มารยาทไทยในสมัยใหม่แตกต่างจากยุคก่อนๆ เนื่องจากมีหลายสิ่งอย่างเปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ประเพณี หรือค่านิยมใหม่ๆ เช่นในอดีตคนไทยเมื่อพบหน้ากัน ก็จะทักทายกันโดยการยกมือไว้ เพื่อทำความเคารพ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน น้อง หรือผู้ใหญ่ แต่ในปัจจุบัน ผู้คนไม่เห็นคุณค่าของการไห้วเท่าใดนัก เพราะค่านิยมสมัยใหม่ที่ได้รับมาจากต่างประเทศนั้น ทำให้เด็กสมัยใหม่เลียนแบบทำตามอาจจะพูดคุยทักทายกันธรรมดา หรือสัมผัสร่างกาย เช่น จับมือ ตบไหล่ เรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหาร ที่ผู้คนมักจะพูดคุยเมือพบปะสังสรรค์กันขณะรับประทานอาหาร ทำให้ลืมว่ามารยาทที่แท้จริงบนโต๊ะอาหารคือรับประทานอย่างระมัดระวัง ไม่ควรพูดหรือทำอย่างอื่นขณะรับประทานอาหาร โดยคิดว่าการพูดคุยบนโต๊ะอาหารเป็นเรื่องปกติไปแล้ว และเรื่องที่เป็นปัญหามากในปัจจุบันคือมารยาทของเด็กไทย เพราะจากการอบรมสั่งสอนของผู้ปกครองที่ไม่ค่อยมีเวลาใหู้ลก จึงทำให้ความใกล้ชิดสนิทสนมกับเด็กลดน้อยลง เมื่อเด็กมีปัญหาก็ไม่สามารถให้คำปรึกษาหรือหาทางออกให้ดีได้ เพราะเด็กไม่สนิทพอจะกล้าเปิดใจที่จะปรึกษา จึงไปปรึกษาเพื่อนแทน โดยเมื่อคุยกับเพื่อนมักจะคุยอย่างเป็นกันเอง แสดงความกล้า แสดงความคิดที่คิดว่าตนแน่ พูดคำหยาบกันเป็นเรื่องปกติ ทำให้การแสดงออกทางท่าทาง หรือคำพูดอาจดูโผงผาง ไม่มีมารยาทเท่าใดนัก เมื่อเด็กไปพูดกับครูทำให้ดูเหมือนไม่เคารพครู ครูก็ไม่สามารถลงโทษเด็กที่ไม่เชื่อฟังได้เท่าใดนัก เพราะผู้ปกครองที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกนั้นมักจะเข้าข้างลูกของตนเอง ทำให้มารยาทของเด็กในปัจจุบันแตกต่างจากเด็กในสมัยก่อนอย่างมาที่ผู้ปกครองสมัยนั้นเคารพครู ให้อำนาจกับครู ไม่เข้าข้างลูกของตนจนเกินเหตุ ทำให้เด็กไม่สามารถก้าวร้าวได้อย่างในปัจจุบัน จากเรื่องที่ยกตัวอย่างจะเห็นว่าเมื่อเวลาผ่านไปมารยาทของคนไทยจะลดน้อยลงไปทุกทีๆ อาจเนื่องจากสภาพแวดล้อม ค่านิยมที่ได้รับมาจากยุคสมัยนั้นๆ