พระราชวังต้องห้าม กู้กง สถานที่ตั้งของพระราชวังโบราณแห่งนี้แต่เดิมนั้น การแปล - พระราชวังต้องห้าม กู้กง สถานที่ตั้งของพระราชวังโบราณแห่งนี้แต่เดิมนั้น จีน วิธีการพูด

พระราชวังต้องห้าม กู้กง สถานที่ตั้ง


พระราชวังต้องห้าม กู้กง
สถานที่ตั้งของพระราชวังโบราณแห่งนี้แต่เดิมนั้นก็คือ พระราชวังหลวงของราชวงศ์หยวนแห่งมองโกล ซึ่งต่อมาเมื่อราชวงศ์หยวนล่มสลายลงแล้วมีราชวงศ์หมิงขึ้นมาแทน จักรพรรดิพระองค์แรกของราชวงศ์หมิง จักรพรรดิหงอู่ได้ย้ายเมืองหลวงจากปักกิ่งไปนานกิงและดำริให้รื้อถอนพระราชวังออก ซึ่งต่อมาเมื่อพระราชโอรสของพระองค์ จักรพรรดิหย่งเล่อได้ขึ้นครองราชย์ พระองค์ก็ได้ย้ายเมืองหลวงกลับปักกิ่งดั่งเดิม และทรงสั่งให้ก่อสร้างพระราชวังใหม่ขึ้นในปี พ.ศ. 1949 ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นพระราชวังต้องห้ามแห่งนี้

ต่อมาในปี พ.ศ. 2187 ได้เกิดจลาจลขึ้นทำให้พระราชวังสมัยราชวงศหมิงเสียหายไป และเมื่อราชวงศ์ชิงขึ้นครองอำนาจต่อจากราชวงศ์หมิง ทางราชวงศ์ชิงก็ได้ก่อสร้างสร้างขึ้นมาใหม่บนฐานสิ่งก่อสร้างเดิม ทำให้พระราชวังกลายมาเป็นจุดศูนย์กลางอำนาจของจีนอีกครั้งหนึ่งเรื่อยมาจนถึงการล่มสลายของราชวงศ์ชิง และการเปลี่ยนมาเป็นระบอบสาธารณรัฐ

พระราชวังต้องห้าม จากชื่อภาษาจีน แปลตามตัวอักษรได้ว่า 'เมืองต้องห้ามสีม่วง' พระราชวังต้องห้ามตั้งอยู่ใจกลางของกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน เป็นพระราชวังหลวงมาตั้งแต่สมัยกลางราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง พระราชวังต้องห้ามยังรู้จักกันในนาม พิพิธภัณฑ์พระราชวัง ครอบคลุมพื้นที่ 720,000 ตารางเมตร อาคาร 800 หลัง มีห้องทั้งหมด 9,999 ห้อง และมีพระที่นั่ง 75 องค์ ใช้ระยะก่อสร้างประมาณ 14 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 1949 จนถึง พ.ศ. 1963

พระราชวังต้องห้ามตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจัตุรัสเทียนอันเหมิน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าสู่พระราชวังต้องห้ามได้ทางจตุรัสนี้ ผ่านประตูเทียนอันเหมิน บริเวณรอบจตุรัสเทียนอันเหมิน เรียกว่า อาณาเขตหลวง โดยมีสิ่งก่อสร้างสำคัญอยู่โดยรอบ เช่น มหาศาลาประชาคม หอพระสมุด ห้องหับต่างๆอีกมาก รวมทั้งยังมีสวน ลานกว้าง ทางเดินเชื่อมกันโดยตลอด ในอดีตภายในเป็นที่ประทับของจักรพรรดิ โดยมีสนมกำนัล ขันที และข้าหลวงรับใช้ ซึ่งคนเหล่านี้ต้องอาศัยอยู่ในนครต้องห้ามตลอดชีวิต เพื่อความสำราญของจักรพรรดิ ในวังจะมีวิเสท 6,000 คน ประกอบพระกระยาหาร มีสนมกำนัล 9,000 นาง ซึ่งมีขันที 70,000 คน คอยดูแลให้ มีคำเล่าลือกันว่า พระนางซูสีไทเฮา เวลาเสวยก็จะมีพระกระยาหารถึง 148 ชุด และทรงส่งขันทีไปเสาะหาชายหนุ่มซึ่งเข้าวังแล้วจะไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย

แม้ว่าประเทศจีนจะไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว พระราชวังต้องห้ามก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีน และภาพประตูเทียนอันเหมินก็ยังปรากฏอยู่ในตราประจำสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย นอกจากนี้ พระราชวังต้องห้ามยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งไม่นานมานี้ ทางรัฐบาลจีนได้มีนโยบายจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวเพื่อจะอนุรักษ์สภาพของอาคารและสวนหย่อมไว้

ยูเนสโกได้ประกาศให้พระราชวังต้องห้ามร่วมกับพระราชวังเสิ่นหยางเป็นหนึ่งในมรดกโลกในนาม พระราชวังหลวงแห่งราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงในปักกิ่งและเสิ่นหยาง เมื่อ พ.ศ. 2530 (ค.ศ. 1987)

พระราชวังต้องห้ามเป็นที่รู้จักในหลากหลายชื่อ ในภาษาจีนนั้น ชาวจีนจะเรียกพระราชวังต้องห้ามว่า กู้กง ซึ่งแปลว่า พระราชวังเก่า นอกจากนี้ คำนี้ยังใช้เรียกพระราชวังเก่าตามเมืองต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไปในประเทศจีนด้วย

ส่วนคำที่เรารู้จักกันดีว่า 'พระราชวังต้องห้าม' นั้น แปลมาจากภาษาจีน จื่อจิ้น เฉิง ซึ่งแปลตามตัวอักษรได้ว่า 'เมืองต้องห้ามสีเลือดหมู' ด้วยเหตุที่ว่า ห้ามสามัญชนเข้าไปในบริเวณวังหลวงโดยเด็ดขาด และสีเลือดหมูนั้นเป็นสีอาคารและหลังคาโดยทั่วไป
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (จีน) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
พระราชวังต้องห้าม กู้กงสถานที่ตั้งของพระราชวังโบราณแห่งนี้แต่เดิมนั้นก็คือ พระราชวังหลวงของราชวงศ์หยวนแห่งมองโกล ซึ่งต่อมาเมื่อราชวงศ์หยวนล่มสลายลงแล้วมีราชวงศ์หมิงขึ้นมาแทน จักรพรรดิพระองค์แรกของราชวงศ์หมิง จักรพรรดิหงอู่ได้ย้ายเมืองหลวงจากปักกิ่งไปนานกิงและดำริให้รื้อถอนพระราชวังออก ซึ่งต่อมาเมื่อพระราชโอรสของพระองค์ จักรพรรดิหย่งเล่อได้ขึ้นครองราชย์ พระองค์ก็ได้ย้ายเมืองหลวงกลับปักกิ่งดั่งเดิม และทรงสั่งให้ก่อสร้างพระราชวังใหม่ขึ้นในปี พ.ศ.1949年 ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นพระราชวังต้องห้ามแห่งนี้ต่อมาในปี พ.ศ.2187年 ได้เกิดจลาจลขึ้นทำให้พระราชวังสมัยราชวงศหมิงเสียหายไป และเมื่อราชวงศ์ชิงขึ้นครองอำนาจต่อจากราชวงศ์หมิง ทางราชวงศ์ชิงก็ได้ก่อสร้างสร้างขึ้นมาใหม่บนฐานสิ่งก่อสร้างเดิม ทำให้พระราชวังกลายมาเป็นจุดศูนย์กลางอำนาจของจีนอีกครั้งหนึ่งเรื่อยมาจนถึงการล่มสลายของราชวงศ์ชิง และการเปลี่ยนมาเป็นระบอบสาธารณรัฐพระราชวังต้องห้าม จากชื่อภาษาจีน แปลตามตัวอักษรได้ว่า 'เมืองต้องห้ามสีม่วง' พระราชวังต้องห้ามตั้งอยู่ใจกลางของกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน เป็นพระราชวังหลวงมาตั้งแต่สมัยกลางราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง พระราชวังต้องห้ามยังรู้จักกันในนาม พิพิธภัณฑ์พระราชวัง ครอบคลุมพื้นที่ 720,000 ตารางเมตร อาคาร 800 หลัง มีห้องทั้งหมด 9,999 ห้อง และมีพระที่นั่ง 75 องค์ ใช้ระยะก่อสร้างประมาณ 14 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.1949年 จนถึง พ.ศ.1963พระราชวังต้องห้ามตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจัตุรัสเทียนอันเหมิน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าสู่พระราชวังต้องห้ามได้ทางจตุรัสนี้ ผ่านประตูเทียนอันเหมิน บริเวณรอบจตุรัสเทียนอันเหมิน เรียกว่า อาณาเขตหลวง โดยมีสิ่งก่อสร้างสำคัญอยู่โดยรอบ เช่น มหาศาลาประชาคมหอพระสมุด ห้องหับต่างๆอีกมาก รวมทั้งยังมีสวน ลานกว้าง ทางเดินเชื่อมกันโดยตลอด ในอดีตภายในเป็นที่ประทับของจักรพรรดิ โดยมีสนมกำนัล ขันที และข้าหลวงรับใช้ ซึ่งคนเหล่านี้ต้องอาศัยอยู่ในนครต้องห้ามตลอดชีวิต เพื่อความสำราญของจักรพรรดิ ในวังจะมีวิเสท 6,000 คน ประกอบพระกระยาหาร มีสนมกำนัล 9,000 นาง ซึ่งมีขันที 70,000 คน คอยดูแลให้ มีคำเล่าลือกันว่า พระนางซูสีไทเฮา เวลาเสวยก็จะมีพระกระยาหารถึง 148 ชุด และทรงส่งขันทีไปเสาะหาชายหนุ่มซึ่งเข้าวังแล้วจะไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลยแม้ว่าประเทศจีนจะไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว พระราชวังต้องห้ามก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีน และภาพประตูเทียนอันเหมินก็ยังปรากฏอยู่ในตราประจำสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย นอกจากนี้ พระราชวังต้องห้ามยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งไม่นานมานี้ ทางรัฐบาลจีนได้มีนโยบายจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวเพื่อจะอนุรักษ์สภาพของอาคารและสวนหย่อมไว้พ.ศ ยูเนสโกได้ประกาศให้พระราชวังต้องห้ามร่วมกับพระราชวังเสิ่นหยางเป็นหนึ่งในมรดกโลกในนาม เมื่อ พระราชวังหลวงแห่งราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงในปักกิ่งและเสิ่นหยาง.2530 (ค.ศ 1987年)。พระราชวังต้องห้ามเป็นที่รู้จักในหลากหลายชื่อ ในภาษาจีนนั้น ชาวจีนจะเรียกพระราชวังต้องห้ามว่า กู้กง ซึ่งแปลว่า พระราชวังเก่า นอกจากนี้ คำนี้ยังใช้เรียกพระราชวังเก่าตามเมืองต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไปในประเทศจีนด้วยส่วนคำที่เรารู้จักกันดีว่า 'พระราชวังต้องห้าม' นั้น แปลมาจากภาษาจีน จื่อจิ้น เฉิง ซึ่งแปลตามตัวอักษรได้ว่า 'เมืองต้องห้ามสีเลือดหมู' ด้วยเหตุที่ว่า ห้ามสามัญชนเข้าไปในบริเวณวังหลวงโดยเด็ดขาด และสีเลือดหมูนั้นเป็นสีอาคารและหลังคาโดยทั่วไป
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (จีน) 2:[สำเนา]
คัดลอก!

พระราชวังต้องห้าม
จักรพรรดิพระองค์แรกของราชวงศ์หมิง จักรพรรดิหย่งเล่อได้ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 1949年 พ.ศ. 2187 จากชื่อภาษาจีนแปลตามตัวอักษรได้ว่า“เมืองต้องห้ามสีม่วง” เมืองหลวงของประเทศจีน พิพิธภัณฑ์พระราชวังครอบคลุมพื้นที่720000ตารางเมตรอาคาร800หลังมีห้องทั้งหมด9,999ห้องและมีพระที่นั่ง75องค์ใช้ระยะก่อสร้างประมาณ14ปีตั้งแต่พ.ศ. 1949年จนถึงพ.ศ. ผ่านประตูเทียนอันเหมินบริเวณรอบจตุรัสเทียนอันเหมินเรียกว่าอาณาเขตหลวงโดยมีสิ่งก่อสร้างสำคัญอยู่โดยรอบเช่นมหาศาลาประชาคมหอพระสมุดห้องหับต่างๆอีกมากรวมทั้งยังมีสวนลานกว้างทางเดินเชื่อมกัน โดยตลอด โดยมีสนมกำนัลขันทีและข้าหลวงรับใช้ เพื่อความสำราญของจักรพรรดิในวังจะมีวิเสท6000คนประกอบพระกระยาหารมีสนมกำนัล9000นางซึ่งมีขันที70000คนคอยดูแลให้มีคำเล่าลือกันว่าพระนางซูสีไทเฮาเวลาเสวยก็จะมีพระกระยาหารถึง148ชุด นอกจากนี้ ซึ่งไม่นานมานี้ เมื่อพ.ศ. 2530(ค.ศ. ในภาษาจีนนั้นชาวจีนจะเรียกพระราชวังต้องห้ามว่ากู้กงซึ่งแปลว่าพระราชวังเก่านอกจากนี้ “พระราชวังต้องห้าม”นั้นแปลมาจากภาษาจีนจื่อจิ้นเฉิงซึ่งแปลตามตัวอักษรได้ว่า“เมืองต้องห้ามสีเลือดหมู”ด้วยเหตุที่ว่า













การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (จีน) 3:[สำเนา]
คัดลอก!

พระราชวังต้องห้ามกู้กง
สถานที่ตั้งของพระราชวังโบราณแห่งนี้แต่เดิมนั้นก็คือพระราชวังหลวงของราชวงศ์หยวนแห่งมองโกลซึ่งต่อมาเมื่อราชวงศ์หยวนล่มสลายลงแล้วมีราชวงศ์หมิงขึ้นมาแทนจักรพรรดิพระองค์แรกของราชวงศ์หมิงซึ่งต่อมาเมื่อพระราชโอรสของพระองค์จักรพรรดิหย่งเล่อได้ขึ้นครองราชย์พระองค์ก็ได้ย้ายเมืองหลวงกลับปักกิ่งดั่งเดิมและทรงสั่งให้ก่อสร้างพระราชวังใหม่ขึ้นในปีพ。ศ。1949ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นพระราชวังต้องห้ามแห่งนี้

ต่อมาในปีพศ。2187ได้เกิดจลาจลขึ้นทำให้พระราชวังสมัยราชวงศหมิงเสียหายไปและเมื่อราชวงศ์ชิงขึ้นครองอำนาจต่อจากราชวงศ์หมิงทางราชวงศ์ชิงก็ได้ก่อสร้างสร้างขึ้นมาใหม่บนฐานสิ่งก่อสร้างเดิมและการเปลี่ยนมาเป็นระบอบสาธารณรัฐ

พระราชวังต้องห้ามจากชื่อภาษาจีนแปลตามตัวอักษรได้ว่า”เมืองต้องห้ามสีม่วง”พระราชวังต้องห้ามตั้งอยู่ใจกลางของกรุงปักกิ่งเมืองหลวงของประเทศจีนพระราชวังต้องห้ามยังรู้จักกันในนามพิพิธภัณฑ์พระราชวังครอบคลุมพื้นที่720,000ตารางเมตรอาคาร800หลังมีห้องทั้งหมด9999ห้องและมีพระที่นั่ง75องค์ใช้ระยะก่อสร้างประมาณ14ปีตั้งแต่พศ。1949จนถึงพศ。1963 1963พระราชวังต้องห้ามตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจัตุรัสเทียนอันเหมินนักท่องเที่ยวสามารถเข้าสู่พระราชวังต้องห้ามได้ทางจตุรัสนี้ผ่านประตูเทียนอันเหมินบริเวณรอบจตุรัสเทียนอันเหมินเรียกว่าอาณาเขตหลวงเช่นมหาศาลาประชาคมหอพระสมุดห้องหับต่างๆอีกมากรวมทั้งยังมีสวนลานกว้างทางเดินเชื่อมกันโดยตลอดในอดีตภายในเป็นที่ประทับของจักรพรรดิโดยมีสนมกำนัลขันทีและข้าหลวงรับใช้
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: