Proline is one of the most importan

Proline is one of the most important osmolytes that accumulate
in plants experiencing drought stress (Yoshiba et al., 1997;
Verbruggen and Hermans, 2008; Farooq et al., 2009; Huang
et al., 2014). Apart from acting as an osmolyte for osmotic
adjustment, proline contributes to stabilizing sub-cellular structures
(e.g. proteins and membranes), scavenging free radicals and
buffering cellular redox potential (Ashraf and Foolad, 2007; Hayat
et al., 2012). In many plants, an increase in proline levels under
drought stress has been correlated with drought tolerance (Sankar
et al., 2007). For example, proline content increased under drought
stress in pea (Pisum sativum L.) (Alexieva et al., 2001), chickpea
(Cicer arietinum L.) (Mafakheri et al., 2010), rice (Oryza sativa L.)
(Lum et al., 2014), and soybean (Silvente et al., 2012). These studies
indicate that plants with increased levels of proline would be
better able to tolerate drought stress.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Proline เป็น osmolytes สำคัญที่สุดที่สะสมอย่างใดอย่างหนึ่งในพืชที่ประสบปัญหาเรื่องภัยแล้งความเครียด (Yoshiba et al. 1997Verbruggen และ Hermans, 2008 สิ่งอำนวยความสะดวก et al. 2009 หวงet al. 2014) นอกจากทำหน้าที่เป็นตัว osmolyte สำหรับการออสโมติกการปรับปรุง proline ก่อให้เกิดเสถียรภาพโครงสร้างของเซลล์ย่อย(เช่นโปรตีนและเยื่อ), ขับอนุมูล และการกำหนดบัฟเฟอร์ศักยภาพเซลล์ redox (Ashraf และ Foolad, 2007 รเวลet al. 2012) ในพืช การเพิ่มขึ้นของระดับ proline ภายใต้ความเครียดภัยแล้งได้รับมีความสัมพันธ์กับทนแล้ง (Sankaret al. 2007) ตัวอย่างเช่น proline เนื้อหาเพิ่มขึ้นภายใต้ภัยแล้งความเครียดในถั่ว (ลันเตา L.) (Alexieva et al. 2001), แกง(Cicer arietinum L.) (Mafakheri et al. 2010), ข้าว (Oryza sativa L.)(Lum et al. 2014), และถั่วเหลือง (Silvente et al. 2012) การศึกษาเหล่านี้บ่งชี้ว่า จะเป็นพืชที่มีระดับเพิ่มขึ้นเป็นได้ดีสามารถทนความเครียดภัยแล้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โพรลีนเป็นหนึ่งใน osmolytes ที่สำคัญที่สุดที่สะสม
ในพืชประสบภัยแล้งความเครียด (Yoshiba, et al, 1997;.
Verbruggen และ Hermans 2008; Farooq et al, 2009;. Huang
et al, 2014). นอกเหนือจากการทำหน้าที่เป็น osmolyte สำหรับออสโมติก
ปรับโพรลีนมีส่วนช่วยในการรักษาเสถียรภาพของโครงสร้างย่อยโทรศัพท์มือถือ
(เช่นโปรตีนและเยื่อ) ขับอนุมูลอิสระและ
บัฟเฟอร์อกซ์ที่มีศักยภาพโทรศัพท์มือถือ (รัฟและ Foolad 2007; Hayat
, et al, 2012). ในพืชหลายชนิดที่เพิ่มขึ้นในระดับโพรลีนภายใต้
ความเครียดภัยแล้งได้รับความสัมพันธ์กับการทนแล้ง (Sankar
et al., 2007) ยกตัวอย่างเช่นเนื้อหาโพรลีนเพิ่มขึ้นภายใต้ภัยแล้ง
ความเครียดในกฟภ. (pisum sativum L. ) (Alexieva et al., 2001), ถั่วเขียว
(Cicer arietinum L. ) (Mafakheri et al., 2010) ข้าว (Oryza sativa L. )
( ลุม et al., 2014) และถั่วเหลือง (Silvente et al., 2012) การศึกษาเหล่านี้
แสดงให้เห็นว่าพืชที่มีระดับที่เพิ่มขึ้นของโพรลีนจะ
ดีขึ้นสามารถที่จะทนต่อความเครียดภัยแล้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โพรลีนเป็นหนึ่งในที่สำคัญที่สุด osmolytes ที่สะสมในพืชที่ประสบปัญหาแล้ง ( yoshiba et al . , 1997 ;และ verbruggen เ ร์มันส์ , 2008 ; ฟา et al . , 2009 ; หวงet al . , 2010 ) นอกจากทำตัวเป็น osmolyte สำหรับออสโมซิสการปรับ , การก่อให้เกิดเสถียรภาพโครงสร้างย่อยของเซลล์( เช่นโปรตีนและเยื่อ ) , scavenging อนุมูลอิสระและการป้องกันโทรศัพท์มือถือและศักยภาพรีดอกซ์ ( Ashraf foolad , 2007 ; hayatet al . , 2012 ) ในพืชหลายชนิด เพิ่มขึ้นในระดับภายใต้โพรลีนมีความสัมพันธ์กับภาวะแล้งทนแล้ง ( ซังการ์et al . , 2007 ) ตัวอย่างเช่น การเพิ่มปริมาณภายใต้ความแห้งแล้งความเครียดในถั่ว ( pisum sativum L . ) ( alexieva et al . , 2001 ) , ถั่วเขียว( cicer arietinum L . ) ( mafakheri et al . , 2010 ) ข้าว ( Oryza sativa L . )( ลัม et al . , 2010 ) และ ถั่วเหลือง ( silvente et al . , 2012 ) การศึกษาเหล่านี้พบว่าพืชที่มีระดับที่เพิ่มขึ้นของการจะเป็นดีสามารถทนแล้ง .