Bamboo is an excellent lightweight

Bamboo is an excellent lightweight and strong construction material for buildings and furniture. It
is also widely used for baskets, kitchen utensils, matting and other household artefacts.
Sustainable bamboo plantation management can generate substantial employment requiring only
simple tools, machines and artisan-level work.
However, the harvesting of bamboo is often done unplanned, allowing insufficient re-growth and
causing deterioration of the local ecosystem. This results in total disappearance of the bamboo
and eventually causing soil erosion and finally desertification. The loss of bamboo forests and
plantations has a negative effect on the local ecosystems and climate.
An underlying problem is that bamboo forests are often on public land and villagers use total
cutting and scavenging techniques in exploiting these fields. The stems (culms) are harvested
immature, bundled and sold for construction material without any curing or preservation.
Too early and improperly harvested, non-cured and non-preserved thin bamboo has a short
lifespan (less than five years) and should NOT be used for structural purposes. Culms with a
diameter 7 cm Ø) bamboo. In such a case, it is possible to use the thin
bamboo culms for various construction elements, including lightweight roof trusses and woven wall
panels. This paper presents some criteria and options for these light trusses.
The disadvantage of such constructions is that it is labour intensive and the exposed surface
becomes very large. Because the thinner bamboo is more vulnerable to termites, insects and
fungus, good preservation after curing is essential and good annual control, as well as periodic
cleaning of the construction in the roof, is required.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไม้ไผ่เป็นวัสดุก่อสร้างน้ำหนักเบา และแข็งแรงที่ยอดเยี่ยมสำหรับอาคารและเฟอร์นิเจอร์ มันคือยังใช้แพร่หลาย เครื่องครัว ปู และสิ่งประดิษฐ์อื่น ๆ ครัวเรือนการจัดการแปลงปลูกไผ่สามารถสร้างการจ้างงานพบต้องเท่าเครื่องมือง่าย ๆ เครื่องจักร และการทำงานระดับช่างฝีมืออย่างไรก็ตาม การเก็บเกี่ยวของไม้ไผ่คือมักจะทำไม่ได้วางแผน ทำให้พอ re-เจริญเติบโต และสาเหตุการเสื่อมสภาพของระบบนิเวศในท้องถิ่น ผลลัพธ์ที่ได้หายตัวไปทั้งหมดของไม้ไผ่และในที่สุดก่อให้เกิดการพังทลายของดิน และในที่สุด desertification การสูญเสียของป่าไผ่ และไร่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศในท้องถิ่นและสภาพภูมิอากาศมีปัญหาพื้นฐานคือ ป่าไผ่มักอยู่บนที่ดินสาธารณะ และชาวบ้านใช้ยอดรวมตัด และ scavenging เทคนิคใน exploiting ฟิลด์เหล่านี้ มีการเก็บเกี่ยวลำต้น (culms)อ่อน แถม และขายวัสดุก่อสร้างโดยไม่มีการรักษาหรืออนุรักษ์ไม้ไผ่บางเกินไปต้น และไม่หวง ไม่หาย และไม่ได้รักษามีการลัดวงจรอายุการใช้งาน (น้อยกว่า 5 ปี) และไม่ควรใช้เพื่อวัตถุประสงค์โครงสร้าง Culms ด้วยการเส้นผ่าศูนย์กลาง < 40 มม.ไม่ควรใช้สำหรับก่อสร้างถาวรหรือองค์ประกอบคานการจัดการป่าไม้ที่ดีขึ้น การผลิตไผ่สามารถทำได้และอุปทานคงที่ของผลิตภัณฑ์ไม้ไผ่ที่สร้างขึ้น นี้สามารถใส่ได้ทั้งในอาคารและช่างฝีมือตลาด และสร้างจ้างงานถาวร นำไม้ไผ่สายพันธุ์ใหม่เหมาะสำหรับการสภาพภูมิอากาศท้องถิ่นของภูมิภาคมากสามารถเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ สวนไม้ไผ่สามารถใช้เป็นการรักษาขั้นสุดท้ายสำหรับการติดตั้งกรองน้ำเมื่อเป็นระยะ ๆ และน้ำท่วมปานกลาง การจัดการที่ดีร่วมกับพื้นที่กรองดังกล่าวสามารถอย่างมากเพิ่มการผลิตไผ่ประจำปีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลและสภาพอื่น ๆ ไม้ไผ่ก้านบาง ๆ อาจง่ายต่อการเติบโตหนากว่า (> 7 ซม.Ø) ไม้ไผ่ ในกรณีนี้ จำเป็นต้องใช้แบบบางไม้ไผ่ culms สำหรับก่อสร้างองค์ประกอบต่าง ๆ โครงหลังคาน้ำหนักเบาถักและทอผนังแผง เอกสารนี้แสดงเงื่อนไขและตัวเลือกสำหรับโครงถักเหล่านี้เบาบางข้อเสียของการก่อสร้างดังกล่าวก็คือความแรงเข้มข้นและพื้นผิวสัมผัสจะมีขนาดใหญ่มาก เนื่องจากไม้ไผ่บางจะถูกโจมตีปลวก แมลง และเชื้อรา เก็บรักษาที่ดีหลังจากการบ่ม ที่ดี และสำคัญประจำควบคุม เช่นงวดทำความสะอาด การก่อสร้างหลังคาที่จำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไม้ไผ่เป็นวัสดุก่อสร้างที่ดีเยี่ยมน้ำหนักเบาและแข็งแรงสำหรับอาคารและเฟอร์นิเจอร์ มัน
ก็ยังใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับกระเช้า, เครื่องครัว, ปูและสิ่งของที่ใช้ในครัวเรือนอื่น ๆ .
การจัดการสวนไผ่อย่างยั่งยืนสามารถสร้างการจ้างงานที่สำคัญต้องใช้เพียง
ง่ายๆเครื่องมือเครื่องจักรและงานช่างฝีมือระดับ.
อย่างไรก็ตามการเก็บเกี่ยวของไม้ไผ่มักจะทำไม่ได้วางแผนที่ช่วยให้ไม่เพียงพอ เรื่องการเจริญเติบโตและ
ก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพของระบบนิเวศในท้องถิ่น ซึ่งจะส่งผลในการหายตัวไปรวมของไม้ไผ่
และในที่สุดก็ก่อให้เกิดการพังทลายของดินและในที่สุดก็เป็นทะเลทราย การสูญเสียของป่าไผ่และ
สวนมีผลกระทบต่อระบบนิเวศในท้องถิ่นและสภาพภูมิอากาศ.
ปัญหาพื้นฐานคือว่าป่าไผ่มักจะอยู่บนที่ดินของประชาชนและชาวบ้านที่ใช้ทั้งหมด
ในการตัดและการขับเทคนิคในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ ลำต้น (ลำ) มีการเก็บเกี่ยว
อ่อนแถมมาและขายวัสดุก่อสร้างโดยไม่ต้องบ่มหรือการรักษาใด ๆ .
เร็วเกินไปและไม่ถูกต้องเก็บเกี่ยวไม่หายและไม่เก็บรักษาไว้ไม้ไผ่บาง ๆ มีสั้น
อายุการใช้งาน (น้อยกว่าห้าปี) และไม่ควรจะเป็น ใช้สำหรับวัตถุประสงค์โครงสร้าง ลำต้นมี
เส้นผ่าศูนย์กลาง <40 มิลลิเมตรไม่ควรนำมาใช้สำหรับการก่อสร้างถาวรหรือคานองค์ประกอบ.
ด้วยการจัดการป่าไม้ที่ดีขึ้น, การผลิตไม้ไผ่อย่างยั่งยืนสามารถทำได้และ
อุปทานคงที่ของผลิตภัณฑ์ไม้ไผ่สร้าง นี้สามารถจัดหาทั้งอาคารและช่างฝีมือ
ตลาดและสร้างการจ้างงานถาวร การนำเข้าไผ่ชนิดใหม่ที่เหมาะสมกับ
สภาพภูมิอากาศในท้องถิ่นของภูมิภาคมากสามารถเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ สวนไม้ไผ่
สามารถนำมาใช้กับการรักษาขั้นสุดท้ายสำหรับการติดตั้งน้ำให้บริสุทธิ์เมื่อเป็นระยะ ๆ และ
น้ำท่วมในระดับปานกลาง บริหารจัดการที่ดีในการรวมกันที่มีพื้นที่การกรองดังกล่าวมากสามารถ
เพิ่มการผลิตไม้ไผ่ประจำปี.
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเลและสภาพอากาศอื่น ๆ ไม้ไผ่ก้านบางที่อาจจะ
ง่ายต่อการเติบโตกว่าหนา (7 ซม. Ø>) ไม้ไผ่ ในกรณีเช่นนี้ก็เป็นไปได้ที่จะใช้บาง
ลำไม้ไผ่สำหรับองค์ประกอบการก่อสร้างต่าง ๆ รวมทั้งโครงหลังคาน้ำหนักเบาและทอผนัง
แผง บทความนี้นำเสนอเกณฑ์และตัวเลือกสำหรับปิดปากแสงเหล่านี้.
ข้อเสียของการก่อสร้างดังกล่าวว่าเป็นแรงงานเข้มข้นและพื้นผิวสัมผัส
มีขนาดใหญ่มาก เพราะไม้ไผ่ทินเนอร์จะมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะปลวกแมลงและ
เชื้อรารักษาที่ดีหลังจากบ่มควบคุมประจำปีที่สำคัญและที่ดีเช่นเดียวกับระยะ
การทำความสะอาดของการก่อสร้างในหลังคาเป็นสิ่งจำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม้ไผ่เป็นเลิศที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง วัสดุก่อสร้างอาคารและเฟอร์นิเจอร์ มันนอกจากนี้ยังใช้กันอย่างแพร่หลายในตะกร้า , เครื่องครัว , เครื่องปูลาดและสิ่งประดิษฐ์อื่น ๆของใช้ในครัวเรือนการจัดการสวนป่าอย่างยั่งยืน สามารถสร้างรูปธรรมการใช้ไม้ไผ่เท่านั้นเครื่องมือง่ายๆ เครื่องจักร และงานระดับช่าง .อย่างไรก็ตาม ป่าไผ่ มักทำให้การเจริญเติบโตจะไม่เพียงพอและไม่ได้วางแผนก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศท้องถิ่น ผลนี้ในการรวมของไม้ไผ่และในที่สุดก็ก่อให้เกิดการชะล้างพังทลายของดิน และในที่สุดก็เป็นทะเลทราย . การสูญเสียของไม้ไผ่ป่าสวนจะมีผลกระทบต่อระบบนิเวศท้องถิ่นและสภาพอากาศเป็นปัญหาสำคัญคือ ไผ่ป่ามักจะมีในที่ดินสาธารณะและชาวบ้านใช้รวมการตัดและการใช้เทคนิคในเขตข้อมูลเหล่านี้ ต้น ( ซึ่งตัด ) เก็บเกี่ยวเด็กรวม และขายวัสดุก่อสร้างโดยไม่มีการแข็งตัว หรือการเก็บรักษาเร็วเกินไปและเก็บเกี่ยว ไม่ถูกต้อง ไม่หายและไม่ดองบางไผ่มีสั้น ๆอายุ ( ไม่เกิน 5 ปี ) และไม่ควรใช้สำหรับวัตถุประสงค์ในโครงสร้าง ซึ่งตัดกับเส้นผ่าศูนย์กลาง < 40 มม. ไม่ควรใช้เพื่อก่อสร้างแบบถาวรหรือแบบเรียงความกับการจัดการป่าไม้ ปรับปรุงการผลิตไม้ไผ่อย่างยั่งยืนสามารถทำได้และอุปทานคงที่ของผลิตภัณฑ์ไม้ไผ่ที่สร้างขึ้น นี้สามารถใส่ได้ทั้งในอาคารและช่างฝีมือตลาด และสร้างการจ้างงานถาวร ไผ่ชนิดใหม่เหมาะสำหรับนำเข้าสภาพอากาศท้องถิ่นของภูมิภาคอย่างมากสามารถปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ สวนไผ่สามารถใช้เป็นรักษาขั้นสุดท้ายสำหรับการติดตั้งและเมื่อบำบัดน้ำเป็นระยะ ๆในน้ำท่วม การจัดการที่ดีในการรวมกันกับพื้นที่การกรองดังกล่าวเป็นอย่างมากเพิ่มการผลิตไม้ไผ่ ประจำปีขึ้นอยู่กับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล สภาพอากาศและอื่น ๆ บางต้นอาจเป็นไม้ไผ่ง่ายต่อการเติบโตกว่าหนา ( 7 ซม. Ø ) ไม้ไผ่ ในกรณีเช่นนี้ มันเป็นไปได้ที่จะใช้บางไม้ไผ่ ซึ่งตัดองค์ประกอบการก่อสร้างต่างๆ รวมทั้งโครงหลังคาและผนังเบา ผ้าทอแผง บทความนี้เสนอเงื่อนไขบางอย่างและตัวเลือกสำหรับโครงอ่อนเหล่านี้ข้อเสีย เช่น ที่ดินที่เป็นแรงงานเข้มข้น และสัมผัสพื้นผิวกลายเป็นขนาดใหญ่มาก เพราะบางไผ่เป็นเสี่ยงต่อปลวกและแมลงเชื้อรา รักษาดี หลังจากบ่มเป็นสิ่งจำเป็นและการควบคุมที่ดีประจำปี รวมทั้ง เป็นระยะ ๆความสะอาดของการก่อสร้างในหลังคา จะต้อง