You Need a Team on Your SideIn orde

You Need a Team on Your Side
In order to continuously learn, you need help. We’ve got this “do-it-yourself,
I-don’t-need-anyone” idea in America, like it’s somehow cooler, tougher, smarter,
or better to do things on your own (and only for yourself).
But doing it all by yourself is not only unnecessary but impossible. You can’t do
it on your own. So how do you get the help you need?
Everyone needs someone they can confide in, someone they can talk to about
whatever mountains they happen to be facing at the time. “Someone you can
talk to” might mean a professional counselor, but not necessarily. It might be an
uncle, a grandparent, a teacher, a school counselor, or a coach.
When Giselle John found an adult to confide in, her life changed. She came to
the U.S. from Trinidad and Tobago at age 14 and had a rough time adjusting to
high school. She got into a fight with another girl just two weeks after she started
ninth grade, and soon lost all interest in her education.
I kept getting low grades because I was cutting and not doing the work.
Sometimes I would just go home and sleep, or I wouldn’t even go to school at
all. There was no one looking over me, so I did what I wanted. I failed almost
all my exams.
I didn’t live with my family because they were back in the West Indies. I lived
with my mom’s friend, and she was too busy with her own life to pay attention
to mine.
Then I found a babysitting job, which made things worse. I was always tired
and skipping school more often than before. I couldn’t give up the job. I needed
the money to take care of myself.
But when Giselle began the 10th grade, she met a teacher who would change
her life.
One day I was falling asleep in my English classroom. Just before the period
ended I woke up, only to see my teacher, Ms. Stanford, looking at me.
“What’s the matter with you?” she asked.
“Nothing,” I answered softly.
I wanted to tell her what was on my mind. I needed someone to listen to me
and I knew she would. I always noticed how the other kids related to her. She

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คุณทีมงานด้านการการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ต้องช่วยเหลือ เราได้นี้ "do-it-yourselfผมไม่ต้องทุกคน"คิดในอเมริกา เช่นเป็นอย่างใดเย็น รุนแรงมาก ฉลาดหรือดีกว่าที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง (และ ตัวเองเท่านั้น)แต่ทำ ด้วยตัวเองจึงไม่เพียงแต่ไม่จำเป็น แต่เป็นไปไม่ คุณไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง คุณได้รับความช่วยเหลือคุณได้อย่างดังนั้นทุกคนต้องการคนที่สามารถไว้เนื้อเชื่อใจใน คนที่สามารถพูดคุยกับเกี่ยวกับภูเขาสิ่งที่เกิดขึ้นจะหันหน้าเข้าหาเวลา "คนสามารถพูดคุยกับ"อาจหมายถึง การที่ปรึกษามืออาชีพ แต่ไม่จำเป็นต้องได้ มันอาจจะเป็นลุง ปู่ย่าตายาย ครู ที่โรงเรียน หรือเป็นโค้ชเมื่อจอห์นจีเซลล์พบผู้ใหญ่เพื่อมอบ เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ เธอมาสหรัฐอเมริกาจากประเทศตรินิแดดและโตเบโกที่อายุ 14 และมีเวลาคร่าว ๆ ที่ปรับให้โรงเรียนมัธยม เธอได้เข้าสู่การต่อสู้กับสาวอีกเพียงสองสัปดาห์หลังจากที่เธอเริ่มเกรด ninth และสูญหายทั้งหมดสนใจในการศึกษาเร็ว ๆ นี้ฉันยังคงได้รับเกรดต่ำเนื่องจากถูกตัดและไม่ทำงานบางครั้งฉันจะเพียงไปบ้านและนอน หรือไม่ได้ไปโรงเรียนทั้งหมด ไม่มีใครมองเห็นฉัน ดังนั้นฉันได้สิ่งที่ฉันต้อง ฉันล้มเหลวเกือบสอบของฉันทั้งหมดผมไม่ได้อยู่กับครอบครัว เพราะในอินเดียตะวันตก ฉันอาศัยอยู่กับแม่ของฉัน ของเพื่อน เธอไม่ว่างเกินไปกับชีวิตของตนเองใส่เหมืองแล้ว พบกับงานบริการพี่เลี้ยงเด็ก การทำซ้ำ ผมจะเหนื่อยและข้ามโรงเรียนบ่อยเกินก่อน ฉันไม่สามารถให้ค่างาน ฉันต้องการเงินดูแลตัวเองแต่ได้พบครูที่จะเปลี่ยนแปลงเมื่อจีเซลล์เริ่มเกรด 10ชีวิตของเธอวันหนึ่งฉันได้หลับในห้องเรียนภาษาอังกฤษของฉัน ก่อนรอบระยะเวลาสิ้นสุดตื่นขึ้น เท่านั้นเมื่อต้องการดูครูของฉัน นางสาวสแตนฟอร์ด ที่ฉัน"เป็นอะไรกับคุณ" เธอถาม"ไม่ ผมตอบเบา ๆอยากจะบอกเธอสิ่งฉันคิด ฉันต้องการคนฟังฉันและฉันรู้ว่า เธอจะ เสมอฉันสังเกตเห็นว่า เด็กเกี่ยวข้องกับเธอ เธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คุณต้องการทีมงานในด้านของคุณเพื่อที่จะเรียนรู้อย่างต่อเนื่องคุณต้องการความช่วยเหลือ เรามีวันนี้ "ทำมันด้วยตัวเอง,
I-ห้ามความต้องการของทุกคน"
ความคิดในอเมริกาเช่นนั้นอย่างใดเย็นรุนแรงอย่างชาญฉลาดหรือดีกว่าที่จะทำในสิ่งที่ตัวคุณเอง(และตัวเอง)
แต่ทำมันทั้งหมดด้วยตัวเองไม่ได้เป็นเพียงที่ไม่จำเป็น แต่เป็นไปไม่ได้
คุณไม่สามารถทำมันด้วยตัวคุณเอง ดังนั้นวิธีที่คุณจะได้รับความช่วยเหลือที่คุณต้องการ? ทุกคนต้องการคนที่พวกเขาสามารถให้ความไว้วางใจในคนที่พวกเขาสามารถพูดคุยกับเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเกิดขึ้นภูเขาที่จะต้องเผชิญในเวลา "ใครบางคนที่คุณสามารถพูดคุยกับ" อาจหมายถึงการให้คำปรึกษามืออาชีพ แต่ไม่จำเป็นต้อง มันอาจจะเป็นลุงของปู่ย่าตายายครูที่ปรึกษาของโรงเรียนหรือโค้ช. เมื่อ Giselle จอห์นพบว่าผู้ใหญ่ให้ความไว้วางใจในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ เธอมาถึงสหรัฐจากตรินิแดดและโตเบโกเมื่ออายุ 14 และมีช่วงเวลาที่หยาบปรับตัวเข้ากับโรงเรียนมัธยม เธอได้เข้าต่อสู้กับหญิงสาวอีกเพียงสองสัปดาห์หลังจากที่เธอเริ่มต้นชั้นประถมศึกษาปีที่เก้าและหายไปในเร็ว ๆ นี้ความสนใจในการศึกษาของเธอ. ฉันเก็บรับเกรดต่ำเพราะผมตัดและไม่ได้ทำผลงาน. บางครั้งผมก็จะไปที่บ้านและการนอนหลับ หรือฉันจะไม่ได้ไปโรงเรียนที่ทั้งหมด มีอยู่คนหนึ่งมองฉันไม่ได้ดังนั้นฉันทำในสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันล้มเหลวเกือบทั้งหมดสอบของฉัน. ฉันไม่ได้อาศัยอยู่กับครอบครัวของฉันเพราะพวกเขากลับมาอยู่ในหมู่เกาะอินเดียตะวันตก ฉันอาศัยอยู่กับเพื่อนแม่ของฉันและเธอก็ยุ่งมากกับชีวิตของเธอเองให้ความสนใจไปยังเหมือง. จากนั้นฉันก็พบว่างานบริการพี่เลี้ยงเด็กซึ่งทำสิ่งที่เลวร้าย ฉันถูกเสมอเหนื่อยและกระโดดข้ามโรงเรียนบ่อยขึ้นกว่า แต่ก่อน ฉันไม่สามารถให้ขึ้นงาน ผมจำเป็นต้องมีเงินที่จะดูแลตัวเอง. แต่เมื่อเริ่ม Giselle ชั้นประถมศึกษาปีที่ 10 เธอได้พบกับครูที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอ. วันหนึ่งผมกำลังนอนหลับอยู่ในห้องเรียนภาษาอังกฤษ ก่อนระยะเวลาสิ้นสุดวันที่ฉันตื่นขึ้นมาเท่านั้นที่จะเห็นครูของฉันนางสาวสแตนฟอมองมาที่ฉัน. "สิ่งที่เป็นเรื่องกับคุณ?" เธอถาม. "ไม่มีอะไร" ผมตอบเบา ๆ . ฉันอยากจะบอกเธอสิ่งที่อยู่ใน ความคิดของฉัน. ฉันต้องการใครสักคนที่จะฟังฉันและฉันรู้ว่าเธอจะ ฉันมักจะสังเกตเห็นว่าเด็กคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเธอ เธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คุณต้องมีทีมใน
ด้านข้างของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อเรียนรู้ คุณต้องการความช่วยเหลือ เราได้ " ทำมันเอง
i-don 't-need-anyone " ความคิดในอเมริกา เหมือนบางทีมันก็เย็น เข้มแข็ง ฉลาด
หรือดีกว่าที่จะทำหน้าที่ของตัวเอง ( และตัวเอง )
แต่ทำเองทั้งหมดไม่ได้เป็นเพียงไม่จำเป็น แต่เป็นไปไม่ได้ คุณไม่สามารถทำ
บนของคุณเอง ดังนั้นวิธีที่คุณได้รับความช่วยเหลือที่คุณต้องการ
ทุกคนต้องการคนที่พวกเขาสามารถไว้วางใจ คนที่พวกเขาสามารถพูดคุยเกี่ยวกับ
ไม่ว่าภูเขาพวกเขากำลังเผชิญอยู่ " คนที่คุณสามารถ
คุยกับ " อาจหมายถึงที่ปรึกษามืออาชีพ แต่ไม่เสมอไป มันอาจจะเป็น
ลุง ปู่ ย่า ตา ยาย ครู ที่ปรึกษาโรงเรียน หรือโค้ช
เมื่อจีเซล จอห์นพบผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป เธอมา
.จาก ตรินิแดดและโตเบโก ที่อายุ 14 และมีเวลาที่ลำบากปรับ
โรงเรียนมัธยม เธอทะเลาะกับสาวอื่นแค่สองสัปดาห์หลังจากที่เธอเริ่ม
เกรด และในไม่ช้าก็หมดสิ้นความสนใจในการศึกษาของเธอ
ฉันเก็บรับเกรดต่ำ เพราะผมตัดและไม่ทำงาน .
บางครั้งฉันก็กลับบ้านไปนอนซะ ไม่งั้นฉันคงไม่ได้ไปเรียนที่โรงเรียน
ทั้งหมด .ไม่มีใครมองฉัน ฉันทำในสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันล้มเหลวเกือบ

สอบของผมทั้งหมด ผมไม่ได้อยู่กับครอบครัวเพราะพวกเขากลับมาใน West Indies . ฉันอาศัยอยู่
กับเพื่อนของแม่ และนางก็ยุ่งกับชีวิตเธอเองให้ความสนใจ

ผม แล้วผมเจองานพี่เลี้ยง ซึ่งทำให้มันแย่ลง ฉันเหนื่อยเสมอ
และ โดดเรียนบ่อยกว่าเมื่อก่อนฉันไม่ให้ขึ้นงาน ฉันต้องการ
เงินที่จะดูแลตัวเอง .
แต่เมื่อจีเซลเริ่มเกรด 10 , เธอได้พบกับอาจารย์จะเปลี่ยน

ชีวิตของเธอ วันหนึ่งผมได้นอนหลับในห้องเรียนภาษาอังกฤษ ก่อนสิ้นสุดระยะเวลา
ผมตื่นขึ้นมา ก็เห็นอาจารย์ของฉันคุณ Stanford , มองฉัน .
" เกิดอะไรขึ้นกับคุณ ? " เธอถาม .
" ไม่มีอะไร " ฉันตอบเบาๆ
ฉันต้องการจะบอกเธอว่าอะไร อยู่ในจิตใจของฉัน ฉันต้องการใครสักคนรับฟังผม
และฉันรู้ว่าเธอจะทำ ผมมักจะสังเกตเห็นว่าเด็กอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเธอ เธอ