Alcohol consumption is associated w

Alcohol consumption is associated with an increased risk of breast cance increasing linearly even with a moderate consumption and irrespectively of the type of alcoholic beverage. It shows no dependency from other risk factors like menopausal status, oral contraceptives hormone replacement therapy, or genetic history of breast cancer. The precise mechanism for the effect of drinking alcohol in mammary cancer promotion is still far from being established. Studies by our laboratory suggest that acetaldehyde produced in situ and accumulated in mammary tissue because of poor detoxicating mechanisms might play a role in mutational and promotional events. Additional studies indicated the production of reactive oxygen species accompanied of decreases in vitamin E and GSH contents and of glutathione transferase activity. The resulting oxidative stress might also play a relevant role in several stages of the carcinogenic process. There are reported in literature studies showing that plasmatic levels of estrogens significantly increased after alcohol drinking and that the breast cancer risk is higher in receptor ER positive individuals. Estrogens are known that they may produce breast cancer by actions on ER and also as chemical carcinogens, as a consequence of their oxidation leading to reactive metabolites. In this review we introduce our working hypothesis integrating the acetaldehyde and the oxidative stress effects with those involving increased estrogen levels. We also analyze potential preventive actions that might be accessible. There remains the fact that alcohol drinking is just one of the avoidable causes of breast cancer and that, at present, the suggested acceptable dose for prevention of this risk is of one drink per day.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แอลกอฮอล์ที่สัมพันธ์กับการเสี่ยงสำหรับ cance เต้านมเพิ่มขึ้นแม้ว่าจะ มีปริมาณปานกลางเชิงเส้น และ irrespectively ของชนิดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มันแสดงไม่อ้างอิงจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่นสถานะวัยทอง คุมหวัด หรือประวัติทางพันธุกรรมของมะเร็งเต้านม กลไกแม่นยำสำหรับผลของการดื่มแอลกอฮอล์ในการส่งเสริมมะเร็งทางหน้าอกยังคงจากก่อตั้งได้ ศึกษา โดยการปฏิบัติของเราแนะนำ acetaldehyde ที่ผลิตในซิ และสะสมในเนื้อเยื่อทางหน้าอกเนื่องจากกลไก detoxicating ไม่ดีอาจมีบทบาทในเหตุการณ์ mutational และส่งเสริมการขาย ศึกษาเพิ่มเติมระบุผลิตพันธุ์ปฏิกิริยาออกซิเจนพร้อมลดวิตามินอีและเนื้อหา GSH และกิจกรรม transferase กลูตาไธโอน ความเครียดเกิด oxidative อาจเล่นบทบาทที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนต่าง ๆ ของกระบวนการ carcinogenic มีรายงานในเอกสารประกอบการศึกษาแสดงว่า ระดับ plasmatic ของ estrogens เพิ่มหลังจากการดื่มแอลกอฮอล์ และว่าความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมสูงในบุคคลบวก ER ตัวรับ Estrogens รู้จักกันว่า พวกเขาอาจก่อให้เกิดมะเร็งเต้านม โดยการกระทำของ ER และยัง เป็นสารก่อ มะเร็งสารเคมี เป็นลำดับของการนำ metabolites ปฏิกิริยาออกซิเดชัน ในบทความนี้ เราแนะนำสมมติฐานของเราทำงานรวม acetaldehyde และ oxidative ความเครียดผลกระทบกับผู้เกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนหญิงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้เรายังวิเคราะห์การดำเนินการป้องกันเป็นไปได้ที่อาจเข้าถึงได้ มีอยู่จริงที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นหนึ่งสาเหตุของมะเร็งเต้านม avoidable และ ปัจจุบัน ยายอมรับแนะนำสำหรับการป้องกันความเสี่ยงนี้เป็นมื้อเดียวต่อวัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของเต้านมเพิ่มขึ้นนัยเส้นตรงแม้จะมีการบริโภคในระดับปานกลางและ irrespectively ประเภทของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มันแสดงให้เห็นการพึ่งพาจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่นสถานะวัยหมดประจำเดือน, ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนทดแทนหรือประวัติทางพันธุกรรมของโรคมะเร็งเต้านม กลไกที่แม่นยำสำหรับผลกระทบของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการส่งเสริมการเกิดโรคมะเร็งเต้านมยังห่างไกลจากการถูกจัดตั้งขึ้น การศึกษาโดยห้องปฏิบัติการของเราแสดงให้เห็นว่า acetaldehyde ผลิตในแหล่งกำเนิดและสะสมในเนื้อเยื่อเต้านมเพราะกลไก detoxicating ไม่ดีอาจมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ mutational และส่งเสริมการขาย ศึกษาเพิ่มเติมระบุผลิตออกซิเจนมาพร้อมกับการลดลงของวิตามินอีและเนื้อหา GSH และกิจกรรม transferase กลูตาไธโอน ความเครียดที่เกิดออกซิเดชั่นอกจากนี้ยังอาจมีบทบาทที่เกี่ยวข้องในหลายขั้นตอนของกระบวนการก่อมะเร็ง มีรายงานในการศึกษาวรรณกรรมแสดงให้เห็นว่าระดับของ plasmatic estrogens เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และว่ามีความเสี่ยงมะเร็งเต้านมจะสูงกว่าใน ER รับบุคคลที่เป็นบวก Estrogens เป็นที่รู้จักกันว่าพวกเขาอาจเป็นมะเร็งเต้านมโดยการกระทำใน ER และยังเป็นสารก่อมะเร็งสารเคมีที่เป็นผลของการเกิดออกซิเดชันของพวกเขาที่นำไปสู่​​สารปฏิกิริยา ในการทบทวนนี้เราแนะนำสมมติฐานการทำงานของเราการบูรณาการ acetaldehyde และผลความเครียดออกซิเดชันกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้เรายังวิเคราะห์การดำเนินการป้องกันที่มีศักยภาพที่จะสามารถเข้าถึงได้ ยังคงมีความจริงที่ว่าการดื่มสุราเป็นเพียงหนึ่งในสาเหตุที่หลีกเลี่ยงได้ของมะเร็งเต้านมและว่าในปัจจุบันปริมาณที่ยอมรับข้อเสนอแนะในการป้องกันความเสี่ยงนี้เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มต่อวัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งเต้านมเพิ่มน้ำหนักกับการบริโภคในระดับปานกลางและ irrespectively ของประเภทของเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ มันแสดงให้เห็นการพึ่งพาจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆเช่นสถานะ menopausal ยาคุมกําเนิดฮอร์โมนทดแทน หรือพันธุประวัติของมะเร็งเต้านมแม่นยำกลไกสำหรับผลของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการส่งเสริมมะเร็งต่อมน้ำนมยังห่างไกลจากการก่อตั้ง การศึกษาทางห้องปฏิบัติการของเราแนะนำว่า อะเซทัลดีไฮด์ที่ผลิตในประเทศไทย และสะสมในเนื้อเยื่อเต้านม เพราะคนจน detoxicating กลไกอาจมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติและส่งเสริมการขายกิจกรรมการศึกษาเพิ่มเติมพบว่า การผลิตของชนิดออกซิเจนปฏิกิริยาร่วมของการลดลงของวิตามิน E และชนิดเนื้อหาและกิจกรรมของกลูตาไธโอน . ส่งผลให้เกิดความเครียดอาจมีบทบาทสำคัญในหลายขั้นตอนของกระบวนการก่อมะเร็ง .มีรายงานในการศึกษาวรรณกรรมที่แสดงให้เห็นว่า plasmatic ระดับเอสโตรเจนเพิ่มขึ้นหลังจากการดื่มแอลกอฮอล์และมะเร็งเต้านมที่ความเสี่ยงสูงในการเป็นบวก บุคคล เอสโตรเจนเป็นที่รู้จักกันว่าพวกเขาอาจก่อให้เกิดมะเร็งเต้านม โดยการกระทำใน ER และยังเป็นสารเคมีสารก่อมะเร็ง เป็นผลของปฏิกิริยาออกซิเดชันของผู้นำสาร .ในการทบทวนนี้เราจะแนะนำของเราทำงานสมมติฐานรวมอะเซทัลดีไฮด์และ oxidative ความเครียดผลกระทบกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้เรายังทำการวิเคราะห์ศักยภาพในการป้องกันการกระทำที่อาจจะสามารถเข้าถึงได้ มีความจริงที่ว่าดื่มแอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในสาเหตุที่หลีกเลี่ยงได้ของโรคมะเร็งเต้านม และ ปัจจุบันแนะนำให้ยอมรับต่อการป้องกันความเสี่ยงนี้เป็นหนึ่งเครื่องดื่มต่อวัน .