Severe storms happen in low-pressur

Severe storms happen in low-pressure weather systems. Warm,
wet air begins rising into the air. The higher it rises, the cooler
it becomes. Water vapor in the air forms drops, a process called
condensation. The drops join together to form clouds, and then
precipitation of some kind (rain, sleet, snow, or hail) will fall
down to Earth’s surface.
Although conditions must be very specifi c for a thunderstorm
to develop, thunderstorms remain the most common kind of
extreme weather. Before a thunderstorm can develop, there have
to be three conditions present: the air has to be full of moisture, there must be either an intensely
heated portion of Earth’s surface sending warm air up quickly or an approaching cold front, and the
warm air that is rising must be warm enough to stay warmer than the air it passes through as it rises.
The moisture in the rising air condenses, clouds form and a storm begins.
A cold front happens when cold air is moving near the surface of Earth, and it pushes warm air
up very quickly. This is often the beginning of a thunderstorm. Clouds form, and heavy rains begin
falling. Opposite electrical charges inside storm clouds separate, causing lightning to fl ash towards
Earth. Lightning has enough energy to heat the air all around it. This sudden burst of heat is what
causes the noise we know as thunder. Thunderstorms often bring disasters with them, including
fl oods, fi res caused by lightning, damage from hailstones or strong winds, and even tornadoes. A
tornado is a spinning mass of air over land that can destroy virtually everything in its path.
A blizzard is a combination of strong winds and extremely low temperatures. Snowfall increases
until it is so heavy it is diffi cult or impossible to see. People can become lost in the snow and freeze to
death. Homes can be covered over with snow, trapping people indoors.
A hurricane is the most powerful storm known on Earth. Forming over warm ocean waters off the
coast of the tropics, they can become gigantic swirling mixtures of air and water between 100 and
900 miles wide. Wind speeds can average about 75 miles per hour. Hurricanes do the worst damage
to coastal cities because they quickly lose their strength when they move over land. Hurricanes are so
large and powerful that their swirling clouds can be seen from space.
Organizations like FEMA (the Federal Emergency Management Agency) and the American Red
Cross help victims of severe weather to deal with its aftermath.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พายุฝนรุนแรงเกิดขึ้นในระบบสภาพอากาศแรงดันต่ำ อบอุ่นอากาศเปียกเริ่มเพิ่มขึ้นไปในอากาศ ยิ่งพุ่งขึ้น เย็นมันกลายเป็น ไอน้ำในอากาศลดลง การเรียกว่าการควบแน่น หยดร่วมกันเพื่อฟอร์มเมฆ และจากนั้นบางชนิด (ฝน ฝุ่นละออง หิมะ หรือลูกเห็บ) ฝนจะตกลงของพื้นผิวแม้ว่าเงื่อนไขจะต้องเอื้อมาก c สำหรับคะนองการพัฒนา พายุฝนฟ้าคะนองยังคง พบมากที่สุดชนิดของสภาพอากาศที่รุนแรง ก่อนคะนองสามารถพัฒนา มีมีจะ สามเงื่อนไขปัจจุบัน: อากาศมีความชื้น ต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่งเข้มข้นส่วนร้อนของผิวโลกที่ส่งอากาศอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็วหรือเย็นใกล้หน้า และอากาศร้อนที่จะเพิ่มขึ้นต้องอุ่นพอพักอุ่นกว่าอากาศที่มันผ่านเป็นมันเพิ่มขึ้นควบแน่นของความชื้นในอากาศเพิ่มขึ้น เริ่มต้นรูปแบบเมฆและพายุแนวอากาศเย็นเกิดขึ้นเมื่ออากาศเย็นจะเคลื่อนที่ใกล้กับพื้นผิวของโลก และมันผลักอากาศอบอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว มักจะเป็นจุดเริ่มต้นของคะนอง คราม และฝนตกหนักเริ่มต้นตก ตรงข้ามค่าไฟฟ้าภายในเมฆพายุแยก ก่อให้เกิดฟ้าผ่าให้เถ้า fl ต่อโลก สายฟ้ามีพลังงานมากพอความร้อนอากาศรอบตัวมัน ระเบิดนี้อย่างฉับพลันของความร้อนคืออะไรทำให้เรารู้ว่าเป็นฟ้าร้องเสียง พายุฝนฟ้าคะนองมักนำภัยกับพวกเขา รวมทั้งfl oods, res เทอร์ที่เกิดจากฟ้าผ่า ความเสียหายจากลูกเห็บ หรือลม และพายุทอร์นาโดแม้ Aทอร์นาโดเป็นการหมุนของมวลอากาศเหนือพื้นดินที่สามารถทำลายเกือบทุกอย่างในเส้นทางพายุหิมะเป็นการผสมผสานของลมและอุณหภูมิต่ำมาก หิมะตกเพิ่มขึ้นจนกว่าจะหนักมาก มันเป็นลัทธิ diffi หรือเข้าไป ท่านสามารถกลายเป็นหายไปในหิมะ และตรึงไปความตาย บ้านสามารถปกคลุมไป ด้วยหิมะ ดักจับคนในบ้านพายุเฮอริเคนเป็นพายุมีประสิทธิภาพที่สุดรู้จักกันบนโลก ขึ้นรูปผ่านน้ำทะเลอุ่นปิดการชายฝั่งของเขตร้อน จะกลายเป็นยักษ์หมุนผสมของอากาศและน้ำระหว่าง 100 และกว้าง 900 กม. ความเร็วลมสามารถเฉลี่ยประมาณ 75 ไมล์ต่อชั่วโมง พายุเฮอริเคนทำความเสียหายเลวร้ายที่สุดการเมืองชายฝั่งทะเลเนื่องจากพวกเขาอย่างรวดเร็วสูญเสียความแข็งแรงของพวกเขาเมื่อพวกเขาย้ายไปที่ดิน พายุเฮอริเคนนั้นอยู่ใหญ่ และทรงพลังที่สามารถมองเห็นเมฆการหมุนจากพื้นที่องค์กรเช่น FEMA (ที่ฟี) และสีแดงอเมริกันข้ามช่วยเหลือเหยื่อของสภาพอากาศที่รุนแรงเพื่อจัดการกับผลพวงของมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พายุที่รุนแรงเกิดขึ้นในระบบอากาศความดันต่ำ อบอุ่น
อากาศเปียกเริ่มปรับตัวสูงขึ้นไปในอากาศ สูงกว่ามันเพิ่มขึ้นเย็น
มันจะกลายเป็น ไอน้ำในรูปแบบอากาศลดลงกระบวนการที่เรียกว่า
การควบแน่น หยดร่วมกันในรูปแบบเมฆแล้ว
ตกตะกอนของบางชนิด (ฝนลูกเห็บหิมะหรือลูกเห็บ) จะลดลง
ลงไปที่พื้นผิวโลก.
แม้ว่าเงื่อนไขจะต้อง specifi มาก C สำหรับพายุฝนฟ้าคะนอง
ในการพัฒนาพายุยังคงเป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด ของ
อากาศที่รุนแรง ก่อนที่พายุฝนฟ้าคะนองสามารถพัฒนามี
จะเป็นสามเงื่อนไขปัจจุบัน: อากาศจะเต็มไปด้วยความชุ่มชื้นมีต้องมีทั้งเข้มข้น
ส่วนความร้อนของพื้นผิวโลกส่งอากาศอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็วหรือใกล้หน้าหนาวและ
อากาศอบอุ่นที่ จะเพิ่มขึ้นจะต้องมีความอบอุ่นพอที่จะอยู่อุ่นกว่าอากาศที่มันผ่านในขณะที่มันเพิ่มขึ้น.
ความชื้นในการเพิ่มขึ้นของการควบแน่นปรับอากาศแบบฟอร์มเมฆและพายุเริ่มต้น.
หน้าหนาวที่เกิดขึ้นเมื่ออากาศเย็นที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ใกล้กับพื้นผิวของโลกและ มันดันอากาศอุ่น
ขึ้นอย่างรวดเร็ว นี้มักจะเป็นจุดเริ่มต้นของพายุฝนฟ้าคะนองที่ เมฆรูปแบบและมีฝนตกหนักเริ่ม
ลดลง ค่าใช้จ่ายไฟฟ้าตรงข้ามภายในเมฆพายุแยกต่างหากที่ก่อให้เกิดฟ้าผ่าให้เป็นเถ้าฟลอริด้าที่มีต่อ
โลก สายฟ้ามีพลังงานพอที่จะให้ความร้อนอากาศรอบ ๆ ตัวมัน นี้ออกมาอย่างฉับพลันของความร้อนเป็นสิ่งที่
ทำให้เกิดเสียงเรารู้ว่าเป็นเสียงฟ้าร้อง พายุฝนฟ้าคะนองมักจะนำภัยพิบัติกับพวกเขารวมทั้ง
oods FL, Res Fi ที่เกิดจากฟ้าผ่าเสียหายจากลูกเห็บหรือลมแรงและแม้แต่พายุทอร์นาโด
พายุทอร์นาโดเป็นมวลหมุนของอากาศเหนือพื้นดินที่สามารถทำลายแทบทุกอย่างในเส้นทางของมัน.
พายุหิมะคือการรวมกันของลมแรงและอุณหภูมิที่ต่ำมาก หิมะตกเพิ่มขึ้น
จนกว่าจะหนักดังนั้นจึงเป็นลัทธิ diffi หรือเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็น ผู้คนสามารถกลายเป็นหายไปในหิมะและแช่แข็งที่จะ
ตาย ที่อยู่อาศัยสามารถถูกปกคลุมไปด้วยหิมะดักคนในบ้าน.
พายุเฮอริเคนเป็นพายุที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่รู้จักกันบนโลก การขึ้นรูปมากกว่าน้ำทะเลที่อบอุ่นปิด
ชายฝั่งของเขตร้อนที่พวกเขาจะกลายเป็นสารผสมหมุนขนาดยักษ์ของอากาศและน้ำระหว่าง 100 และ
900 ไมล์และกว้าง ความเร็วลมสามารถเฉลี่ยประมาณ 75 ไมล์ต่อชั่วโมง พายุเฮอริเคนทำความเสียหายที่เลวร้ายที่สุด
ไปยังเมืองชายฝั่งทะเลเพราะพวกเขาได้อย่างรวดเร็วสูญเสียความแข็งแรงของพวกเขาเมื่อพวกเขาย้ายไปทั่วแผ่นดิน พายุเฮอริเคนจึง
มีขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพที่เมฆหมุนของพวกเขาสามารถมองเห็นได้จากอวกาศ.
องค์กรเช่น FEMA (สำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินกลาง) และ American Red
ข้ามความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากสภาพอากาศที่รุนแรงในการจัดการกับผลที่ตามมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พายุที่รุนแรงเกิดขึ้นในระบบอากาศแรงดันต่ำ . อบอุ่นอากาศชื้นเริ่มลอยขึ้นไปในอากาศ สูงกว่ามันเพิ่มขึ้น , เย็นมันกลายเป็น ไอน้ําในอากาศลดลง รูปแบบ กระบวนการที่เรียกว่าการควบแน่น หยดร่วมกันเป็นรูปเมฆ แล้วการตกตะกอนของบางชนิด ( ฝน ลูกเห็บ หิมะหรือลูกเห็บ ) จะตกลงสู่โลกของพื้นผิวแม้ว่าเงื่อนไขจะต้องมากของเหลว C สำหรับพายุเพื่อพัฒนา พายุฝนยังคงเป็นชนิดที่พบมากที่สุดของสภาพอากาศที่รุนแรง ก่อนที่พายุจะพัฒนา มีเป็นสามเงื่อนไขปัจจุบัน : อากาศจะเต็มไปด้วยความชื้น ต้องมีทั้งแรงๆส่วนความร้อนของผิวโลกการส่งอากาศอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็วหรือใกล้หน้า หนาว และอากาศที่เพิ่มขึ้นจะต้องอุ่นพอที่จะอยู่อุ่นกว่าอากาศมันผ่านมันมาความชื้นในอากาศควบแน่นขึ้น เมฆรูปแบบและพายุเริ่มหน้าเย็นที่เกิดขึ้นเมื่ออากาศเย็นจะเคลื่อนใกล้พื้นผิวโลก และมันดันอากาศอบอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว นี้มักจะเป็นจุดเริ่มต้นของพายุฝน รูปแบบเมฆและฝนตกหนัก .การล้ม ตรงข้ามไฟฟ้าค่าใช้จ่ายภายในพายุเมฆแยก ก่อให้เกิดสายฟ้ากับ FL แอสต่อโลก สายฟ้า มีพลังเพียงพอที่จะให้ความร้อนอากาศรอบตัวมัน ระเบิดฉับพลันของความร้อนนี้ คืออะไรทำให้เรารู้ว่าเป็นเสียงฟ้าร้อง พายุฝนฟ้าคะนอง มักจะนำภัยพิบัติเหล่านั้น ได้แก่ฟลอริด้า , อาหาร , res เกิดจากฟ้าผ่า ความเสียหายจากลูกเห็บ หรือลมแรง และแม้แต่พายุทอร์นาโด เป็นพายุทอร์นาโดเป็นหมุนมวลของอากาศเหนือแผ่นดินที่สามารถทำลายแทบทุกอย่างในเส้นทางของมันพายุหิมะคือการรวมกันของลมแรงและอุณหภูมิต่ำมาก เพิ่มหิมะตกจนกว่ามันจะหนักมาก มันเป็น diffi ศาสนาหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็น คนเราสามารถกลายเป็นหายไปในหิมะและตรึงความตาย บ้านสามารถจะครอบคลุมมากกว่าด้วยหิมะดักคนในบ้านพายุเฮอริเคนเป็นพายุที่มีพลังมากที่สุดที่รู้จักกันบนโลก เป็นเหนือมหาสมุทรอบอุ่นออกชายฝั่งของเขตร้อน พวกเขาสามารถกลายเป็นยักษ์หมุนวนผสมของอากาศและน้ำระหว่าง 100 และกว้าง 900 ไมล์ ความเร็วลมเฉลี่ยประมาณ 75 ไมล์ต่อชั่วโมง เฮอริเคนสร้างความเสียหายที่เลวร้ายที่สุดเมืองชายฝั่งเนื่องจากพวกเขาได้อย่างรวดเร็วสูญเสียความแข็งแรงของพวกเขาเมื่อพวกเขาย้ายไปที่ดิน พายุเฮอริเคนเป็นดังนั้นขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพที่พวกเขาหมุนเมฆสามารถเห็นได้จากอวกาศองค์กรเช่น FEMA ( Federal Emergency Management Agency ) และสีแดงกาชาดช่วยผู้ประสบภัยของสภาพอากาศรุนแรงจัดการกับผลที่ตามมา