found similarresults for c9,t11-CLA

found similar
results for c9,t11-CLA in subcutaneous fat from pigs (R2=0.92,
RMSECV=2 mg g−1 fat) compared to beef subcutaneous fat in the
present study. In contrast, in two separate studies Pérez-Juan et al.
(2010; R2=0.68, RMSECV=11mg g−1 fat, RPD=1.67) and Pérez-
Marín et al. (2009; R2=0.39, RMSECV=4.70 mg g−1 fat, RPD=1.3)
reported that NIRS more reliably predicted the C18:2n−6 content of
subcutaneous fat from pigs than found in the present study for beef.
However, these were still not accurate enough to be used for screening
purposes. This lack of agreement between studies could be due to
differences in the variability of the samples. Indeed, the FA studied in the
present work showed a wider range of variation than that found in the
previous studies with
subcutaneous fat from swine which likely arose from either the different
feeding regimes used in this study or different levels between species
(pig vs. cattle, that is monogastric vs. ruminant due to complexity of the
rumen environment).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พบคล้ายกันผลลัพธ์สำหรับ c9, t11-CLA ในระบายจากสุกร (R2 = 0.92RMSECV = 2 mg g−1 ไขมัน) เปรียบเทียบกับเนื้อระบายในตัวการศึกษาปัจจุบัน ในทางตรงกันข้าม สองแยกศึกษา Pérez Juan et al(2010 R2 = 0.68, RMSECV = 11 มิลลิกรัมไขมัน g−1, RPD = 1.67) และ Pérez -Marín et al. (2009 R2 = 0.39, RMSECV = 4.70 มิลลิกรัมไขมัน g−1, RPD = 1.3)รายงานว่า คุณภาพมากขึ้นได้ทำนาย C18:2n−6 เนื้อหาของระบายจากสุกรมากกว่าที่พบในการศึกษาที่อยู่ในเนื้ออย่างไรก็ตาม เหล่านี้ก็ยังไม่แม่นยำพอที่จะใช้สำหรับคัดกรองวัตถุประสงค์ ขาดข้อตกลงระหว่างการศึกษาอาจเนื่องความแตกต่างในความแปรผันของตัวอย่าง แน่นอน FA ศึกษาในการนำเสนองานที่แสดงให้เห็นว่าช่วงกว้างของการเปลี่ยนแปลงมากกว่าที่พบในการการศึกษาก่อนหน้านี้ด้วยระบายจากสุกรซึ่งอาจเกิดจากการแตกต่างกันระบอบที่ใช้ในการศึกษาหรือระดับที่แตกต่างระหว่างสายพันธุ์การให้อาหาร(หมูกับวัว ที่ monogastric เทียบกับเคี้ยวเอื้องเนื่องจากความซับซ้อนของการต่อสภาพแวดล้อม)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พบคล้าย
ผลสำหรับ c9, T11-CLA ในไขมันใต้ผิวหนังจากสุกร (R2 = 0.92,
RMSECV = 2 มิลลิกรัมต่อกรัมไขมัน-1) เมื่อเทียบกับเนื้อไขมันใต้ผิวหนังใน
การศึกษาครั้งนี้ ในทางตรงกันข้ามในการศึกษาทั้งสองแยกจากกันPérez-Juan et al.
(2010; R2 = 0.68, RMSECV = 11mg-1 กรัมไขมัน RPD = 1.67) และPérez-
Marínและคณะ (2009; R2 = 0.39, RMSECV = 4.70 มิลลิกรัมต่อกรัม-1 ไขมัน RPD = 1.3)
รายงานว่า NIRS คาดการณ์น่าเชื่อถือมากขึ้น C18: เนื้อหา 2n-6
. ไขมันใต้ผิวหนังจากสุกรกว่าที่พบในการศึกษานี้สำหรับเนื้อวัว
แต่เหล่านี้ ก็ยังคงไม่ถูกต้องเพียงพอที่จะใช้สำหรับการตรวจคัดกรอง
วัตถุประสงค์ ขาดของข้อตกลงระหว่างการศึกษานี้อาจจะเป็นเพราะ
ความแตกต่างในความแปรปรวนของกลุ่มตัวอย่าง อันที่จริงเอฟเอคัศึกษาใน
งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าเป็นช่วงกว้างของการเปลี่ยนแปลงกว่าที่พบใน
การศึกษาก่อนหน้านี้มี
ไขมันใต้ผิวหนังจากสุกรซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการที่แตกต่างกันทั้ง
ระบอบการให้อาหารที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้หรือในระดับที่แตกต่างกันระหว่างสายพันธุ์
(หมูกับวัว นั่นคือกระเพาะเดี่ยวกับสัตว์เคี้ยวเอื้องเนื่องจากความซับซ้อนของ
สภาพแวดล้อมในกระเพาะรูเมน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พบผลลัพธ์ที่คล้ายกัน
สำหรับ C9 , ระดับ CLA ในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง จากสุกร ( R2 = 0.92 ,
rmsecv = 2 มิลลิกรัมไขมัน− 1 ) เมื่อเทียบกับเนื้อวัวไขมันใต้ผิวหนังใน
ปัจจุบันการศึกษา ในทางตรงกันข้ามสองแยกการศึกษา เปเรซฆ et al .
( 2553 ; R2 = 0.68 , rmsecv = 11mg G − 1 ไขมัน ร์แพด = 1.67 ) และ เปเรซ -
Mar í n et al . ( 2552 ; R2 = 0.39 rmsecv = 4.70 มิลลิกรัม G − 1 ไขมัน ร์แพด = 1.3 )
รายงานว่า nirs น่าเชื่อถือมากขึ้นคาดการณ์ c18 :2n − 6 เนื้อหาของไขมันใต้ผิวหนัง จากสุกรกว่า
พบในการศึกษาเนื้อ .
แต่เหล่านี้ยังไม่แม่นพอ ที่จะใช้สำหรับวัตถุประสงค์ในการคัดกรอง
. นี้ไม่มีข้อตกลงระหว่างการศึกษาอาจจะเนื่องจาก
ความแตกต่างในความผันแปรของตัวอย่าง แน่นอน ฟาเรียน
ปัจจุบันทำงาน มีช่วงกว้างของการเปลี่ยนแปลงมากกว่าที่พบในการศึกษาก่อนหน้านี้ด้วย

ไขมันใต้ผิวหนังจากสุกร ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากทั้งระบอบแตกต่าง
อาหารที่ใช้ในการศึกษา หรือระดับที่แตกต่างกันระหว่างชนิด
( หมู กับ วัว ที่ monogastric กับสัตว์เคี้ยวเอื้องเนื่องจากความซับซ้อนของ
กระบวนการสิ่งแวดล้อม )