ผลกระทบจากภาวะซึมเศร้าที่มีต่อลูกในครรภ์ คุณแม่ที่มีอาการซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์อาจจะส่งผลให้ทารกมีปัญหาทางด้านพัฒนาการทางความคิด ความเข้าใจช้ากว่าปกติ และหากอาการซึมเศร้าเรื้อรังจนถึงหลังคลอด ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ 50 เปอร์เซ็นต์ มีนักวิจัยจาก 2 สถาบันคือ มหาวิทยาลัยเวสต์ ออฟ อิงแลนด์ และมหาวิทยาลัยบริสตอลทำการศึกษาประวัติของแม่กว่า 11,000 คนและลูกของกลุ่มตัวอย่าง โดยประเมินอาการซึมเศร้าของผู้เป็นมารดาในระหว่าง 18-32 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ และประเมินอีกครั้งเมื่อทารกคลอดออกมาได้ 8 สัปดาห์ และ 8 เดือน ส่วนทารกนั้นจะถูกทดสอบพัฒนาการสำคัญ เช่น การทำงานประสานกันระหว่างตากับมือ การหยิบจับของเล็กๆ และการรับรู้หรือใช้ภาษา เมื่ออายุ 18 เดือนแล้ว ดร. ทอยตี้ ดีฟ นักวิจัยของศูนย์สุขภาพเด็กและวัยรุ่น มหาวิทยาลัยเวสต์ ออฟ อิงแลนด์ กล่าวว่า การศึกษาครั้งนี้พบอยู่ 2 ประเด็นสำคัญ คือ ประเด็นที่หนึ่ง พบว่าอาการซึมเศร้าก่อนคลอดของแม่ส่งผลลบต่อพัฒนาการทางความคิดของเด็ก ส่วนอีกประเด็นคือ ความเรื้อรังและระดับความรุนแรงของอาการซึมเศร้าก่อนคลอด เป็นปัจจัยที่มีผลสำหรับเด็กอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีผลการศึกษาที่ยืนยันว่า ผู้หญิงที่มีอาการซึมเศร้าเรื้อรังระหว่างตั้งครรภ์มีโอกาสมากถึง 50% ที่ลูกจะมีปัญหาพัฒนาการทางความคิดและพฤติกรรม ความเสี่ยงบางอย่างเกิดขึ้นจากข้อเท็จจริงที่ว่า อาการซึมเศร้าระหว่างตั้งท้องมีโอกาสมากขึ้นที่จะเรื้อรังแม้หลังจากคลอดบุตรแล้วก็ตาม ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่รู้กันดีว่าทำให้ทารกมีพัฒนาการช้ากว่าปกติ ดังนั้น แพทย์และพยาบาลจึงควรมีบทบาทสำคัญในการประเมินและระบุอาการของมารดาเพื่อหาทางบำบัดต่อไป