Joseon (Chosŏn) Dynasty (1392-1910)

Joseon (Chosŏn) Dynasty (1392-1910) architecture

Media related to Architecture of the Joseon Dynasty at Wikimedia Commons
See also: Joseon (Chosŏn) Dynasty architecture; and Five Grand Palaces.

Donggwoldo, a landscape of the once extensive grounds of Changdeok Palace, a UNESCO World Heritage Site, and Changgyeong Palace. Painted c. 1830.

Joseon (Chosŏn)architecture is defined as from the 14th century to the beginning of 20th century. The founding of the Joseon Dynasty in 1392 brought to power like-minded men steeped in the doctrines of Neo-Confucianism, which had slowly percolated into Korea from China in the 14th century. This ushered in a new environment that was relatively hostile to Buddhism, causing the state to gradually shift its patronage from Buddhist temples to Confucian institutions. Throughout the early dynasty, the impetus to reform society along Neo-Confucian lines led to the construction of hyanggyo (local schools) in Seoul and numerous provincial cities. Here, sons of the aristocracy prepared for civil service careers in an atmosphere of Confucian learning. Although these institutions endured through the end of the dynasty, they began to fall out of favor in the mid-16th century for a variety of reasons. Among these, the rise in population made it the prospects of a civil service career less likely than in earlier years. Also, as the yangban aristocracy matured in its understanding of Neo-Confucianism, they grew more selective in the quality and type of instruction they favored for their sons. As a result, private Confucian academies (seowon) gradually supplanted hyanggyos and became a staple of rural aristocratic life until the end of the dynasty.

Neo-Confucianism inspired new architectural paradigms. Jaesil, or clan memorial halls, became common in many villages where extended families erected facilities for common veneration of a distant ancestor. Jongmyo, or memorial shrines, were established by the government to commemorate exceptional acts of filial piety or devotion. Even beyond these archetypes, the aesthetics of Neo-Confucianism, which favored practicality, frugality, and harmony with nature, forged a consistent architectural style throughout Korean society.

The most famous town walls are those of Seoul and Suwon. The capital's stone wall, constructed in 1396 and rebuilt in 1422, was sixteen kilometers long (only traces remain today) and had eight gates (including Namdaemun, the South Gate); Suwon's town wall, completed in 1796, was a model of construction methods in Asia at that time, as it benefited from Western influence and techniques.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โจ (Chosŏn) สถาปัตยกรรมราชวงศ์ (1392-1910) สื่อที่เกี่ยวข้องกับสถาปัตยกรรมของสมัยราชวงศ์โชซอนที่ตำรา ดู: สถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์โชซอน (Chosŏn) และ พระราชวังแกรนด์ 5Donggwoldo ประกันด้วยทำเลของ พระราชวัง Changdeok มรดกโลกยูเนสโก และหลัง ตู้ c. 1830โจ (Chosŏn) สถาปัตยกรรมไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 จุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 20 นำพาโชซอนใน 1392 นำพลังงานชายใจเดียวคุณค่าในหลักคำสอนของนีโอ-Confucianism ซึ่งมี percolated ช้าในเกาหลีจากประเทศจีนในศตวรรษที่ 14 นี้ ushered ในสภาพแวดล้อมใหม่ที่ค่อนข้างเป็นศัตรูกับพุทธศาสนา การทำให้รัฐจะค่อย ๆ เปลี่ยนความอุปถัมภ์จากวัดไปยังสถาบัน Confucian ตลอดช่วงต้นราชวงศ์ แรงผลักดันการปฏิรูปสังคมตามลัทธิขงจื้อนีโอบรรทัดนำไปก่อสร้าง hyanggyo (ภายในโรงเรียน) ในโซลและเมืองหลายจังหวัด ที่นี่ บุตรของขุนนางที่เตรียมไว้สำหรับราชการอาชีพในบรรยากาศการเรียนรู้ Confucian แม้ว่าสถาบันเหล่านี้ทนผ่านจุดสิ้นสุดของราชวงศ์ พวกเขาเริ่มตกตกกระป๋องในศตวรรษกลาง 16 สำหรับหลากหลายเหตุผล ในหมู่เหล่านี้ เพิ่มขึ้นในประชากรทำให้แนวโน้มของราชการอาชีพน้อยกว่ามีแนวโน้มในปีก่อนหน้า นอกจากนี้ เป็นขุนนาง yangban matured ในความเข้าใจของ Neo Confucianism พวกเขาโตขึ้นงานคุณภาพและชนิดของคำที่พวกเขาชื่นชอบแทนบุตรของตน ดัง ทหาร Confucian ส่วนตัว (กีเซียววอน) ค่อย ๆ supplanted hyanggyos และกลายเป็น ตั๋วเย็บกระดาษรูปชีวิตชนบทจนกระทั่งสิ้นสุดราชวงศ์Neo Confucianism แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรม paradigms ใหม่ Jaesil หรือตระกูลเมมโมเรียลฮอลล์ กลายเป็นในหลายหมู่บ้านที่ครอบครัวเกร็งสำหรับ veneration ทั่วไปของบรรพบุรุษที่ห่างไกล Jongmyo หรือศาลเจ้าเมโมเรียล ได้ก่อตั้ง โดยรัฐบาลที่ระลึกพิเศษกระทำความยำเกรง filial หรือความจงรักภักดี นอกเหนือจากบุคลิกสากลเหล่านี้ แม้แต่ความสวยงามของนีโอ-Confucianism ที่ชื่นชอบปฏิบัติจริง frugality และกลมกลืนกับธรรมชาติ ปลอมสถาปัตยกรรมสอดคล้องกันทั่วทั้งสังคมเกาหลีกำแพงเมืองมีชื่อเสียงมากที่สุดอยู่ที่โซลและซูวอน ใจหินผนัง 1396 สร้าง และสร้างในค.ศ. 1422 ถูกสิบหกกิโลเมตร (เฉพาะร่องรอยอยู่ปัจจุบัน) และมีประตูแปด (รวมถึงนัมแดมุน ประตูใต้); กำแพงเมืองของซูวอน เสร็จสิ้น 1796 ถูกแบบของวิธีการก่อสร้างในเอเชียในขณะนั้น จะได้รับประโยชน์จากอิทธิพลตะวันตกและเทคนิค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โชซอน (โชซอน) ราชวงศ์ (1392-1910) สถาปัตยกรรมสื่อที่เกี่ยวข้องกับสถาปัตยกรรมของราชวงศ์โชซอนที่วิกิพีเดียดูเพิ่มเติม: โชซอน (โชซอน) สถาปัตยกรรมราชวงศ์; และห้าพระราชวังแกรนด์. Donggwoldo, ภูมิทัศน์ของบริเวณที่กว้างขวางครั้งหนึ่งของพระราชวังเป็นมรดกโลกและ Changgyeong พระราชวัง Painted ค 1830 โชซอน (โชซอน) สถาปัตยกรรมถูกกำหนดให้เป็นจากศตวรรษที่ 14 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 ที่ตั้งของราชวงศ์โชซอนใน 1392 นำมาสู่อำนาจคนที่มีใจเดียวกันแพร่หลายในหลักคำสอนของขงจื้อนีโอซึ่งได้กระจายช้าลงในเกาหลีจากประเทศจีนในศตวรรษที่ 14 นี้ ushered ในสภาพแวดล้อมใหม่ที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับพระพุทธศาสนาที่ก่อให้เกิดรัฐที่จะค่อยๆเปลี่ยนการอุปถัมภ์จากวัดทางพุทธศาสนากับสถาบันขงจื้อ ตลอดราชวงศ์ต้นแรงผลักดันที่จะปฏิรูปสังคมตามแนวนีโอขงจื้อนำไปสู่การสร้าง hyanggyo (โรงเรียนในท้องถิ่น) ในกรุงโซลและเมืองจังหวัดจำนวนมาก นี่คือบุตรชายของขุนนางที่เตรียมไว้สำหรับการประกอบอาชีพข้าราชการพลเรือนในบรรยากาศของการเรียนรู้ของขงจื้อ แม้ว่าสถาบันเหล่านี้ต้องทนผ่านปลายราชวงศ์ที่พวกเขาเริ่มที่จะขาดการสนับสนุนในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 สำหรับความหลากหลายของเหตุผล กลุ่มคนเหล่านี้เพิ่มขึ้นในประชากรที่ทำให้มันเป็นโอกาสของอาชีพบริการประชามีโอกาสน้อยกว่าในปีก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ในฐานะขุนนาง Yangban ครบกำหนดในการทำความเข้าใจของ Neo-ขงจื้อพวกเขาเติบโตมากขึ้นในการเลือกที่มีคุณภาพและชนิดของการเรียนการสอนที่พวกเขาได้รับการสนับสนุนสำหรับลูกชายของเขา เป็นผลให้สถาบันขงจื้อเอกชน (Seowon) ค่อยๆแทนที่ hyanggyos และกลายเป็นแก่นของชีวิตชนชั้นสูงในชนบทจนกว่าจะสิ้นสุดของราชวงศ์. Neo-ขงจื้อเป็นแรงบันดาลใจกระบวนทัศน์สถาปัตยกรรมใหม่ Jaesil หรือห้องโถงที่ระลึกตระกูลกลายเป็นเรื่องธรรมดาในหลายหมู่บ้านที่ครอบครัวขยายสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเลื่อมใสทั่วไปของบรรพบุรุษที่ห่างไกล จองเมียวหรือที่ระลึกบูชาที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลเพื่อเป็นการระลึกถึงการกระทำที่โดดเด่นของลูกกตัญญูหรือความจงรักภักดี แม้เกินต้นแบบเหล่านี้ความสวยงามของ Neo-ขงจื้อซึ่งได้รับการสนับสนุนการปฏิบัติจริงความประหยัดและความกลมกลืนกับธรรมชาติปลอมรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สอดคล้องกันทั่วทั้งสังคมเกาหลี. กำแพงเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือผู้ที่กรุงโซลและซูวอน กำแพงหินของเงินทุนที่สร้างขึ้นใน 1396 และสร้างใหม่ใน 1422, อายุสิบหกกิโลเมตรยาว (เพียงร่องรอยยังคงอยู่ในปัจจุบัน) และมีแปดประตู (รวมถึงนัมแดมุใต้ประตู); กำแพงเมืองซูวอนเสร็จสมบูรณ์ในปี 1796 เป็นรูปแบบของวิธีการก่อสร้างในเอเชียในเวลานั้นขณะที่มันได้รับประโยชน์จากอิทธิพลตะวันตกและเทคนิค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โชซอน ( chos korea . kgm ) ราชวงศ์ ( 1392-1910 ) สถาปัตยกรรม

สื่อที่เกี่ยวข้องกับสถาปัตยกรรมของราชวงศ์โชซอนที่วิกิมีเดียคอมมอนส์
ดูซอน chos korea . kgm ) สถาปัตยกรรมราชวงศ์ และกรดไขมัน

donggwoldo , ภูมิทัศน์ของพื้นที่ของ changdeok อีกครั้งอย่างละเอียด พระราชวังมรดกโลกและ changgyeong Palace ทาสี C
1830โชซอน ( chos korea . kgm ) สถาปัตยกรรม หมายถึง จากศตวรรษที่ 14 ที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษ 20 ผู้ก่อตั้งของราชวงศ์โซซอน ใน 397 นำอำนาจพบปะผู้ชายแพร่หลายในคำสอนของลัทธิขงจื้อใหม่ ซึ่งต้องค่อยๆ น้ำเสียในเกาหลีจากประเทศจีนในศตวรรษที่ 14 นี้ ushered ในสภาพแวดล้อมใหม่ที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับพระพุทธศาสนาทำให้รัฐต้องค่อยๆเปลี่ยนความอุปถัมภ์จากวัดพุทธ ของสถาบัน ตลอดราชวงศ์ก่อน แรงผลักดันที่จะปฏิรูปสังคมขงจื้อสาย LED ตามนีโอเพื่อการก่อสร้าง hyanggyo ( โรงเรียนท้องถิ่น ) ในกรุงโซลและเมืองจังหวัดมากมาย ที่นี่ บุตรชายของขุนนางข้าราชการเตรียมสำหรับอาชีพในบรรยากาศของการเรียนรู้แม้ว่าสถาบันเหล่านี้ต้องผ่านการสิ้นสุดของราชวงศ์ พวกเขาเริ่มที่จะหลุดออกจากความโปรดปรานในศตวรรษที่ mid-16th สำหรับหลากหลายเหตุผล ระหว่างนี้ เพิ่มขึ้นในประชากร ทำให้โอกาสของอาชีพราชการน่าจะน้อยกว่าปีก่อนหน้านี้ . ยังเป็นผู้ดีชนชั้นสูง matured ในความเข้าใจของ นีโอ ขงจื้อ