Abstract (summary)This descriptive

Abstract (summary)
This descriptive study examined the understanding of ethical principles by educational leaders as they relate to their professional actions in the decision-making process when faced with ethical dilemmas. School leaders' decision making was studied within the framework of four paradigms: ethic of justice, ethic of critique, ethic of care, and professional ethics. The Interstate School Leaders Licensure Consortium standard of 1996 suggesting that a school administrator is an educational leader who promotes the success of all students by acting with integrity, fairness, and in an ethical manner was the impetus for this study. To meet this standard, an administrator must (a) possess a knowledge and understanding of the various ethical frameworks and perspectives on ethics; (b) have knowledge and understanding of professional codes of ethics; (c) believe in, value, and be committed to bringing ethical principles to the decision-making process; and (d) believe, in, value, and be committed to developing a caring school community. The study explored theories of several writers indicating different factors impacting the ethical principles used by decision makers. These factors included gender, age, years of experience, the grade level of the principalship, and professional affiliations. Educational leaders who may be impacted by these standards were asked to participate in this study. A proportional random stratified sample of subjects was identified to respond to an ethics orientation self-test developed by Ronald Rebore.
Findings in this study did not support theories that females use different principles than males in resolving ethical dilemmas. Educational leaders did not respond in different ways to the ethics orientation self-test based on age. No findings emerged indicating differences in responses based on the years of experience of the respondents. The grade level of principalship of the respondent (Elementary, Middle, or High School) did not affect the application of principles in decision-making. Members and non-members of state affiliated associations did not show differences in their understanding of ethical principles as related to their professional actions. Although results of the study indicate no differences in the responses by subgroups, the data gathered from the 162 ethics orientation self-tests returned did support the existence of a socialized bureaucracy in education that affects decision-making.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อ (สรุป)ศึกษาอธิบายตรวจสอบความเข้าใจหลักจริยธรรมโดยผู้นำทางการศึกษาเกี่ยวข้องกับการกระทำของมืออาชีพในการตัดสินใจเมื่อประสบกับ dilemmas จริยธรรม ตัดสินใจของผู้นำโรงเรียนที่ศึกษาภายใต้กรอบของ paradigms สี่: ความยุติธรรมจริยธรรม จริยธรรมของวิจารณ์ จริยธรรมของ และจรรยาบรรณวิชาชีพ มาตรฐานอินเตอร์สเตตโรงเรียนผู้นำ Licensure Consortium 1996 แนะนำว่าผู้ดูแลระบบโรงเรียนผู้นำการศึกษาที่ส่งเสริมความสำเร็จของนักเรียนทั้งหมด โดยทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ ยุติธรรม และอย่างมีจริยธรรมเป็นแรงผลักดันสำหรับการศึกษานี้ ผู้ดูแลระบบต้องการตามมาตรฐานนี้ (a) มีความรู้และความเข้าใจในกรอบจริยธรรมต่าง ๆ และมุมมองเกี่ยวกับจริยธรรม (ข) มีความรู้ความเข้าใจของมืออาชีพรหัสของจริยธรรม (c) เชื่อใน มูลค่า และจะมุ่งมั่นที่จะนำหลักจริยธรรมการตัดสินใจ และ (d) เชื่อ ใน มูลค่า และจะมุ่งมั่นที่จะพัฒนาชุมชนโรงเรียนแห่งนี้ การศึกษาสำรวจทฤษฎีของนักเขียนหลายที่บ่งชี้ถึงหลักจริยธรรมที่ผู้ตัดสินใจใช้ปัจจัยต่าง ๆ ปัจจัยเหล่านี้รวมเพศ อายุ ประสบการณ์ ระดับชั้นการศึกษาของ principalship และการเป็นพันธมิตรมืออาชีพ ผู้นำทางการศึกษาที่อาจได้รับผลกระทบ โดยมาตรฐานเหล่านี้ได้ต้องมีส่วนร่วมในการศึกษานี้ ตัวอย่างสุ่ม stratified สัดส่วนของเรื่องที่ระบุเพื่อตอบสนองต่อการปฐมนิเทศจริยธรรมที่ทดสอบโดยโรนัลด์ Reboreค้นพบในการศึกษานี้ไม่ได้สนับสนุนทฤษฎีที่ว่า หญิงใช้หลักการแตกต่างกว่าผู้ชายในการแก้ปัญหาจริยธรรม dilemmas ผู้นำทางการศึกษาไม่ตอบสนองด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อวางแนวจริยธรรมตนเองทดสอบตามอายุ ไม่พบเกิดบ่งบอกความแตกต่างในการตอบสนองขึ้นอยู่กับปีของประสบการณ์ของผู้ตอบ ระดับชั้นการศึกษาของ principalship ของผู้ตอบ (ประถม กลาง หรือมัธยม) ไม่มีผลต่อการประยุกต์ใช้หลักการตัดสินใจ สมาชิกและไม่ใช่สมาชิกของสมาคมในเครือได้แสดงความแตกต่างในความเข้าใจของหลักจริยธรรมเป็นรัฐที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของมืออาชีพ แม้ว่าผลการศึกษาบ่งชี้ว่า ไม่มีความแตกต่างในการตอบสนอง โดยย่อย ข้อมูลที่รวบรวมจาก 162 จริยธรรมแนวทดสอบตนเองกลับไม่สนับสนุนการดำรงอยู่ของระบบราชการที่จำเป็นครบครันในการศึกษาที่มีผลต่อการตัดสินใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อ ( สรุป )
การศึกษานี้ตรวจสอบความเข้าใจของหลักการทางจริยธรรมของผู้นำทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของพวกเขาเป็นมืออาชีพในกระบวนการการตัดสินใจ เมื่อเผชิญกับประเด็นขัดแย้งทางจริยธรรม . การตัดสินใจของผู้นำโรงเรียนศึกษาภายในกรอบสี่กระบวนทัศน์ : จริยธรรมความยุติธรรม จริยธรรมของการวิจารณ์ สังคมของการดูแล และจรรยาบรรณวิชาชีพรัฐผู้นำโรงเรียนอนุญาตสมาคมมาตรฐานของปี 1996 กล่าวว่า ผู้บริหารโรงเรียนมีการศึกษา ผู้นำที่ส่งเสริมความสำเร็จของนักเรียนทั้งหมด โดยทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ ยุติธรรม และมีจริยธรรมเป็นแรงผลักดันสำหรับการศึกษานี้ ไปตามมาตรฐานนี้ผู้ดูแลระบบต้อง ( ) มีความรู้ความเข้าใจในกรอบจริยธรรมและจริยธรรมในมุมมองต่าง ๆ ; ( b ) มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรหัสอาชีพของจริยธรรม ; ( c ) เชื่อในคุณค่า และมุ่งมั่นที่จะนำหลักจริยธรรมในการตัดสินใจ และ ( d ) เชื่อว่า ในมูลค่า มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและดูแลชุมชนโรงเรียนการศึกษาสำรวจทฤษฎีของนักเขียนหลายที่ระบุปัจจัยต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อหลักจริยธรรมที่ใช้โดยผู้ตัดสินใจ ปัจจัยเหล่านี้ ได้แก่ เพศ อายุ ประสบการณ์ ระดับเกรดของ principalship และความผูกพันของมืออาชีพ ผู้นำทางการศึกษา ที่อาจได้รับผลกระทบ โดยมาตรฐานเหล่านี้ถูกขอให้เข้าร่วมในการศึกษานี้ตัวอย่างสุ่มแบ่งชั้น ตามสัดส่วนของกลุ่มตัวอย่างที่ถูกระบุว่า เพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาจริยธรรมปฐมนิเทศการทดสอบตัวเองโดยโรนัลด์รีบอร์ .
ข้อมูลในการศึกษานี้ไม่สนับสนุนทฤษฎี หลักการต่าง ๆที่ผู้หญิงใช้มากกว่าผู้ชายในการแก้ไขประเด็นขัดแย้งทางจริยธรรม . ผู้นำทางการศึกษาไม่ตอบสนองในรูปแบบที่แตกต่างกันเพื่อจริยธรรมปฐมนิเทศการทดสอบตัวเองตามอายุไม่พบความแตกต่างในการชุมนุมแสดงตามปีของประสบการณ์ของผู้ตอบแบบสอบถาม ระดับเกรดของ principalship ของผู้ตอบ ( ประถม , กลาง , หรือโรงเรียนมัธยม ) ไม่มีผลต่อการประยุกต์ใช้หลักการในการตัดสินใจสมาชิกและไม่เป็นสมาชิกของสมาคมในเครือรัฐไม่แสดงความแตกต่างในความเข้าใจของหลักการทางจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของอาชีพของพวกเขา แม้ว่าผลการศึกษาระบุว่า ไม่มีความแตกต่างในการตอบสนองโดยกลุ่มย่อยข้อมูลที่รวบรวมจากการสอบกลับได้ 162 จริยธรรมด้วยตนเองสนับสนุนการดำรงอยู่ของสังคมราชการในการศึกษาที่มีผลต่อการตัดสินใจ