This study examined the hypothesis

This study examined the hypothesis that the increasing incidence of mammary carcinoma in the USA in the twentieth century may be related to the consumption of carrageenan and possibly other water-soluble polymers. Widely used as food additives in the Western diet, the water-soluble polymers, also known as gums, are generally regarded as inert. However, the gum carrageenan which is comprised of linked, sulfated galactose residues has potent biological activity and undergoes acid hydrolysis to poligeenan, an acknowledged carcinogen. A time-trend analysis using age-adjusted incidence data and consumption data from established sources tested the hypothesis that increased consumption of the gums may be associated with increased incidence of mammary carcinoma. Correlations were determined using Pearson and Spearman correlation coefficients, incorporating lag intervals of 10 to 35 years. This analysis demonstrated that increasing consumption of several gums correlates positively with increased incidence of breast carcinoma

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้ตรวจสอบสมมติฐานว่า อุบัติการณ์เพิ่มขึ้นของ carcinoma ทางหน้าอกในสหรัฐอเมริกาในศตวรรษที่ยี่สิบอาจเกี่ยวข้องกับปริมาณของ carrageenan อื่น ๆ อาจรวมถึงโพลิเมอร์ที่ละลายใน ใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหารในอาหารตะวันตก โพลิเมอร์ที่ละลายใน หรือที่เรียกว่าเหงือก โดยทั่วไปถือเป็น inert อย่างไรก็ตาม carrageenan เหงือกซึ่งประกอบด้วยการเชื่อมโยง sulfated กาแล็กโทสตกมีกิจกรรมชีวภาพมีศักยภาพ และผ่านไฮโตรไลซ์กรดเพื่อ poligeenan สารก่อมะเร็งรับการยอมรับ การวิเคราะห์แนวโน้มเวลาที่ใช้ปรับปรุงอายุเกิดสร้างข้อมูลและการใช้ข้อมูลจากแหล่งทดสอบสมมติฐานที่เพิ่มปริมาณของเหงือกอาจสัมพันธ์กับอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นของ carcinoma ทางหน้าอก ความสัมพันธ์ถูกกำหนดใช้ Pearson และ Spearman ความสัมพันธ์สัมประสิทธิ์ เพจช่วงช่วงห่าง 10-35 ปี วิเคราะห์นี้แสดงว่า ปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นหลายเหงือกคู่บวกกับอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นของ carcinoma เต้านม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้การตรวจสอบสมมติฐานที่ว่าอุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งเต้านมในประเทศสหรัฐอเมริกาในศตวรรษที่ยี่สิบอาจจะเกี่ยวข้องกับการบริโภคของคาราจีแนนและอาจโพลิเมอร์ที่ละลายน้ำอื่น ๆ ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นวัตถุเจือปนอาหารในอาหารตะวันตกโพลิเมอร์ที่ละลายน้ำยังเป็นที่รู้จักเหงือกได้รับการยกย่องโดยทั่วไปเป็นเฉื่อย อย่างไรก็ตามคาราจีแนนเหงือกซึ่งประกอบด้วยการเชื่อมโยงตกค้างกาแลคซัลเฟตมีฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีศักยภาพและผ่านการย่อยสลายกรด poligeenan, สารก่อมะเร็งที่ได้รับการยอมรับ การวิเคราะห์ใช้เวลาแนวโน้มโดยใช้ข้อมูลอุบัติการณ์ปรับอายุและข้อมูลการใช้ที่ยอมรับจากแหล่งที่มาการทดสอบสมมติฐานที่ว่าบริโภคที่เพิ่มขึ้นของเหงือกอาจจะเกี่ยวข้องกับอุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งเต้านม ความสัมพันธ์ได้รับการพิจารณาโดยใช้เพียร์สันและสเปียร์แมนค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์มาตรการช่วงเวลาความล่าช้า 10 ถึง 35 ปี การวิเคราะห์นี้แสดงให้เห็นว่าการบริโภคที่เพิ่มขึ้นของเหงือกหลายมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับอุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งเต้านม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การตรวจสอบสมมติฐานที่ว่า อุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งเต้านมในสหรัฐอเมริกาในศตวรรษที่ยี่สิบที่อาจเกี่ยวข้องกับการใช้คาราจีแนน และอาจจะอื่น ๆละลายพอลิเมอร์ ใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหารในอาหารตะวันตก พอลิเมอร์ละลายน้ำที่รู้จักกันเป็นเหงือก โดยทั่วไปจะถือว่าเป็นก๊าซเฉื่อย อย่างไรก็ตามหมากฝรั่งแนนซึ่งประกอบด้วยการเชื่อมโยง ซัลเฟต มีฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีศักยภาพและกาแลกโตสและผ่านการยอมรับ poligeenan กรด เป็นสารก่อมะเร็งเวลาวิเคราะห์อายุการใช้แนวโน้มปรับข้อมูลและการจัดตั้งแหล่งทดสอบจากสมมติฐานที่ว่า เพิ่มการบริโภคของเหงือกอาจจะเกี่ยวข้องกับการเพิ่มอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเต้านม . วิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ Spearman Correlation Coefficient และกลายเป็นความล่าช้าช่วงเวลา 10 ปีขึ้นไปการวิเคราะห์นี้แสดงให้เห็นว่า การบริโภคที่เพิ่มขึ้นของหลาย ๆ มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับเหงือกเพิ่มอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเต้านม