ประวัติเมืองหนองหารหลวงประวัติเมือง

ประวัติเมืองหนองหารหลวง
ประวัติเมืองหนองหารหลวงไม่มีหลักฐาน ปรากฏไว้เป็นลายลักษณ์อักษร นอกจากผู้เฒ่าผู้แก่ ของเมืองได้จดจำถ้อยคำของพระบรรเทา กรมการเมืองขุขันธ์คนเก่ากับเพี้ยศรีคอนชุม ซึ่งเป็นหัวหน้าข้าพระธาตุเชิงชุมว่า หลังจาก พระยาสุวรรณภิงคาระ สิ้นพระชนม์ลง เหล่าเสนา ข้าราชการผู้ใหญ่ชาวเขมร ก็ได้ผลัดเปลี่ยน กันเข้ามาปกครอง เป็นเจ้าเมือง หนองหารหลวง ต่อกันมาเรื่อยๆหลายยุคหลายสมัย

ต่อมาได้เกิดทุกขภัยฝนแล้งมา 7 ปี ราษฎรไม่ได้ทำนา เกิดความอดอยากข้าปลาอาหารไม่มีจะกิน เจ้าเมืองอพยพ ราษฎรอยู่ที่เมืองหนองหาร หลวงไปอยู่ที่เมืองเขมรกันหมด ทิ้งให้เมืองหนองหารหลวงกลายเป็นเมืองร้าง

ต่อมาในรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จนมีผู้คนมากขึ้นแล้วจึงโปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านธาตุเชิงชุมเป็นเมืองสกลทวาปี โดยตั้งให้ อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์เป็นพระธานี เจ้าเมืองสกลทวาปีคนแรก

ในสมัยต่อๆมาได้มีราชวงศ์คำแห่งเมืองมหาชัยกองแก้ว ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ได้อพยพข้ามแม่น้ำ โขงเข้ามาขอพึ่ง พระบรมโพธิสมภาร ขอสร้างบ้าน แปงเมืองขึ้นใหม่ที่เมืองสกลทวาปี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ ราชวงศ์คำเป็น พระยาประเทศธานี(คำ) ในตำแหน่งเจ้าเมืองสกลทวาปี และทรงเปลี่ยน นามเมืองใหม่เป็น สกลนคร ตั้งแต่บัดนั้นมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปรากฏไว้เป็นลายลักษณ์อักษรนอกจากผู้เฒ่าผู้แก่ของเมืองได้จดจำถ้อยคำของพระบรรเทา หลังจากพระยาสุวรรณภิงคาระสิ้นพระชนม์ลงเหล่าเสนาข้าราชการผู้ใหญ่ชาวเขมรก็ได้ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาปกครองเป็นเจ้าเมืองหนองหารหลวง 7 ปีราษฎรไม่ได้ทำนา เจ้าเมืองอพยพราษฎรอยู่ที่เมืองหนองหารหลวงไปอยู่ที่เมืองเขมรกันหมด 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกจนมีผู้คนมากขึ้นแล้วจึงโปรดเกล้าฯ โดยตั้งให้อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์เป็นพระธานี ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงได้อพยพข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารขอสร้างบ้านแปงเมืองขึ้นใหม่ที่เมืองสกลทวาปี 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ราชวงศ์คำเป็นพระยาประเทศธานี (คำ) ในตำแหน่งเจ้าเมืองสกลทวาปีและทรงเปลี่ยนนามเมืองใหม่เป็นสกลนครตั้งแต่บัดนั้นมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติเมืองหนองหารหลวง
ประวัติเมืองหนองหารหลวงไม่มีหลักฐานปรากฏไว้เป็นลายลักษณ์อักษรนอกจากผู้เฒ่าผู้แก่ของเมืองได้จดจำถ้อยคำของพระบรรเทากรมการเมืองขุขันธ์คนเก่ากับเพี้ยศรีคอนชุมซึ่งเป็นหัวหน้าข้าพระธาตุเชิงชุมว่าหลังจากสิ้นพระชนม์ลงเหล่าเสนาข้าราชการผู้ใหญ่ชาวเขมรก็ได้ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาปกครองเป็นเจ้าเมืองหนองหารหลวงต่อกันมาเรื่อยๆหลายยุคหลายสมัย

ต่อมาได้เกิดทุกขภัยฝนแล้งมา 7 . ราษฎรไม่ได้ทำนาเกิดความอดอยากข้าปลาอาหารไม่มีจะกินเจ้าเมืองอพยพราษฎรอยู่ที่เมืองหนองหารหลวงไปอยู่ที่เมืองเขมรกันหมดทิ้งให้เมืองหนองหารหลวงกลายเป็นเมืองร้าง

ต่อมาในรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกจนมีผู้คนมากขึ้นแล้วจึงโปรดเกล้าฯให้ยกบ้านธาตุเชิงชุมเป็นเมืองสกลทวาปีโดยตั้งให้อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์เป็นพระธานี