The 2011 EU Directive does exactly

The 2011 EU Directive does exactly this, as it allows States to
establish "jurisdiction over the offences . . . committed outside its
territory.""' Such jurisdiction could be invoked if the crime was
committed in State A, while the individual committing the crime
of trafficking, or the victim of the crime of trafficking, is a
national or habitual resident of State B. In such a case, despite
the crime having taken place in State A, State B could establish
jurisdiction over the matter as a result of the involvement of one
of its habitual residents, or one of its citizens in the crime of
trafficking."' While the possibility to invoke extra-territorial
jurisdiction exists for European Union States as a result of the
2011 EU Directive, it might be noted that the 2009 UN Model
Law against Trafficking in Persons already called for such extraterritorial
jurisdiction to be included in trafficking legislation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2011 ที่ EU Directive ไม่ตรงนี้ เป็นที่ทำให้รัฐสร้าง "เขตอำนาจเหนือการกระทำ...รับประกันภายนอกของดินแดน""' อำนาจดังกล่าวอาจเรียกได้ว่าอาชญากรรมในสถานะ A ในขณะที่บุคคลกระทำอาชญากรรมการค้า หรือเหยื่อของอาชญากรรมของการค้า เป็นการแห่งชาติ หรือเคยพำนักรัฐข. ในกรณีนี้ แม้มีอาชญากรรมที่มีเกิดขึ้นในรัฐ รัฐขสามารถสร้างเขตอำนาจศาลมากกว่าเรื่องเป็นผลมาจากการมีส่วนร่วมของแต่ชาวเขา หรือพลเมืองในอาชญากรรมของอย่างใดอย่างหนึ่งค้า" ' ในขณะที่โอกาสที่จะเรียกดินแดนพิเศษอำนาจที่มีอยู่สำหรับสหภาพยุโรปอเมริกาเป็นผลมาจากการ2011 EU Directive มันอาจจะตั้งข้อสังเกตว่า 2009 UN รุ่นกฎหมายกับ Trafficking ในคนแล้วเรียกเช่น extraterritorialเขตอำนาจศาลที่จะรวมในการออกกฎหมายค้ามนุษย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2011 EU Directive ไม่ตรงนี้เนื่องจากจะช่วยให้สหรัฐอเมริกาเพื่อ
สร้าง "อำนาจเหนือความผิด... มุ่งมั่นที่นอก
ดินแดน." " 'เขตอำนาจดังกล่าวอาจถูกเรียกถ้าอาชญากรรมมีความ
มุ่งมั่นในรัฐในขณะที่บุคคลที่กระทำผิดทางอาญา
ของการค้ามนุษย์หรือเหยื่อของอาชญากรรมการค้ามนุษย์ที่เป็น
ถิ่นที่อยู่ในระดับชาติหรือนิสัยของรัฐบีในกรณีเช่นนี้แม้จะมี
ความผิดทางอาญาที่มีการเกิดขึ้นในรัฐรัฐ B สามารถสร้าง
อำนาจเหนือว่าเป็นผลมาจากการ การมีส่วนร่วมของหนึ่ง
ของผู้อยู่อาศัยเป็นนิสัยของตนหรืออย่างใดอย่างหนึ่งของประชาชนในการก่ออาชญากรรมของ
การค้ามนุษย์. "ในขณะที่ความเป็นไปได้ที่จะเรียกพิเศษดินแดน
เขตอำนาจที่มีอยู่สำหรับสหภาพยุโรปสหรัฐอเมริกาเป็นผลมาจาก
2011 EU Directive มันอาจจะตั้งข้อสังเกตว่า 2009 UN Model
กฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์ที่เรียกว่าไปแล้วสำหรับนอกเขตเช่น
เขตอำนาจที่จะรวมอยู่ในการออกกฎหมายการค้ามนุษย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2011 EU Directive ไม่ตรงนี้ มันช่วยให้รัฐสร้าง " เขตอำนาจเหนือความผิด . . . . . . . กระทำภายนอกดินแดน " " บางรายอาจจะเรียกว่า อาชญากรรมความมุ่งมั่นในรัฐ ในขณะที่แต่ละคนกำลังก่ออาชญากรรมการค้ามนุษย์ หรือ เหยื่อของอาชญากรรมการค้ามนุษย์ คือแห่งชาติหรือนิสัย ถิ่นของ รัฐ ในกรณีเช่นนี้ แม้อาชญากรรมได้เกิดขึ้นในรัฐ รัฐ B สามารถสร้างเขตอำนาจเหนือเรื่องผลของการหนึ่งนิสัยของชาวบ้าน หรือประชาชน ในคดีของการค้า " ในขณะที่ความเป็นไปได้ที่จะเรียกพิเศษน่านอำนาจที่มีอยู่สำหรับสหรัฐอเมริกา สหภาพ ยุโรป เป็นผลของ2011 Directive สหภาพยุโรป อาจจะสังเกตได้ว่าในปี 2009 และโมเดลกฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์แล้ว เรียกว่า เช่นสิทธินอกอาณาเขตสังกัดอยู่ในกฎหมายการค้ามนุษย์