Endogenous antioxidants contained i

Endogenous antioxidants contained in vegetable oil provide a
natural resistance to oxidative deterioration. The antioxidant activity
of the phenolic extract of virgin olive oil was found to be very low
after the sixth frying process [28]. Cooking oil is more susceptible
to oxidation following repeated heating due to the increased
concentrations of polar compounds, and oxidized triacylglycerol
monomers, dimers and polymers [28]. Similarly, total loss of
antioxidant activity due to deep-fat frying after the 12th frying
processes has been reported [28]. Vitamin E consists of tocopherols
and tocotrienols isomers, which are the major antioxidants of
vegetable oils [29]. Adam et al. [30] reported that reheating palm and
soybean oils significantly reduced the content of the various vitamin E
fractions. The stability of the vitamin E isomers varies during heating
because it depends on the type of oil and the content of vitamin E
in those edible oils. Palm oil is rich in tocopherols and tocotrienols.
Tocotrienol has been exhibited to have more potent antioxidant
activity [31,32] than tocopherol, which is found in soybean oils. In
addition, soybean oil is high in PUFA content compared to palm oil,
which has approximately 1:1 ratio of saturated and unsaturated fatty
acids with lower PUFA levels. Hence, soybean oil is more prone to
oxidation than palm oil following repeated heating [33].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สารต้านอนุมูลอิสระ endogenous ที่มีอยู่ในน้ำมันพืชให้เป็นความต้านทานตามธรรมชาติการเสื่อมสภาพ oxidative กิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดฟีนอของน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พบจะต่ำมากหลังจากหกทอดกระบวนการ [28] น้ำมันพืชจะอ่อนแอมากการเกิดออกซิเดชัน ต่อซ้ำความร้อนเนื่องจากการเพิ่มขึ้นความเข้มข้นของสารโพลาร์ triacylglycerol ตกแต่งmonomers, dimers และโพลิเมอร์ [28] ในทำนองเดียวกัน รวมสูญหายกิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระจากไขมันลึกทอดหลังจากทอด 12กระบวนได้รับรายงาน [28] วิตามินอีประกอบด้วย tocopherolsและ tocotrienols isomers ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระหลักของน้ำมันพืช [29] อาดัม et al. [30] รายงานว่า ปาล์ม reheating และน้ำมันถั่วเหลืองของวิตามินต่าง ๆ ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเศษส่วน ความมั่นคงของ isomers วิตามินแตกต่างกันไประหว่างความร้อนเนื่องจากขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันและเนื้อหาของวิตามินอีในน้ำมันเหล่านั้นกิน น้ำมันปาล์ม tocopherols และ tocotrienols ได้มีการจัดแสดง Tocotrienol มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพมากขึ้นกิจกรรม [31,32] กว่า tocopherol ซึ่งพบในน้ำมันถั่วเหลือง ในนอกจากนี้ น้ำมันถั่วเหลืองจะสูงเมื่อเทียบกับน้ำมันปาล์ม เนื้อหา PUFAซึ่งมีอัตราส่วนประมาณ 1:1 ของไขมันอิ่มตัว และในระดับที่สมกรด PUFA มีระดับต่ำ ดังนั้น น้ำมันถั่วเหลืองมีแนวโน้มที่จะออกซิเดชันกว่าน้ำมันปาล์มต่อร้อนซ้ำ [33]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สารต้านอนุมูลอิสระภายนอกที่มีอยู่ในน้ำมันพืชให้ต้านทานธรรมชาติให้กับการเสื่อมสภาพออกซิเดชัน ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดฟีนอลของน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ถูกพบว่าเป็นที่ต่ำมากหลังจากที่กระบวนการทอดหก[28] น้ำมันปรุงอาหารเป็นอ่อนแอมากขึ้นต่อการเกิดออกซิเดชันต่อไปนี้ความร้อนซ้ำเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของความเข้มข้นของสารที่มีขั้วและออกซิไดซ์triacylglycerol โมโนเมอร์, dimers และโพลิเมอร์ [28] ในทำนองเดียวกันการสูญเสียทั้งหมดของสารต้านอนุมูลอิสระเนื่องจากความลึกไขมันทอดหลังจากที่ทอด 12 กระบวนการได้รับรายงาน [28] วิตามินอีประกอบด้วย tocopherols และ tocotrienols สารอินทรีย์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญของน้ำมันพืช [29] อดัมและอัล [30] รายงานว่าร้อนปาล์มและน้ำมันถั่วเหลืองลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื้อหาของวิตามินอีต่างๆเศษส่วน ความมั่นคงของสารอินทรีย์วิตามินอีจะแตกต่างกันในช่วงร้อนเพราะมันขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันและเนื้อหาของวิตามินอีที่อยู่ในน้ำมันพืชเหล่านั้น ปาล์มน้ำมันที่อุดมไปด้วยวิตามินอีและ tocotrienols. Tocotrienol ได้รับการจัดแสดงจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพมากขึ้นกิจกรรม[31,32] กว่าโทโคฟีรอซึ่งพบได้ในน้ำมันถั่วเหลือง ในนอกจากนี้น้ำมันถั่วเหลืองสูงในเนื้อหา PUFA เมื่อเทียบกับน้ำมันปาล์มซึ่งมีประมาณ1: 1 อัตราส่วนของไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัวกรดที่มีระดับต่ำกว่าPUFA ดังนั้นน้ำมันถั่วเหลืองมากขึ้นมีแนวโน้มที่จะเกิดออกซิเดชันกว่าน้ำมันปาล์มต่อไปนี้ความร้อนซ้ำ [33]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สารต้านอนุมูลอิสระในที่มีอยู่ในน้ำมันพืชให้
ความต้านทานธรรมชาติจะเกิดการเสื่อมสภาพ ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดสาร
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ พบน้อยมาก หลังจากกระบวนการทอด
6 [ 28 ] น้ำมันปรุงอาหารมีความอ่อนไหวมากขึ้น
ออกซิเดชันตามซ้ำความร้อนเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของความเข้มข้นของสารประกอบมีขั้ว

triacylglycerol และออกซิไดซ์โมโนเมอร์ ิและพอลิเมอร์ [ 28 ] ในทำนองเดียวกันการสูญเสียรวมของ
สารต้านอนุมูลอิสระเนื่องจากทอดหลังจาก 12 ทอด
กระบวนการได้รับรายงาน [ 28 ] วิตามินอีประกอบด้วยโทโคเฟอรอล และโทโคไทรอีน
ไอโซเมอร์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญของ
น้ำมันพืช [ 29 ] อดัม et al . [ 30 ] รายงาน reheating และ
ปาล์มน้ำมันถั่วเหลืองสามารถลดเนื้อหาของต่าง ๆวิตามิน E
เศษส่วน เสถียรภาพของวิตามินอีคือแตกต่างกันระหว่างความร้อน
เพราะมันขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันและเนื้อหาของวิตามิน E
ในผู้บริโภคน้ำมัน ปาล์มน้ํามัน คือ โทโคฟีรอลและโทโคไทรอีนอุดม .
โทโคไทรอีนได้แสดงให้มีศักยภาพมากขึ้นสารต้านอนุมูลอิสระ
กิจกรรม [ 31,32 ] กว่ารอลซึ่งพบในถั่วเหลืองน้ำมัน ใน
นอกจากนี้ น้ำมันถั่วเหลืองที่มี PUFA เนื้อหาเมื่อเทียบกับปาล์มน้ํามัน
ซึ่งมีประมาณอัตราส่วนของกรดไขมันอิ่มตัวและกรดไขมันไม่อิ่มตัว
า PUFA . ด้วยเหตุนี้ น้ำมันถั่วเหลืองมีแนวโน้มที่จะ
ออกซิเดชันมากกว่าน้ำมันปาล์มตามซ้ำความร้อน [ 33 ]