Bhumibol came to Thailand in 1928,

Bhumibol came to Thailand in 1928, after Prince Mahidol obtained a certificate from Harvard. The father died of kidney failure in September 1929, when Bhumibol was two years old.[14]:62 He briefly attended Mater Dei school in Bangkok but in 1933 his mother took the family to Switzerland, where he continued his education at the École nouvelle de la Suisse romande in Lausanne. In 1934 Bhumibol was given his first camera, which ignited his lifelong enthusiasm for photography. When Bhumibol's childless uncle Prajadhipok abdicated in 1935, his nine-year-old brother Ananda became the new King Rama VIII. However, the family stayed in Switzerland and the affairs of the head of state were conducted by a regency council. They returned to Thailand for only two months in 1938. In 1942, Bhumibol became a jazz enthusiast, and started to play the saxophone, a passion that he has kept throughout his life. He received the baccalauréat des lettres (high-school diploma with a major in French literature, Latin, and Greek) from the Gymnase Classique Cantonal of Lausanne, and by 1945 had begun studying science at the University of Lausanne, when World War II ended and the family returned to Thailand.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภูมิพลมายังประเทศไทยใน 1928 หลังจากเจ้าชายมหิดลรับใบรับรองจากฮาร์วาร์ด บิดาเสียชีวิตล้มเหลวไตใน 1929 กันยายน เมื่อภูมิพลได้สองปี [14]: 62 เขาสั้น ๆ ร่วม Mater Dei โรงเรียน ในกรุงเทพมหานคร แต่ ในปี 1933 เขาแม่ก็พาครอบครัวไปสวิสเซอร์แลนด์ การที่เขายังคงศึกษาที่ École แรมนูเวล de la Suisse romande ในโลซาน ใน 1934 ภูมิพลได้รับกล้องแรกของเขา ซึ่งลุกเราปรับเปลี่ยนรูปแบบสำหรับการถ่ายภาพ เมื่อลุงไม่มีบุตรของภูมิพลประชาธิปกราชาสละราชในปี 1935 น้องเก้าปีอนันดาเป็น พระราม VIII ใหม่ของ คิง อย่างไรก็ตาม ครอบครัวอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ และกิจการของประมุขแห่งรัฐได้ดำเนินการ โดยสภารีเจนซี่ เขาเหล่านั้นกลับประเทศไทยในค.ศ. 1938 เพียงสองเดือน ในปี 1942 ภูมิพลได้กลายเป็นที่ ชื่นชอบแจ๊ส และเริ่มเล่นแซกโซโฟน ความรักที่เขามีอยู่ตลอดชีวิตของเขา เขาได้รับการ baccalauréat des lettres (ประกาศนียบัตรระดับมัธยมปลาย มีวิชาวรรณคดีฝรั่งเศส ละติน และภาษากรีก) จาก Gymnase Classique ได้แก่ของโล ก โดย 1945 เริ่มเรียนวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโล เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง และครอบครัวกลับประเทศไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภูมิพลมาเมืองไทยในปี 1928 หลังจากที่สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลที่ได้รับใบรับรองจากฮาร์วาร์ พ่อเสียชีวิตจากไตวายในเดือนกันยายน 1929 เมื่อภูมิพลได้สองปี [14]:. 62 เขาเข้าเรียนในเวลาสั้น ๆ โรงเรียน Mater Dei ในกรุงเทพฯ แต่ในปี 1933 แม่ของเขาพาครอบครัวไปวิตเซอร์แลนด์ที่เขายังคงศึกษาของเขาที่Écoleแวลล์ de la Suisse Romande ในโลซาน ในปี 1934 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลได้รับกล้องตัวแรกของเขาซึ่งจุดประกายความกระตือรือร้นของเขาตลอดชีวิตสำหรับการถ่ายภาพ เมื่อลุงบุตรภูมิพลของปกเกล้าสละราชสมบัติในปี 1935 พี่ชายเก้าปีของเขากลายเป็นอนันดาใหม่รัชกาลที่ VIII อย่างไรก็ตามครอบครัวอยู่ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์และกิจการของหัวของรัฐได้ดำเนินการโดยสภาผู้สำเร็จราชการ พวกเขากลับมาเมืองไทยเพียงสองเดือนในปี 1938 ในปี 1942 กลายเป็นที่ชื่นชอบภูมิพลแจ๊สและเริ่มที่จะเล่นแซกโซโฟนที่เป็นความรักที่เขาได้เก็บไว้ตลอดชีวิตของเขา เขาได้รับbaccalauréatเดตร์ (ประกาศนียบัตรมัธยมปลายที่มีความสำคัญในวรรณคดีฝรั่งเศสละตินและกรีก) จาก Gymnase Classique Cantonal โลซานและ 1945 ได้เริ่มการศึกษาวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโลซานน์เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงและ ครอบครัวกลับมาเมืองไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภูมิพลมาเมืองไทยในปี 1928 หลังจากที่สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ได้รับใบรับรองจากฮาร์วาร์ด พ่อเสียชีวิตจากไตล้มเหลวในเดือนกันยายนปี ค.ศ. 1929 เมื่อภูมิพลสองปี . [ 14 ] : เขาสั้นเข้าร่วมโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย โรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานคร แต่ใน 2476 แม่ของเขาพาครอบครัวไปสวิตเซอร์แลนด์ ที่เขายังคงศึกษาของเขาที่เอกอลนูแวลล์ de la Suisse romande ในเมืองโลซานน์ .เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกล้องครั้งแรกของเขา ซึ่งจุดประกายความกระตือรือร้นตลอดชีวิตของเขาสำหรับการถ่ายภาพ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นบุตรของลุง ) สละราชสมบัติในปี 1935 , ปีของเขาเก้าเก่าพี่อนันดาเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ พระรามแปด อย่างไรก็ตาม ครอบครัวอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ และกิจการของหัวหน้าของรัฐได้ดำเนินการโดย Regency council พวกเขากลับเมืองไทยแค่ 2 เดือน ในปี 1938 .ในปี 1942 , พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแจ๊สที่ชื่นชอบและเริ่มเล่นแซกโซโฟน , ความหลงใหลที่เขาเก็บไว้ตลอดชีวิตของเขา เขาได้รับ baccalaur des éที่ lettres ( โรงเรียนมัธยมประกาศนียบัตรกับเอกในวรรณคดีฝรั่งเศสละตินและกรีก ) จาก gymnase Classique cantonal โลซานและในปี 1945 ได้เริ่มเรียนวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโลซานเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงและครอบครัวกลับคืนสู่ประเทศไทย