ประวัติกีฬามวยสากลมวยเป็นศาสตร์และศิลป์ ที่ว่าเป็นศาสตร์เพราะเป็นวิชาก การแปล - ประวัติกีฬามวยสากลมวยเป็นศาสตร์และศิลป์ ที่ว่าเป็นศาสตร์เพราะเป็นวิชาก ไทย วิธีการพูด

ประวัติกีฬามวยสากลมวยเป็นศาสตร์และศ

ประวัติกีฬามวยสากล

มวยเป็นศาสตร์และศิลป์ ที่ว่าเป็นศาสตร์เพราะเป็นวิชาการที่ทุกท่านอาจจะศึกษาหาความรู้ได้ เช่น วิชาแขนงอื่นๆ และที่ว่าเป็นศิลป์ก็เพราะว่า ศิลปะแขนงนี้ช่างมากไปด้วยกลยุทธ์และลวดลายซึ่งยากที่จะเรียนรู้และปฏิบัติไปอย่างเจนจบ ศิลปะอย่างสูงของนักมวยคนหนี่งยากที่นักมวยอีกคนหนึ่งจะพึงปฏิบัติสืบทอดกันต่อไปได้ ดังที่ทุกท่านตระหนักดีอยู่ว่ามวยเป็นศิลปะของการต่อสู้ป้องกันตัวอย่างหนึ่งตามธรรมชาติสืบทอดกันต่อไป ปัจจุบันมีมวยใหญ่อยู่ 2 ชนิดคือ มวยปล้ำ และมวยชก เพื่อนบ้านชกด้วยหมัดอย่างเดียวกัน อันเป็นที่นิยมกันทั่วโลก เรียกว่ามวยสากล

มวยสากลนั้นมีมานานแล้วตามหลักฐานซึ่ง เซอร์ อาเซอร์ อีแวน ได้ค้นพบเศษรูปสลักของนักมวยโบราณซึ่งแยกออกเป็นชิ้น ๆ ในปี ค.ศ. 1900 ที่เมืองบอชชุส อันเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในเกาะครีต ของประเทศกรีช ทางตะวันออกของทะเลเมติเตอร์เรเนียน จากหลักฐานอันนี้ทำให้ทราบว่ามวยโบราณในสมัยกรีช ก่อนคริสตกาล ซึ่งพอจะแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ

ระยะแรก ในสมัยของ โอมเมอร์ ประมาณ 600 – 300 ก่อนคริสตศักราช สมัยนั้นใช้หนังอ่อน ๆ ยาว 10 – 12 ฟุต พันตั้งแต่ข้อมือถึงข้อศอก จุดประสงค์เพื่อเป็นเครื่องป้องกันมือของผู้ชก กติกาก็มีเพียงเล็กน้อยแต่ยุติธรรม มีความเข้มแข็ง กล้าหาญ ทนทาน และผีมือดี จึงจัดว่าเป็นสิ่งสำคัญ

ระยะที่สอง ระหว่าง 200 – 400 ปีก่อนคริสตศักราช มีการดัดแปลงไปเล็กน้อย คือการพันมือนั้นแน่นและหนักขึ้นกว่าเดิม และเป็นกีฬาที่นิยมกันมากที่สุดในสมัยนี้ ผู้เข้าแข่งนักกีฬาโอลิมปิกจะต้องเข้าค่ายฝึกอยู่อย่างน้อย 9 เดือน เมื่อจวนถึงวันแข่งขันจริง ก็มีการจับคู่คล้ายๆ กับในปัจจุบัน แข่งขันเวลาเที่ยงวันขณะดวงอาทิตย์อยู่ตรงศีรษะพอดี ซึ่งบรรยากาศตอนนั้นกำลังหรือล้มลง หรือยอมแพ้ ไม่มีผู้ตัดสินไม่มีการกำหนดน้ำหนัก ส่วนมากจึงมีแต่นักมวยรุ่นที่หนักที่สุด ซึ่งปัจจุบันนี้เรียกว่า รุ่นเฮฟวี่เวท

ระยะที่สาม ระหว่าง 400 ปีก่อนคริสตศักราช ลงมาจนถึงสมัยโรมันรุ่งเรือง สมัยนี้การชกมวยเป็นการต่อสู้ของพวก GIADIATORS ซึ่งอาจจะตายไปข้างหนึ่ง ต่อมาในราวปื ค. ศ. 394 โรมัน เสื่อมอำนาจลงการชกมวยก็ได้เสื่อมสูญไปด้วย



ตอนโรมันเข้ายึดครองอังกฤษ ได้นำเอามวยไปเผยแพร่ในอังกฤษด้วย นักบุญ เบอร์นาด ได้เขียนเรื่องมวยในประเทศอิตาลีไว้อย่างละเอียด ในปี ค.ศ. 1240 ตอนหนึ่งท่านกล่าวว่า มวยเป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ฝึกคนให้เป็นอัศวิน



มวยสากลของอังกฤษ แบ่งได้เป็น 3 ระยะ คือ

ระยะแรก ในระหว่างปี ค.ศ. 1698 ถึง 1790 อาจเรียกได้ว่าเป็น “สมัยมงกุฎผีสิง” เนต ในปี ค.ศ. 1740 ได้คำเนินการสอนมา และเป็นบุคคลแรกในปี ค.ศ. 1740 ที่ได้คิดกติกามวยสากลขึ้นจนได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งมวยสากลอังกฤษ

ในปีเดียวกัน บรูตัน ก็ได้ประดิษฐ์นวมขึ้นในการชกมวย แต่คงใช้ในการสอนศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของลูกผู้ชายเท่านั้น สำหรับมวยอาชีพยังให้มือเปล่าอยู่ อย่างไรก็ดีมวยสมัยนั้นก็ได้ตกทอดมาถึงมวยสากลในปัจจุบันนี้ ต่อมาในปี 1792 แต่เปีย เมนซ่า ได้ครองตำแหน่งผู้ชนะเลิศและได้พยายามรักษาตำแหน่งไว้จนถึงปี 1795 จึงได้เสียตำแหน่งแก่ จอห์น แจ๊คสัน ได้สละตำแหน่งในเวลาต่อมา และเปิดฝึกมวยขึ้นจนมีชื่อเสียง ด้วยมีลูกขุนนางและสุภาพชนมากหน้าหลายตามาสมัครเรียน มวยจึงกลายเป็นศาสตร์ที่เราต่างศึกษากันจนถึงวันนี้

ต่อมาเนื่องจากมีการให้รางวัลเป็นเงินตราแก่นักมวย เงินตราจึงมีอิทธิพลเหนือการแข่งขันโดยได้มีการติดสินบนแก่ผู้จัดการของนักมวย มวยจึงเป็นเครื่องมือหากินของเจ้าของเงินตราไป สมาคมหลายแห่งต้องล้มเลิกในระยะต่อมา วิกฤติการณ์ แห่งวงการนักมวยได้เกิดขึ้นดังนี้ ทางราชการอังกฤษ จึงไม่ร่วมมือด้วยนักมวยเองก็ละเมิดกติกา จึงมีอันตรายเกิดขึ้นเนือง ๆ ในที่สุดวงการมวยสากลของอังกฤษก็เสื่อมลงไประยะหนึ่ง



เมื่อวิเคราะห์ดู กติกามวยสากลที่ บรูตัน คิดขึ้นแล้วจะเห็นได้ว่ายังไม่รัดกุม เช่น จำนวนยกที่กำหนดไว้ไม่แน่นอน สักแต่ว่าทำการแข่งขันไปจนกระทั่งนักมวยคนใดคนหนึ่งถูกน็อค หรือถูกเหวี่ยงจนล้มและไม่สามารถจะลุกขึ้นมาต่อสู้ได้อีกในเวลา 30 นาที การฟาวล์มีเพียง 2 ข้อเท่านั้น คือ การชกขณะล้ม และกอดหรือหมัดต่ำกว่าเอว กติกาเหล่านั้นภายหลังได้ชื่อว่า เป็นกติกาเกิดขึ้นใหม่ด้วยความร่วมมือของจอห์น ยี. เชมเบอร์ ในปี ค.ศ.1866 จึงได้รับความนิยมจากบุคคลทั่วไปว่าเป็นกติกาสากลอันเป็นรากฐานของกติกาที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ในกติกาได้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ยก โดย 3 ยกแรกยกละ 3 นาที ยกสุดท้าย 4 นาที การตัดสินก็โดยความเห็นชอบจากฝายข้างมากของผู้ตัดสิน ผู้ใดถูกชกล้มสามารถลุกขึ้นมาต่อสู้ได้อีกภายใน 10 วินาที การชกต้องสวมนวมชกตลอดเวลา ผู้ชี้ขาดต้องอยู่ในสังเวียนเพียงคนเดียว กับนักมวยอีกสองคนเท่านั้น กติกานี้วงการมวยสมัครเล่นนำไปใช้ทันที แต่สำหรับมวยอาชีพได้เปลี่ยนแปลงไปบ้าง เพียงเรื่องจำนวนยก คือจะสู้กันกี่ยกก็ได้แล้วแต่เพิ่มระเบียบการตัดสินและการบันทึกให้รัดกุมยิ่งขึ้นเท่านั้น

การใช้นวมเริ่มกันอย่างจริงจังในการชกมวยสากลสมัครเล่น สมัยการใช้กติกา ควีนส์เบอร์ บี ค.ศ. 1860 นี้เอง ก่อนนั้นนิยมการพันมือแทนนวม และค่อยๆ เปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ มาจนถึงสมัยกิจการมวยได้ถูกยกขึ้นเป็นศิลปะ ความจริงการใช้นวมทำให้การชกลดอันตรายลงได้มากและทำให้การชกรวดเร็วน่าดูยิ่งขึ้น ผู้ชกไม่ต้องพะวงถึงอันตรายเกี่ยวกับมือหักหรือเคล็ดอีกต่อไป

ในปี ค.ศ. 1882 จอห์น ซัลลิแวน ชาวอเมริกันได้ชกชนะ แพ็คคคี้ ไรอั้น ชาวอังกฤษ และได้รับยกย่องให้เป็นผู้ชนะเลิศแห่งอเมริกัน ในการชกตามกติกามวยชิงรางวัลแห่งกรุงลอนดอน 9 ยก ที่เมืองมิสซิสชิบบี้

ในปี ค.ศ. 1887 แจ็ค คิลเร่น แห่งอเมริกา เสมอกับ เจมส์สมิธ แห่งอังกฤษ และในการแข่งขันคราวนี้เองได้เป็นที่ยอมรับกันว่า ทั้งคู่ได้เป็นผู้ครองเข็มขัดผู้ชนะเลิศแห่งโลกเป็นครั้งแรก

ต่อมาในวันที่ 8 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1889 จอห์น แอล ซัลลิแวน ได้ชิงตำแหน่งชนะเลิศของโลก จากแจ๊ค คิลเร่น ที่เมืองริชเยอร์ก มลรัฐมิสซิสชิบบี้ ซึ่งเป็นการต่อสู้แบบมือเปล่าครั้งสุดท้ายในอเมริกา เป็นจำนวนถึง 75 ยก ชิลล์แวนผู้เลิศประกาศว่าจะไม่ชกด้วยมือเปล่า อีกต่อไป

ในปี ค.ศ. 1914 มี 5 รัฐ ในอเมริกา คือ นิวยอร์ค แคลิฟอร์เนีย หลุยส์เซียน่า เนวาด้า และฟอริดา ได้ตกลงแบ่งจำนวนออกเป็น 20 ยกเหมือนกัน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติกีฬามวยสากลมวยเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ว่าเป็นศาสตร์เพราะเป็นวิชาการที่ทุกท่านอาจจะศึกษาหาความรู้ได้เช่นวิชาแขนงอื่น ๆ และที่ว่าเป็นศิลป์ก็เพราะว่าศิลปะแขนงนี้ช่างมากไปด้วยกลยุทธ์และลวดลายซึ่งยากที่จะเรียนรู้และปฏิบัติไปอย่างเจนจบศิลปะอย่างสูงของนักมวยคนหนี่งยากที่นักมวยอีกคนหนึ่งจะพึงปฏิบัติสืบทอดกันต่อไปได้ดังที่ทุกท่านตระหนักดีอยู่ว่ามวยเป็นศิลปะของการต่อสู้ป้องกันตัวอย่างหนึ่งตามธรรมชาติสืบทอดกันต่อไปปัจจุบันมีมวยใหญ่อยู่ 2 ชนิดคือมวยปล้ำและมวยชกเพื่อนบ้านชกด้วยหมัดอย่างเดียวกันอันเป็นที่นิยมกันทั่วโลกเรียกว่ามวยสากลมวยสากลนั้นมีมานานแล้วตามหลักฐานซึ่งเซอร์อาเซอร์อีแวนได้ค้นพบเศษรูปสลักของนักมวยโบราณซึ่งแยกออกเป็นชิ้นๆ ในปีค.ศ. 1900 ที่เมืองบอชชุสอันเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในเกาะครีตของประเทศกรีชทางตะวันออกของทะเลเมติเตอร์เรเนียนจากหลักฐานอันนี้ทำให้ทราบว่ามวยโบราณในสมัยกรีชก่อนคริสตกาลซึ่งพอจะแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะระยะแรกในสมัยของโอมเมอร์ประมาณ 600 – 300 ก่อนคริสตศักราชสมัยนั้นใช้หนังอ่อนๆ ยาว 10 – 12 ฟุตพันตั้งแต่ข้อมือถึงข้อศอกจุดประสงค์เพื่อเป็นเครื่องป้องกันมือของผู้ชกกติกาก็มีเพียงเล็กน้อยแต่ยุติธรรมมีความเข้มแข็งกล้าหาญทนทานและผีมือดีจึงจัดว่าเป็นสิ่งสำคัญระยะที่สองระหว่าง 200 – 400 ปีก่อนคริสตศักราชมีการดัดแปลงไปเล็กน้อยคือการพันมือนั้นแน่นและหนักขึ้นกว่าเดิมและเป็นกีฬาที่นิยมกันมากที่สุดในสมัยนี้ผู้เข้าแข่งนักกีฬาโอลิมปิกจะต้องเข้าค่ายฝึกอยู่อย่างน้อย 9 เดือนเมื่อจวนถึงวันแข่งขันจริงก็มีการจับคู่คล้าย ๆ กับในปัจจุบันแข่งขันเวลาเที่ยงวันขณะดวงอาทิตย์อยู่ตรงศีรษะพอดีซึ่งบรรยากาศตอนนั้นกำลังหรือล้มลงหรือยอมแพ้ไม่มีผู้ตัดสินไม่มีการกำหนดน้ำหนักส่วนมากจึงมีแต่นักมวยรุ่นที่หนักที่สุดซึ่งปัจจุบันนี้เรียกว่ารุ่นเฮฟวี่เวทระยะที่สามระหว่าง 400 ปีก่อนคริสตศักราชลงมาจนถึงสมัยโรมันรุ่งเรืองสมัยนี้การชกมวยเป็นการต่อสู้ของพวก GIADIATORS ซึ่งอาจจะตายไปข้างหนึ่งต่อมาในราวปืค. ศ. 394 โรมันเสื่อมอำนาจลงการชกมวยก็ได้เสื่อมสูญไปด้วยตอนโรมันเข้ายึดครองอังกฤษได้นำเอามวยไปเผยแพร่ในอังกฤษด้วยนักบุญเบอร์นาดได้เขียนเรื่องมวยในประเทศอิตาลีไว้อย่างละเอียดในปีค.ศ. 1240 ตอนหนึ่งท่านกล่าวว่ามวยเป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ฝึกคนให้เป็นอัศวินมวยสากลของอังกฤษแบ่งได้เป็น 3 ระยะคือระยะแรกในระหว่างปีค.ศ 1698 ถึงดำรงอาจเรียกได้ว่าเป็น "สมัยมงกุฎผีสิง" เนตในปีค.ศ 1740 ได้คำเนินการสอนมาและเป็นบุคคลแรกในปีค.ศ. 1740 ที่ได้คิดกติกามวยสากลขึ้นจนได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งมวยสากลอังกฤษในปีเดียวกันบรูตันก็ได้ประดิษฐ์นวมขึ้นในการชกมวยแต่คงใช้ในการสอนศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของลูกผู้ชายเท่านั้นสำหรับมวยอาชีพยังให้มือเปล่าอยู่อย่างไรก็ดีมวยสมัยนั้นก็ได้ตกทอดมาถึงมวยสากลในปัจจุบันนี้ต่อมาในปี 1792 แต่เปียเมนซ่าได้ครองตำแหน่งผู้ชนะเลิศและได้พยายามรักษาตำแหน่งไว้จนถึงปี 1795 จึงได้เสียตำแหน่งแก่จอห์นแจ๊คสันได้สละตำแหน่งในเวลาต่อมาและเปิดฝึกมวยขึ้นจนมีชื่อเสียงด้วยมีลูกขุนนางและสุภาพชนมากหน้าหลายตามาสมัครเรียนมวยจึงกลายเป็นศาสตร์ที่เราต่างศึกษากันจนถึงวันนี้ต่อมาเนื่องจากมีการให้รางวัลเป็นเงินตราแก่นักมวยเงินตราจึงมีอิทธิพลเหนือการแข่งขันโดยได้มีการติดสินบนแก่ผู้จัดการของนักมวยมวยจึงเป็นเครื่องมือหากินของเจ้าของเงินตราไปสมาคมหลายแห่งต้องล้มเลิกในระยะต่อมาวิกฤติการณ์แห่งวงการนักมวยได้เกิดขึ้นดังนี้ทางราชการอังกฤษจึงไม่ร่วมมือด้วยนักมวยเองก็ละเมิดกติกาจึงมีอันตรายเกิดขึ้นเนืองๆ ในที่สุดวงการมวยสากลของอังกฤษก็เสื่อมลงไประยะหนึ่งเมื่อวิเคราะห์ดูกติกามวยสากลที่บรูตันคิดขึ้นแล้วจะเห็นได้ว่ายังไม่รัดกุมเช่นจำนวนยกที่กำหนดไว้ไม่แน่นอนสักแต่ว่าทำการแข่งขันไปจนกระทั่งนักมวยคนใดคนหนึ่งถูกน็อคหรือถูกเหวี่ยงจนล้มและไม่สามารถจะลุกขึ้นมาต่อสู้ได้อีกในเวลา 30 นาทีการฟาวล์มีเพียง 2 ข้อเท่านั้นคือการชกขณะล้มและกอดหรือหมัดต่ำกว่าเอวกติกาเหล่านั้นภายหลังได้ชื่อว่าเป็นกติกาเกิดขึ้นใหม่ด้วยความร่วมมือของจอห์นยี เชมเบอร์ในปี ค.ศ.1866 จึงได้รับความนิยมจากบุคคลทั่วไปว่าเป็นกติกาสากลอันเป็นรากฐานของกติกาที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ในกติกาได้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ยกโดย 3 ยกแรกยกละ 3 นาทียกสุดท้าย 4 นาทีการตัดสินก็โดยความเห็นชอบจากฝายข้างมากของผู้ตัดสินผู้ใดถูกชกล้มสามารถลุกขึ้นมาต่อสู้ได้อีกภายใน 10 วินาทีการชกต้องสวมนวมชกตลอดเวลาผู้ชี้ขาดต้องอยู่ในสังเวียนเพียงคนเดียวกับนักมวยอีกสองคนเท่านั้นกติกานี้วงการมวยสมัครเล่นนำไปใช้ทันทีแต่สำหรับมวยอาชีพได้เปลี่ยนแปลงไปบ้างเพียงเรื่องจำนวนยกคือจะสู้กันกี่ยกก็ได้แล้วแต่เพิ่มระเบียบการตัดสินและการบันทึกให้รัดกุมยิ่งขึ้นเท่านั้นการใช้นวมเริ่มกันอย่างจริงจังในการชกมวยสากลสมัครเล่นสมัยการใช้กติกาควีนส์เบอร์บีค.ศ. 1860 นี้เองก่อนนั้นนิยมการพันมือแทนนวมและค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ มาจนถึงสมัยกิจการมวยได้ถูกยกขึ้นเป็นศิลปะความจริงการใช้นวมทำให้การชกลดอันตรายลงได้มากและทำให้การชกรวดเร็วน่าดูยิ่งขึ้นผู้ชกไม่ต้องพะวงถึงอันตรายเกี่ยวกับมือหักหรือเคล็ดอีกต่อไปในปีค.ศ. 1882 จอห์นซัลลิแวนชาวอเมริกันได้ชกชนะแพ็คคคี้ไรอั้นชาวอังกฤษและได้รับยกย่องให้เป็นผู้ชนะเลิศแห่งอเมริกันในการชกตามกติกามวยชิงรางวัลแห่งกรุงลอนดอน 9 ยกที่เมืองมิสซิสชิบบี้ในปีค.ศ. 1887 แจ็คคิลเร่นแห่งอเมริกาเสมอกับเจมส์สมิธแห่งอังกฤษและในการแข่งขันคราวนี้เองได้เป็นที่ยอมรับกันว่าทั้งคู่ได้เป็นผู้ครองเข็มขัดผู้ชนะเลิศแห่งโลกเป็นครั้งแรกต่อมาในวันที่ 8 กรกฎาคมปีค.ศจาก 1889 จอห์นแอลซัลลิแวนได้ชิงตำแหน่งชนะเลิศของโลกจากแจ๊คคิลเร่นที่เมืองริชเยอร์กมลรัฐมิสซิสชิบบี้ซึ่งเป็นการต่อสู้แบบมือเปล่าครั้งสุดท้ายในอเมริกาเป็นจำนวนถึง 75 ยกชิลล์แวนผู้เลิศประกาศว่าจะไม่ชกด้วยมือเปล่าอีกต่อไปในปีค.ศ. 1914 มี 5 รัฐในอเมริกาคือนิวยอร์คแคลิฟอร์เนียหลุยส์เซียน่าเนวาด้าและฟอริดาได้ตกลงแบ่งจำนวนออกเป็น 20 ยกเหมือนกัน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เช่นวิชาแขนงอื่น ๆ และที่ว่าเป็นศิลป์ก็เพราะว่า ปัจจุบันมีมวยใหญ่อยู่ 2 ชนิดคือมวยปล้ำและมวยชกเพื่อนบ้านชกด้วยหมัดอย่างเดียวกันอันเป็นที่นิยมกันทั่วโลก เซอร์อาเซอร์อีแวน ๆ ในปี ค.ศ. 1900 ที่เมืองบอชชุส ของประเทศกรีช ก่อนคริสตกาลซึ่งพอจะแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะระยะแรกในสมัยของโอมเมอร์ประมาณ 600-300 ก่อนคริสตศักราชสมัยนั้นใช้หนังอ่อน ๆ ยาว 10 - 12 ฟุตพันตั้งแต่ข้อมือถึงข้อศอก กติกาก็มีเพียงเล็กน้อย แต่ยุติธรรมมีความเข้มแข็งกล้าหาญทนทานและผีมือดีจึงจัดว่าเป็นสิ่งสำคัญระยะที่สองระหว่าง 200-400 ปีก่อนคริสตศักราชมีการดัดแปลงไปเล็กน้อย 9 เดือนเมื่อจวนถึงวันแข่งขันจริงก็มีการจับคู่คล้าย ๆ กับในปัจจุบัน ซึ่งบรรยากาศตอนนั้นกำลังหรือล้มลงหรือยอมแพ้ ซึ่งปัจจุบันนี้เรียกว่ารุ่นเฮฟวี่เวทระยะที่สามระหว่าง 400 ปีก่อนคริสตศักราชลงมาจนถึงสมัยโรมันรุ่งเรือง GIADIATORS ซึ่งอาจจะตายไปข้างหนึ่งต่อมาในราวปืค ศ 394 โรมัน ได้นำเอามวยไปเผยแพร่ในอังกฤษด้วยนักบุญเบอร์นาด ในปี ค.ศ. 1240 ตอนหนึ่งท่านกล่าวว่า แบ่งได้เป็น 3 ระยะคือระยะแรกในระหว่างปี ค.ศ. 1698 ถึง 1790 อาจเรียกได้ว่าเป็น "สมัยมงกุฎผีสิง" เนตในปี ค.ศ. 1740 ได้คำเนินการสอนมาและเป็นบุคคลแรกในปี ค.ศ. 1740 บรูตันก็ได้ประดิษฐ์นวมขึ้นในการชกมวย สำหรับมวยอาชีพยังให้มือเปล่าอยู่ ต่อมาในปี 1792 แต่เปียเมนซ่า 1795 จึงได้เสียตำแหน่งแก่จอห์นแจ๊คสันได้สละตำแหน่งในเวลาต่อมาและเปิดฝึกมวยขึ้นจนมีชื่อเสียง วิกฤติการณ์แห่งวงการนักมวยได้เกิดขึ้นดังนี้ทางราชการอังกฤษ จึงมีอันตรายเกิดขึ้นเนือง ๆ กติกามวยสากลที่บรูตัน เช่นจำนวนยกที่กำหนดไว้ไม่แน่นอน 30 นาทีการฟาวล์มีเพียง 2 ข้อเท่านั้นคือการชกขณะล้มและกอดหรือหมัดต่ำกว่าเอวกติกาเหล่านั้นภายหลังได้ชื่อว่า ยี เชมเบอร์ในปี ค.ศ. 1866 ในกติกาได้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ยกโดย 3 ยกแรกยกละ 3 นาทียกสุดท้าย 4 นาที 10 วินาทีการชกต้องสวมนวมชกตลอดเวลา กับนักมวยอีกสองคนเท่านั้น เพียงเรื่องจำนวนยก สมัยการใช้กติกาควีนส์เบอร์บี ค.ศ. 1860 นี้เองก่อนนั้นนิยมการพันมือแทนนวมและค่อยๆเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ ค.ศ. 1882 จอห์นซัลลิแวนชาวอเมริกันได้ชกชนะแพ็คคคี้ไรอั้นชาวอังกฤษ 9 ยกที่เมืองมิสซิสชิบบี้ในปี ค.ศ. 1887 แจ็คคิลเร่นแห่งอเมริกาเสมอกับเจมส์สมิ ธ แห่งอังกฤษ 8 กรกฎาคมปี ค.ศ. ปี 1889 จอห์นแอลซัลลิแวนได้ชิงตำแหน่งชนะเลิศของโลกจากแจ๊คคิลเร่นที่เมืองริชเยอร์กมลรัฐมิสซิสชิบบี้ เป็นจำนวนถึง 75 ยก อีกต่อไปในปี ค.ศ. 1914 มี 5 รัฐในอเมริกาคือนิวยอร์คแคลิฟอร์เนียหลุยส์เซียน่าเนวาด้าและฟอริดาได้ตกลงแบ่งจำนวนออกเป็น 20 ยกเหมือนกัน





































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติกีฬามวยสากล

มวยเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ว่าเป็นศาสตร์เพราะเป็นวิชาการที่ทุกท่านอาจจะศึกษาหาความรู้ได้เช่นวิชาแขนงอื่นๆและที่ว่าเป็นศิลป์ก็เพราะว่าศิลปะอย่างสูงของนักมวยคนหนี่งยากที่นักมวยอีกคนหนึ่งจะพึงปฏิบัติสืบทอดกันต่อไปได้ดังที่ทุกท่านตระหนักดีอยู่ว่ามวยเป็นศิลปะของการต่อสู้ป้องกันตัวอย่างหนึ่งตามธรรมชาติสืบทอดกันต่อไป2 ชนิดคือมวยปล้ำและมวยชกเพื่อนบ้านชกด้วยหมัดอย่างเดียวกันอันเป็นที่นิยมกันทั่วโลกเรียกว่ามวยสากล

มวยสากลนั้นมีมานานแล้วตามหลักฐานซึ่งเซอร์อาเซอร์อีแวนได้ค้นพบเศษรูปสลักของนักมวยโบราณซึ่งแยกออกเป็นชิ้นจะสามารถค . ศ .1900 ที่เมืองบอชชุสอันเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในเกาะครีตของประเทศกรีชทางตะวันออกของทะเลเมติเตอร์เรเนียนจากหลักฐานอันนี้ทำให้ทราบว่ามวยโบราณในสมัยกรีชก่อนคริสตกาลซึ่งพอจะแบ่งออกได้เป็นระยะ

3ระยะแรกในสมัยของโอมเมอร์ประมาณ 600 – 300 ก่อนคริสตศักราชสมัยนั้นใช้หนังอ่อนจะยาว 10 – 12 ฟุตพันตั้งแต่ข้อมือถึงข้อศอกจุดประสงค์เพื่อเป็นเครื่องป้องกันมือของผู้ชกกติกาก็มีเพียงเล็กน้อยแต่ยุติธรรมกล้าหาญทนทานและผีมือดีจึงจัดว่าเป็นสิ่งสำคัญ

ระยะที่สองระหว่าง 200 – 400 ปีก่อนคริสตศักราชมีการดัดแปลงไปเล็กน้อยคือการพันมือนั้นแน่นและหนักขึ้นกว่าเดิมและเป็นกีฬาที่นิยมกันมากที่สุดในสมัยนี้ผู้เข้าแข่งนักกีฬาโอลิมปิกจะต้องเข้าค่ายฝึกอยู่อย่างน้อยเดือนเมื่อจวนถึงวันแข่งขันจริงก็มีการจับคู่คล้ายๆกับในปัจจุบันแข่งขันเวลาเที่ยงวันขณะดวงอาทิตย์อยู่ตรงศีรษะพอดีซึ่งบรรยากาศตอนนั้นกำลังหรือล้มลงหรือยอมแพ้ไม่มีผู้ตัดสินไม่มีการกำหนดน้ำหนักซึ่งปัจจุบันนี้เรียกว่ารุ่นเฮฟวี่เวท

ระยะที่สามระหว่าง 400 ปีก่อนคริสตศักราชลงมาจนถึงสมัยโรมันรุ่งเรืองสมัยนี้การชกมวยเป็นการต่อสู้ของพวก giadiators ซึ่งอาจจะตายไปข้างหนึ่งต่อมาในราวปืค . ศ . 394 โรมันเสื่อมอำนาจลงการชกมวยก็ได้เสื่อมสูญไปด้วย



ตอนโรมันเข้ายึดครองอังกฤษได้นำเอามวยไปเผยแพร่ในอังกฤษด้วยนักบุญเบอร์นาดได้เขียนเรื่องมวยในประเทศอิตาลีไว้อย่างละเอียดสามารถค . ศ . 1240 ตอนหนึ่งท่านกล่าวว่ามวยเป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ฝึกคนให้เป็นอัศวิน



มวยสากลของอังกฤษแบ่งได้เป็น 3 ระยะความ

ระยะแรกในระหว่างปีค . ศ . 1540 ถึง 1790 อาจเรียกได้ว่าเป็น " สมัยมงกุฎผีสิง " เนตสามารถค . ศ . 1740 ได้คำเนินการสอนมาและเป็นบุคคลแรกในปีค . ศ .1740 ที่ได้คิดกติกามวยสากลขึ้นจนได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งมวยสากลอังกฤษ

การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: