Step 1: Face the speaker and mainta

Step 1: Face the speaker and maintain eye contact.

In most Western cultures, eye contact is considered a basic ingredient of effective communication. When we talk, we look each other in the eye. Do your conversational partners the courtesy of turning to face them. Put aside papers, books, the phone and other distractions. Look at them, even if they don’t look at you. Shyness, uncertainty, shame, guilt, or other emotions, along with cultural taboos, can inhibit eye contact in some people under some circumstances. Excuse the other guy, but stay focused yourself.

Step 2: Be attentive, but relaxed.

Mentally screen out distractions, like background activity and noise. Don’t be distracted by your own thoughts, feelings, or biases.

Step 3: Keep an open mind.

Listen without judging the other person or mentally criticizing the things he/she tells you. Listen without jumping to conclusions. Remember that the speaker is using language to represent the thoughts and feelings inside his/her brain. You don’t know what those thoughts and feelings are and the only way you’ll find out is by listening. Don’t be a sentence-grabber by interrupting and finishing another person’s sentences: chances are, you’ll land way off base, because you’ll be following your own train of thought without learning, where the speaker’s thoughts were heading to.

Step 4: Listen to the words and try to picture what the speaker is saying.

Allow your mind to create a mental model of the information being communicated. Whether a literal picture, or an arrangement of abstract concepts, your brain will do the necessary work if you stay focused, with senses fully alert. When listening for long stretches, concentrate on, and remember, key words and phrases.

When it’s your turn to listen, don’t spend the time planning what to say next. You can’t rehearse and listen at the same time. Think only about what the other person is saying.

Step 5: Don’t interrupt and don’t impose your “solutions.”

Interrupting sends a variety of messages. It says:

“I’m more important than you are.”
“What I have to say is more interesting, accurate or relevant.”
“I don’t really care what you think.”
“I don’t have time for your opinion.”
“This isn’t a conversation, it’s a contest, and I’m going to win.”
We all think and speak at different rates. If you are a quick thinker and an agile talker, the burden is on you to relax your pace for the slower communicator.

When listening to someone talk about a problem, refrain from suggesting solutions. If you are absolutely bursting with a brilliant solution, at least get the speaker’s permission. Ask, “Would you like to hear my ideas?”

Step 6: Wait for the speaker to pause to ask clarifying questions.

When you don’t understand something, of course you should ask the speaker to explain it to you. But rather than interrupt, wait until the speaker pauses. Then say something like, “Back up a second. I didn’t understand what you just said about…”

Step 7: Ask questions only to ensure understanding.

At lunch, a colleague is excitedly telling you about her trip to Vermont and all the wonderful things she did and saw. In the course of this chronicle, she mentions that she spent some time with a mutual friend. You jump in with, “Oh, I haven’t heard from Alice in ages. How is she?” and, just like that, discussion shifts to Alice and her divorce, and the poor kids, which leads to a comparison of custody laws, and before you know it an hour is gone and Vermont is a distant memory.

This particular conversational affront happens all the time. Our questions lead people in directions that have nothing to do with where they thought they were going. Sometimes we work our way back to the original topic, but very often we don’t.

Step 8: Try to feel what the speaker is feeling.

If you feel sad when the person with whom you are talking expresses sadness, joyful when she expresses joy, fearful when she describes her fears—and convey those feelings through your facial expressions and words—then your effectiveness as a listener is assured. Empathy is the heart and soul of good listening.

Step 9: Give the speaker regular feedback.

Show that you understand where the speaker is coming from by reflecting the speaker’s feelings. “You must be thrilled!” “What a terrible ordeal for you.” “I can see that you are confused.” If the speaker’s feelings are hidden or unclear, then occasionally paraphrase the content of the message. Or just nod and show your understanding through appropriate facial expressions and an occasional well-timed “hmmm” or “uh huh.”

Step 10: Pay attention to what isn’t said—to nonverbal cues.

Face to face with a person, you can detect enthusiasm, boredom, or irritation very quickly in the expression around the eyes, the set of the mouth, the slope of the shoulders. These are clues you can’t ignore. When listening, remember that words convey only a fraction of the message.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขั้นตอนที่ 1: หน้าลำโพงที่ และรักษาตาในวัฒนธรรมตะวันตกมากที่สุด ตาถือว่าเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เมื่อเราพูด เราค้นหากันในตาด้วย ทำหน้าการเปิดหน้าให้คู่สนทนา วางเฉยเอกสาร หนังสือ โทรศัพท์ และอื่น ๆ รบกวน ดูพวกเขา แม้ว่าพวกเขาไม่มองคุณ ความอาย ความไม่แน่นอน ความอัปยศ ความผิด หรือ อารมณ์อื่น ๆ รวมทั้งวัฒนธรรม taboos สามารถยับยั้งตาในบางคนบางสถานการณ์ ขอโทษคนอื่น แต่อยู่เน้นตัวเองขั้นตอนที่ 2: เป็นมา แต่ผ่อนคลายจิตใจจอออกรบกวน เช่นกิจกรรมพื้นหลังและเสียงรบกวน ไม่ฟุ้งซ่าน โดยความคิดของคุณ ความรู้สึก หรือยอมขั้นตอนที่ 3: การเปิดใจไว้ฟังโดยไม่ตัดสินคนอื่น หรือวิจารณ์ในสิ่งที่เขาบอกคุณใจ ฟังโดยไม่ต้องข้ามไปบทสรุป จำได้ว่า ผู้ใช้ภาษาเพื่อแสดงความคิดและความรู้สึกภายในสมองเขา/เธอ คุณไม่รู้ความคิดและความรู้สึกเหล่านั้นคืออะไร และวิธีเดียวที่คุณจะพบว่าคือการฟัง ไม่เป็นประโยค grabber โดยขัดจังหวะ และจบประโยคของบุคคลอื่น: มีโอกาส คุณจะที่ดินวิธีปิดฐาน เนื่องจากคุณจะสามารถต่อกระแสความคิดของคุณเอง โดยการเรียนรู้ การที่ความคิดของผู้บรรยายมีหัวข้อให้ขั้นตอนที่ 4: ฟังคำ และพยายามภาพอะไรลำโพงที่บอกว่าอนุญาตให้สร้างรูปแบบข้อมูลการสื่อสารจิตใจ รูปอักษร หรือการจัดแนวคิดนามธรรม สมองของคุณจะทำงานที่จำเป็นถ้าคุณอยู่เน้น มีความรู้สึกทั้งหมดแจ้งเตือน เมื่อฟังในระยะยาว เน้น และ จำ ศัพท์และวลีเมื่อถึงตาคุณฟัง ไม่ใช้เวลาวางแผนอะไรพูดถัดไป คุณไม่สามารถทดสอบ และฟังในเวลาเดียวกัน คิดเกี่ยวกับสิ่งผู้อื่นพูดขั้นตอนที่ 5: อย่าขัดจังหวะ และไม่กำหนดของคุณ "แก้ไข"รบกวนส่งข้อความให้เลือกมากมาย กล่าวว่า:"ฉันสำคัญกว่าคุณ""สิ่งที่ฉันต้องพูดได้มากขึ้นน่าสนใจ ความถูกต้อง หรือที่เกี่ยวข้อง""ฉันไม่จริง ๆ ดูแลสิ่งที่คุณคิด""ฉันไม่มีเวลาสำหรับความเห็นของคุณ""นี้ไม่ใช่การสนทนา มันเป็นการประกวด และฉันจะชนะ"เราทั้งหมดคิด และพูดที่ ถ้าคุณใจ thinker ด่วน talker ที่คล่องตัว ภาระอยู่ผ่อนคลายของคุณก้าวสำหรับ communicator ช้าเมื่อฟังผู้อื่นพูดคุยเกี่ยวกับปัญหา ละเว้นจากการแนะนำโซลูชั่น ถ้าคุณมีชีวิตชีวา ด้วยโซลูชั่นยอดเยี่ยม อย่างน้อย ได้รับสิทธิ์ของลำโพง ถาม "คุณอยากได้ยินความคิดของฉัน"ขั้นตอนที่ 6: รอลำโพงหยุดชั่วคราวเพื่อถามคำถามที่ทำเมื่อคุณไม่เข้าใจบางสิ่งบางอย่าง แน่นอนคุณควรถามลำโพงจะอธิบายให้คุณ แต่แทนที่จะขัดจังหวะ รอจนกว่าลำโพงที่หยุดชั่วคราว แล้ว พูดอะไรบางอย่างเช่น "สำรองข้อมูลที่สอง ผมไม่เข้าใจว่าคุณเพิ่งพูดอะไรเกี่ยวกับ..."ขั้นตอนที่ 7: ถามคำถามเฉพาะเพื่อให้เข้าใจอาหารกลางวัน ผู้ร่วมงานจะขึ้งบอกคุณเกี่ยวกับการเดินทางของเธอรัฐเวอร์มอนต์และยอดเยี่ยมสิ่งเธอได้ และเห็น ในหลักสูตรนี้พงศาวดาร เธอระบุว่า เธอใช้เวลากับเพื่อนร่วมกัน คุณไป ด้วย "โอ้ ผมไม่ได้ยินจากอลิซในวัยนั้น วิธีคือเธอ เพียงเช่นนั้น สนทนากะอลิหย่าร้างของเธอ และ เด็กยากจน ซึ่งนำไปสู่การเปรียบเทียบของกฎหมายปกครอง และก่อนที่คุณรู้ว่า ชั่วโมงหาย และรัฐเวอร์มอนต์หน่วยความจำที่ห่างไกลAffront สนทนาเฉพาะนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา คำถามของเรานำคนในทิศทางที่มีอะไรกับที่พวกเขาคิดว่า พวกเขาจะ บางครั้งเราทำงานทางไปหัวข้อเดิม แต่บ่อยเราไม่ขั้นตอนที่ 8: ลองใจว่าลำโพงที่ความรู้สึกถ้าคุณรู้สึกเศร้า เมื่อบุคคลที่คุณกำลังพูดแสดงความโศกเศร้า จอยฟูลเมื่อเธอแสดงความสุข กลัวเมื่อเธออธิบายถึงความกลัวของเธอ — และถ่ายทอดความรู้สึกเหล่านั้นผ่านหน้านิพจน์และคำของคุณ — แล้ว จะมั่นใจได้ในประสิทธิภาพของคุณเป็นผู้ฟัง เอาใจใส่เป็นหัวใจและจิตวิญญาณของการฟังที่ดีขั้นตอนที่ 9: การให้ผลป้อนกลับปกติลำโพงแสดงว่า คุณเข้าใจที่มาที่ลำโพงจาก โดยสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกของผู้บรรยาย "คุณต้องตื่นเต้น" "สิ่งน่ากลัวการทรมานคุณ" "ฉันสามารถดูว่า คุณจะสับสน" ถ้าความรู้สึกของลำโพงซ่อนอยู่ หรือไม่ชัดเจน แล้วบางครั้งถอดความเนื้อหาของข้อความ หรือเพียงแค่พยักหน้า และแสดงความเข้าใจผ่านหน้านิพจน์ที่เหมาะสมและการเป็นครั้งคราวเวลาแห่ง "hmmm" หรือ "บริการฮะ. "ขั้นตอนที่ 10: ใส่ไม่พูด — การ nonverbal สัญลักษณ์Face to face with คน คุณสามารถตรวจสอบความกระตือรือร้น ความเบื่อ หรือระคายเคืองได้อย่างรวดเร็วในนิพจน์รอบตา ชุดปาก ความลาดชันของไหล่ เหล่านี้เป็นปมที่คุณไม่สามารถละเว้น เมื่อฟัง จำไว้ว่า คำที่ถ่ายทอดเฉพาะส่วนของข้อความ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขั้นตอนที่ 1:. หน้าลำโพงและรักษาติดต่อตามากที่สุดในวัฒนธรรมตะวันตก, สบตาถือว่าเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เมื่อเราพูดเรามองกันและกันในตา ทำคู่ค้าการสนทนาของคุณมารยาทของการหมุนที่จะเผชิญหน้ากับพวกเขา ใส่กันเอกสาร, หนังสือ, โทรศัพท์มือถือและการรบกวนอื่น ๆ มองไปที่พวกเขาแม้ว่าพวกเขาไม่ได้มองไปที่คุณ ความอายความไม่แน่นอน, ความอับอาย, ความผิดหรืออารมณ์อื่น ๆ พร้อมกับข้อห้ามทางวัฒนธรรมที่สามารถยับยั้งการติดต่อตาในบางคนภายใต้สถานการณ์บาง ขอโทษคนอื่น ๆ แต่เข้าพักที่เน้นตัวเอง. ขั้นตอนที่ 2: จะใส่ใจ แต่ผ่อนคลาย. จิตใจหน้าจอออกรบกวนเช่นกิจกรรมพื้นหลังและเสียง . อย่าฟุ้งซ่านโดยคิดของคุณเองความรู้สึกหรืออคติขั้นตอนที่ 3: ให้เปิดใจ. ฟังโดยไม่ตัดสินคนอื่น ๆ หรือจิตใจวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เขา / เธอจะบอกคุณ ฟังโดยไม่ต้องกระโดดให้ข้อสรุป โปรดจำไว้ว่าลำโพงคือการใช้ภาษาเพื่อเป็นตัวแทนของความคิดและความรู้สึกภายใน / สมองของเขาและเธอ คุณไม่ได้รู้ว่าสิ่งที่คิดและความรู้สึกเหล่านั้นและวิธีเดียวที่คุณจะพบคือการฟัง อย่าประโยค Grabber โดยขัดจังหวะและจบประโยคของบุคคลอื่น: โอกาสที่คุณจะที่ดินวิธีการปิดฐานเพราะคุณจะได้รับต่อไปนี้รถไฟของคุณเองของความคิดโดยไม่ต้องเรียนรู้ที่คิดของลำโพงกำลังมุ่งหน้าไป. ขั้นตอนที่ 4: ฟังคำพูดและพยายามที่จะถ่ายภาพสิ่งที่ผู้พูดจะพูด. อนุญาตให้ใจของคุณในการสร้างแบบจำลองจิตของข้อมูลที่ถูกสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นภาพที่แท้จริงหรือการจัดเรียงของแนวคิดที่เป็นนามธรรมสมองของคุณจะดำเนินงานที่จำเป็นถ้าคุณพักที่เน้นความรู้สึกที่มีการแจ้งเตือนอย่างเต็มที่ เมื่อฟังสำหรับยาวเหยียดสมาธิในและจำคำและวลีที่สำคัญ. เมื่อมันเปิดของคุณจะฟังไม่ได้วางแผนการใช้เวลาสิ่งที่จะพูดต่อไป คุณไม่สามารถฝึกซ้อมและฟังในเวลาเดียวกัน คิดเพียงเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นไม่ว่าจะเป็น. ขั้นตอนที่ 5: อย่าหยุดยั้งและไม่ได้กำหนดของคุณ "การแก้ปัญหา." รบกวนส่งความหลากหลายของข้อความ มันพูดว่า: ". ฉันมีความสำคัญมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่" . "สิ่งที่ผมต้องบอกว่าเป็นที่น่าสนใจมากขึ้นถูกต้องหรือที่เกี่ยวข้อง" ". ฉันไม่สนใจสิ่งที่คุณคิดว่า" "ผมไม่ได้มีเวลาสำหรับคุณ ความเห็น. " "นี่ไม่ใช่การสนทนาก็ประกวดและฉันจะชนะ." เราทุกคนคิดและพูดในอัตราที่แตกต่างกัน ถ้าคุณเป็นนักคิดที่รวดเร็วและพูดเปรียวภาระที่อยู่บนคุณผ่อนคลายก้าวของคุณสำหรับการสื่อสารที่ช้าลง. เมื่อฟังกับคนที่พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาละเว้นจากการแนะนำโซลูชั่น หากคุณกำลังอย่างเปี่ยมไปด้วยโซลูชั่นที่ยอดเยี่ยมอย่างน้อยได้รับอนุญาตของผู้พูด ถามว่า "คุณต้องการที่จะได้ยินความคิดของฉัน" ขั้นตอนที่ 6:. รอลำโพงที่จะหยุดเพื่อขอให้ชี้แจงคำถามเมื่อคุณไม่เข้าใจบางสิ่งบางอย่างของหลักสูตรที่คุณควรถามลำโพงที่จะอธิบายให้คุณ แต่แทนที่จะรบกวนรอจนกว่าจะหยุดลำโพง แล้วพูดอะไรบางอย่างเช่น "Back up ที่สอง ผมไม่เข้าใจสิ่งที่คุณเพิ่งพูดเกี่ยวกับ ... " ขั้นตอนที่ 7: ถามคำถามเดียวที่จะให้ความเข้าใจ. สำหรับมื้อกลางวัน, เพื่อนร่วมงานเป็นอย่างตื่นเต้นบอกคุณเกี่ยวกับการเดินทางของเธอเพื่อเวอร์มอนต์และทุกสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่เธอทำและเลื่อย ในหลักสูตรของเหตุการณ์นี้เธอกล่าวว่าเธอใช้เวลาอยู่กับเพื่อนร่วมงาน ที่คุณจะกระโดดด้วย "โอ้ฉันไม่เคยได้ยินจากอลิซในทุกเพศทุกวัย เธอเป็นอย่างไร? "และเช่นเดียวกับที่การเปลี่ยนแปลงการสนทนากับอลิซและการหย่าร้างของเธอและเด็ก ๆ ที่ยากจนซึ่งนำไปสู่การเปรียบเทียบของกฎหมายการดูแลและก่อนที่คุณจะรู้ว่าชั่วโมงจะหายไปและเวอร์มอนต์เป็นความทรงจำที่ห่างไกล. นี้ ปรามาสการสนทนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นตลอดเวลา คำถามของเรานำคนไปในทิศทางที่ไม่มีอะไรจะทำอย่างไรกับการที่พวกเขาคิดว่าพวกเขาจะ บางครั้งเราวิธีการทำงานของเรากลับไปที่หัวข้อเดิม แต่บ่อยครั้งมากที่เราไม่ได้. ขั้นตอนที่ 8:. พยายามที่จะรู้สึกว่าสิ่งที่ผู้พูดมีความรู้สึกถ้าคุณรู้สึกเศร้าเมื่อคนกับคนที่คุณกำลังพูดคุยเป็นการแสดงออกถึงความโศกเศร้าความสุขเมื่อเธอแสดงออก ความสุขที่น่ากลัวเมื่อเธออธิบายความกลัวและเธอถ่ายทอดความรู้สึกของผู้ที่ผ่านการแสดงออกทางสีหน้าของคุณและคำแล้วประสิทธิภาพของคุณเป็นผู้ฟังที่จะมั่นใจ เอาใจใส่เป็นหัวใจและจิตวิญญาณของการฟังที่ดี. ขั้นตอนที่ 9: ลำโพงให้ข้อเสนอแนะปกติ. แสดงให้เห็นว่าคุณเข้าใจที่ลำโพงมาจากโดยสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกของผู้พูด "คุณจะต้องตื่นเต้น!" "สิ่งที่เป็นอุปสรรคที่น่ากลัวสำหรับคุณ." "ฉันจะเห็นว่าคุณกำลังสับสน." ถ้าความรู้สึกของผู้พูดจะถูกซ่อนไว้หรือไม่ชัดเจนแล้วบางครั้งถอดความเนื้อหาของข้อความ หรือเพียงแค่พยักหน้าและแสดงความเข้าใจของคุณผ่านการแสดงออกทางสีหน้าเหมาะสมและเป็นครั้งคราวอย่างดีหมดเวลา "อืม" หรือ "ฮะ." ขั้นตอนที่ 10:. ให้ความสนใจกับสิ่งที่ไม่ได้กล่าวถึงตัวชี้นำอวัจนภาษาเผชิญหน้ากับคนที่คุณ สามารถตรวจจับความกระตือรือร้นความเบื่อหน่ายหรือเกิดการระคายเคืองอย่างรวดเร็วในการแสดงออกของรอบดวงตา, ​​ชุดของปากชันของไหล่ เหล่านี้เป็นปมที่คุณไม่สามารถละเลย เมื่อฟังจำได้ว่าคำพูดสื่อความหมายเพียงเศษเสี้ยวของข้อความ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขั้นตอนที่ 1 : หน้าลำโพง และรักษาติดต่อตา

ในวัฒนธรรมตะวันตกมากที่สุด การสบตาเป็นส่วนผสมพื้นฐานของการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เมื่อ เราพูด เราดูแต่ละอื่น ๆในดวงตา ทำคู่ค้ามารยาทหันมาเผชิญหน้ากับพวกเขา การสนทนาของคุณ จัดการเอกสาร , หนังสือ , โทรศัพท์ และการรบกวนอื่น ๆ ดูที่พวกเขา แม้ว่าพวกเขาไม่ได้มองเธอ ความไม่แน่นอน , ความไม่กล้าน่าเสียดาย ความรู้สึกผิด หรืออารมณ์อื่น ๆพร้อมกับข้อห้ามทางวัฒนธรรมสามารถยับยั้งการสบตาในบางคน ในบางสถานการณ์ โทษคนอื่น แต่โฟกัสเอง

ขั้นตอนที่ 2 : จะใส่ใจ แต่ผ่อนคลาย

ใจหน้าจอออกจากสมาธิ เหมือนกิจกรรมที่พื้นหลังและเสียงรบกวน อย่าไขว้เขว ความคิด ความรู้สึกของตนเอง หรืออคติ

ขั้นตอนที่ 3 : เปิดใจ .

ฟังโดยไม่ตัดสิน คนอื่น หรือใจวิจารณ์สิ่งที่เขา / เธอจะบอกคุณ ฟังโดยไม่ด่วนสรุป จำได้ว่า ผู้พูดคือการใช้ภาษาเพื่อแสดงถึงความคิดและความรู้สึกภายในสมองของเขา / เธอ คุณไม่รู้หรอกว่า ความคิดและความรู้สึกเหล่านั้น และวิธีเดียวที่คุณจะหาจากการฟังไม่ต้องมีประโยค Grabber ตามขวางและจบประโยคของบุคคลอื่น แน่นอน คุณจะลงวิธีปิดฐาน เพราะคุณจะได้รับดังต่อไปนี้รถไฟของคุณเองความคิดที่ปราศจากการเรียนรู้ ที่ความคิดของผู้พูดกำลังมุ่งหน้าไป

ขั้นตอนที่ 4 : ฟังและพยายามให้ภาพเกิดลําโพง

" .ช่วยให้จิตใจของคุณที่จะสร้างรูปแบบจิตของข้อมูลการติดต่อสื่อสารกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ อักษร หรือการจัดเรียงของแนวคิดที่เป็นนามธรรม สมองของคุณจะทำงานที่จำเป็นถ้าคุณมีสมาธิกับประสาทสัมผัสตื่นตัวเต็มที่ เมื่อฟังเป็นเวลานาน ฝักใฝ่ และจำไว้ว่า คำสำคัญและวลี .

เมื่อมันเปิดของคุณฟังอย่าใช้เวลาในการวางแผนสิ่งที่จะพูดต่อไป คุณไม่สามารถซ้อมและฟังในเวลาเดียวกัน คิดถึงแต่สิ่งที่คนอื่นพูด . .

ขั้นตอนที่ 5 : อย่าขัดจังหวะ และไม่กำหนดโซลูชั่นของคุณ " "

รบกวนส่งความหลากหลายของข้อความ มันบอกว่า :

" ฉันสำคัญกว่าคุณ "
" สิ่งที่ฉันจะพูดคือน่าสนใจมากขึ้นถูกต้องหรือที่เกี่ยวข้อง "
" ฉันไม่สนว่าคุณจะคิดยังไง "
" ผมไม่ได้มีเวลาสำหรับความคิดเห็นของคุณ . "
" นี่ไม่ใช่การสนทนา มันคือการแข่งขัน และฉันจะชนะ "
เราทุกคนคิดและพูดในอัตราที่แตกต่างกัน ถ้าคุณเป็นนักคิดและนักพูด รวดเร็ว ว่องไว ภาระเป็นคุณผ่อนคลายจังหวะให้ช้าลงและ

เมื่อฟังคนคุยเรื่องปัญหา ว่างเว้นจากการแนะนำโซลูชั่นถ้าคุณเป็นอย่างที่ระเบิดด้วยวิธีที่ฉลาดมาก อย่างน้อยก็เป็นลำโพงที่อนุญาติ ถามว่า " คุณต้องการจะได้ยินความคิดของฉัน "

ขั้นตอนที่ 6 : รอลำโพงหยุดเพื่อขอให้ชี้แจงคำถาม

เมื่อคุณไม่เข้าใจอะไร แน่นอนคุณควรถามผู้พูด เพื่ออธิบายให้คุณฟัง แต่แทนที่จะยุติ รอจนกว่าผู้พูดแล้วหยุด แล้วพูดว่า" เดี๋ยวนะ ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูดเกี่ยวกับ . . . . . . . "

ขั้นตอนที่ 7 : ถามเพียงเพื่อให้แน่ใจว่าเข้าใจ

ตอนเที่ยง เพื่อนร่วมงานตื่นเต้นที่บอกคุณเกี่ยวกับการเดินทางของเธอในเวอร์มอนต์และสิ่งอัศจรรย์ที่เธอได้เห็น ในหลักสูตรของประวัติศาสตร์นี้ เธอกล่าวว่าเธอใช้เวลากับเพื่อนร่วมกัน คุณกระโดดในกับ " โอ้ ฉันยังไม่ได้ยินจาก อลิซ ในวัยเธอเป็นไงบ้าง ? " แล้ว ก็เหมือนการสนทนากะอลิซ หย่ากับเธอ และ คนจน เด็ก ซึ่งนำไปสู่การเปรียบเทียบกฎหมาย สิทธิ และก่อนที่คุณจะรู้ว่ามันชั่วโมงจะหายไปและเวอร์มอนต์เป็นหน่วยความจำไกล

ดูถูกสนทนาเฉพาะนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา คำถามนำประชาชนในเส้นทางที่ไม่มีที่พวกเขาคิดว่าพวกเขาจะไปบางครั้งเราทำทางของเรากลับไปที่หัวข้อเดิม แต่บ่อยครั้งที่เราไม่รู้

ขั้นตอนที่ 8 : พยายามที่จะรู้สึกสิ่งที่ผู้พูดรู้สึก

ถ้าคุณรู้สึกเศร้าเมื่อคนที่คุณพูดแสดงความเศร้า สนุกสนานเมื่อเธอแสดงความปิติยินดี น่ากลัว เมื่อเธออธิบายถึงความกลัวของเธอ และถ่ายทอดความรู้สึกเหล่านั้น ผ่านการแสดงออกทางสีหน้าและคำพูดแล้วประสิทธิภาพของคุณเป็นผู้ฟังอย่างยิ่งเอาใจใส่เป็นหัวใจและจิตวิญญาณของการฟังที่ดี

9 ขั้นตอน : เอาลำโพงปกติความคิดเห็น

แสดงว่าคุณเข้าใจในสิ่งที่ผู้พูดมาจากผู้พูดโดยสะท้อนความรู้สึก " คุณจะต้องตื่นเต้นแน่ " สิ่งที่น่ากลัวจริงๆสำหรับคุณ . " " ผมรู้ว่าคุณกำลังสับสน ถ้าความรู้สึกของผู้พูดจะซ่อน หรือไม่ชัดเจน แล้วบางครั้งถอดความเนื้อหาของข้อความหรือเพียงแค่พยักหน้า และแสดงความเข้าใจของคุณผ่านทางสีหน้าที่เหมาะสมและเป็นครั้งคราวก็หมดเวลา " อืม " หรือ " ฮะ "

ขั้นตอนที่ 10 : ให้ความสนใจกับสิ่งที่ไม่ได้กล่าวว่า ภาษากาย

เผชิญหน้ากับบุคคล คุณ สามารถ ตรวจ สอบ ความกระตือรือร้น ความเบื่อ หรือระคายเคืองได้อย่างรวดเร็วมากในการแสดงออก รอบดวงตาชุดปาก ความลาดชันของไหล่เหล่านี้เป็นประเด็นที่คุณไม่สามารถละเว้น เมื่อฟัง จำได้ว่าคำพูดถ่ายทอดเฉพาะส่วนของข้อความ