังก์ชันที่สอดคล้องกับหน้า หรือถังที่มีสล็อตสำหรับบันทึกหลาย

ภายในถัง ระเบียนจะถูกวางไว้เพื่อเดินทาง เมื่อ
ที่อยู่เดียวกันจะถูกสร้างขึ้นสำหรับสองหรือมากกว่าบันทึกการชนว่ามี