Kids rely on both incoming informat

Kids rely on both incoming information and information stored in working memory to do an activity. If they have weak working memory skills, it’s hard to juggle both. This can make it challenging to follow multi-step directions. Kids with weak working memory skills have trouble keeping in mind what comes next while they’re doing what comes now. For example, your child may not be able to mentally “go back” and recall what sentence the teacher wanted written down while also trying to remember how to spell out the words in that sentence.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เด็กพึ่งพาข้อมูลที่เข้ามาทั้งในและข้อมูลที่เก็บไว้ในหน่วยความจำทำงานเพื่อทำกิจกรรม หากพวกเขามีทักษะความจำทำงานอ่อนแอมันยากที่จะเล่นปาหี่ทั้ง นี้สามารถทำให้มันเป็นความท้าทายที่จะทำตามคำแนะนำหลายขั้นตอน เด็กที่มีทักษะความจำทำงานที่อ่อนแอมีปัญหาในการรักษาในใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปในขณะที่พวกเขากำลังทำสิ่งที่มาในขณะนี้ ยกตัวอย่างเช่นบุตรหลานของคุณอาจจะไม่สามารถที่จะจิตใจ“กลับไป” และการเรียกคืนสิ่งที่ประโยคครูอยากเขียนลงในขณะที่ยังพยายามที่จะจำวิธีการสะกดคำในประโยคที่ว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เด็กอาศัยทั้งข้อมูลขาเข้าและข้อมูลที่เก็บไว้ในหน่วยความจำการทำงานที่จะทำกิจกรรม ถ้าพวกเขามีทักษะการทำงานหน่วยความจำที่อ่อนแอมันยากที่จะเล่นปาหี่ทั้งสอง นี้สามารถทำให้มันท้าทายที่จะทำตามคำแนะนำแบบหลายขั้นตอน เด็กที่มีทักษะหน่วยความจำการทำงานที่อ่อนแอมีปัญหาในการรักษาในใจสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปในขณะที่พวกเขากำลังทำสิ่งที่มาในขณะนี้ ตัวอย่างเช่นลูกของคุณอาจจะไม่สามารถที่จะจิตใจ "ย้อนกลับ" และจำประโยคที่ครูต้องการเขียนลงในขณะที่ยังพยายามที่จะจำได้ว่าจะสะกดคำในประโยคนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เด็กทำกิจกรรมโดยการป้อนข้อมูลและข้อมูลที่เก็บไว้ในหน่วยความจำทำงาน มันเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับทั้งสองถ้าพวกเขามีหน่วยความจำที่อ่อนแอ นี้อาจทำให้มันยากที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำหลายขั้นตอน เด็กที่มีความจำไม่ดีมีปัญหาในการจดจำสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ตัวอย่างเช่นเด็กของคุณอาจจะไม่สามารถที่จะกลับไปในจิตวิญญาณจำประโยคที่ครูต้องการเขียนและจำวิธีการสะกดคำในประโยค