3.4. Effects of growing conditions

3.4. Effects of growing conditions in season 1 on bud fertility in season 2
3.4.1. Evidence for a critical period just after grapevine flowering in season 1
Assuming that grapevine water status influenced bud fertility during specific periods of sensitivity during inflorescence development, we regressed bud fertility on FTSW for various hypothetical time periods (Fig. 1A). The maximum value of r2 was reached during the 500–600◦Cd period after bud burst in season 1 (r2= 0.7), the p-value being the most significant at the same time (p = 0.005). At that time in season 1, FTSW reduced bud fertility in season 2 (Fig. 1B). Although this period appeared to be the most critical one, the preceding and succeeding periods were also sensitive, and a general sensitive period could be defined from 400 to 700◦Cdafter budburst. This was confirmed by the fact that bud fertility in season 2 was well and better correlated with LNC and predawn at flowering in season 1 (Fig. 2A and B) than at flowering in season 2(Fig. 2E and F). This holds true for both cultivars in Experiments 1 and 2
3.4.2. Bud fertility in season 2 may be reduced by up to 40% by grapevine water and nitrogen status at flowering in season 1For both cultivars, inverse relationships were found between bud fertility in season 2 and LNC and predawn at flowering in season 1 (Fig. 2A and B). For Shiraz, bud fertility ranged between 1.31 and2.05: a decrease in LNC or predawn at flowering in season 1 might reduce bud fertility in season 2 by up to 36%. This reduction could reach 40% for Aranel as its bud fertility ranged from 1.34 to 2.21.
3.4.3. Water or nitrogen: which is the more limiting factor? Shiraz and Aranel displayed important differences with respect to the effects of water and nitrogen on bud fertility (Fig. 3).For Aranel the grapevine nitrogen status at flowering of season 1 explained most (60%) of the variation in season 2 bud fertility, whereas for Shiraz the water status at flowering in season 1 explained most (50%) of the variation in season 2 bud fertility.3.5. Effects of growing conditions in season 1 on berry number per bunch in season 23.5.1. Evidence for a critical period just after grapevine flowering in season 1 The analysis of various possible time periods for the effects of FTSW on berry number per bunch revealed a sensitive period from 400 to 700◦Cd after bud burst in season 1 with a critical period between 500 and 600◦Cd (Fig. 1B) during which the maxi-mum value of r2(r2= 0.54) and the lowest p-value (p = 0.024) were reached (Fig. 1D). As for bud fertility, relationships between berry number per bunch of season 2 and LNC and predawn were better when LNC and predawn were measured at flowering of season 1 than at flowering of season 2 (Fig. 2E and F). And this holds true for both cultivars in the two experiments.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.4. ผลของเงื่อนไขการเติบโตในฤดูกาลที่ 1 ในบัดความอุดมสมบูรณ์ในฤดูกาลที่ 23.4.1. หลักฐานในช่วงวิกฤติหลัง grapevine เวอร์ริ่งในฤดูกาลที่ 1สมมติว่าสถานะน้ำ grapevine อิทธิพลอุดมสมบูรณ์บัดในระหว่างรอบระยะเวลาของความไวในระหว่างการพัฒนา inflorescence เรามีความอุดมสมบูรณ์ของดอกตูมบน FTSW สำหรับรอบระยะเวลาสมมุติต่าง ๆ (Fig. 1A) ค่าสูงสุดของ r2 ครบช่วง 500 – 600◦Cd หลังจากดอกตูมออกมาในฤดูกาลที่ 1 (r2 = 0.7), p-ค่าสำคัญที่สุดในเวลาเดียวกัน (p = 0.005) ในขณะที่ในฤดูกาลที่ 1, FTSW ลดลงบัดความอุดมสมบูรณ์ในฤดูกาลที่ 2 (Fig. 1B) แม้ว่าช่วงนี้ดูเหมือนจะ เป็นหนึ่งสำคัญที่สุด ยังมีรอบระยะเวลาก่อนหน้า และถัดไปสำคัญ และระยะสำคัญทั่วไปอาจจะกำหนดจาก 400 700◦Cdafter budburst นี้ได้รับการยืนยันความจริงที่ว่า correlated บัดความอุดมสมบูรณ์ในฤดูกาลที่ 2 ได้ดี และดีกับ LNC และ predawn ที่ดอกไม้ในฤดูกาลที่ 1 (Fig. 2A และ B) กว่าที่ดอกไม้ในฤดูกาลที่ 2 (Fig. 2E และ F) นี้ถือจริงสำหรับทั้งสองพันธุ์ในการทดลองที่ 1 และ 23.4.2 การบัดความอุดมสมบูรณ์ในฤดูกาลที่ 2 อาจลดลงถึง 40% โดย grapevine น้ำและไนโตรเจนสถานะที่เวอร์ริ่งในฤดู 1For ทั้งพันธุ์ ความสัมพันธ์ที่ผกผันพบระหว่างบัดความอุดมสมบูรณ์ในฤดูกาลที่ 2 และ LNC และ predawn ที่ดอกไม้ในฤดูกาลที่ 1 (Fig. 2A และ B) ความอุดมสมบูรณ์อยู่ในช่วงระหว่าง 1.31 and2.05 สำหรับชีราซ บัด: LNC หรือ predawn ที่ดอกไม้ในฤดูกาลที่ 1 ลดลงอาจลดดอกตูมความอุดมสมบูรณ์ในฤดูกาลที่ 2 ได้ถึง 36% ได้ ที่ลดลงนี้สามารถเข้าถึง 40% สำหรับ Aranel เป็นความอุดมสมบูรณ์ของดอกตูมที่อยู่ในช่วงจาก 1.34 ถึง 2.213.4.3. น้ำ หรือไนโตรเจน: ซึ่งเป็นตัวจำกัดมากขึ้น ชีราซและ Aranel แสดงความแตกต่างที่สำคัญเกี่ยวกับผลกระทบของน้ำและไนโตรเจนในความอุดมสมบูรณ์บัด (Fig. 3)สำหรับไนโตรเจน grapevine Aranel สถานะที่ดอกไม้ของฤดูกาลที่ 1 อธิบายส่วนใหญ่ (60%) ของการเปลี่ยนแปลงในฤดูกาลที่ 2 บัดความอุดมสมบูรณ์ ในขณะที่สำหรับชีราซน้ำ สถานะที่ดอกไม้ในฤดูกาลที่ 1 อธิบายส่วนใหญ่ (50%) ของการเปลี่ยนแปลงในฤดูกาลที่ 2 บัด fertility.3.5 ผลของเงื่อนไขการเติบโตในฤดูกาลที่ 1 กับเลขเบอร์รี่ต่อพวงในฤดู 23.5.1 หลักฐานในช่วงวิกฤติหลัง grapevine เวอร์ริ่งในฤดูกาลที่ 1 การวิเคราะห์ระยะเวลาต่าง ๆ สำหรับลักษณะพิเศษของ FTSW เบอร์รี่จำนวนต่อพวงเปิดเผยจุดสำคัญจากการ 700◦Cd หลังจากดอกตูมออกมาในฤดูกาลที่ 1 กับช่วงวิกฤติระหว่าง 500 และ 600◦Cd (Fig. 1B) ซึ่งค่าแม็กซี่สี่มุมของ r2(r2= 0.54) และ p-ค่าต่ำสุด (p = 0.024) ได้ถึง (Fig. 1D) ส่วนดอกตูมความอุดมสมบูรณ์ ความสัมพันธ์ระหว่างเบอร์รี่หมายเลขต่อพวงของฤดูกาลที่ 2 และ LNC และ predawn มีดีเมื่อ LNC และ predawn ได้ที่วัดดอกไม้ของฤดูกาลที่ 1 กว่าที่ดอกไม้ของฤดูกาลที่ 2 (Fig. 2E และ F) และนี้ถือจริงสำหรับทั้งสองพันธุ์ในการทดลอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.4 ผลของสภาพการเจริญเติบโตใน 1 ฤดูกาลในความอุดมสมบูรณ์ของตาใน 2 ฤดูกาล
3.4.1 หลักฐานสำหรับช่วงเวลาที่สำคัญเพียงแค่หลังดอกบานองุ่นในช่วงฤดู ​​1
สมมติว่าสถานะของน้ำองุ่นอิทธิพลความอุดมสมบูรณ์ของตาในช่วงระยะเวลาที่เฉพาะเจาะจงของความไวในระหว่างการพัฒนาช่อดอกเราถดถอยตาอุดมสมบูรณ์ใน FTSW สำหรับช่วงเวลาสมมุติต่างๆ (รูป. 1A) ค่าสูงสุดของ r2 ก็มาถึงในช่วงระยะเวลาหลังจาก500-600◦Cdตาออกมาในฤดูกาลที่ 1 (r2 = 0.7), p-value เป็นที่สำคัญที่สุดในเวลาเดียวกัน (p = 0.005) ในขณะที่ในรุ่น 1 FTSW ลดความอุดมสมบูรณ์ของตาในฤดูกาลที่ 2 (รูป. 1B) แม้ว่าช่วงนี้ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งที่สำคัญที่สุดที่ระยะเวลาก่อนหน้านี้และประสบความสำเร็จก็มีความสำคัญและเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญโดยทั่วไปอาจจะหมายจาก 400 ถึง700◦Cdafter budburst นี่คือคำยืนยันจากข้อเท็จจริงที่ว่าแตกหน่อความอุดมสมบูรณ์ใน 2 ฤดูกาลได้ดีขึ้นและดีขึ้นมีความสัมพันธ์กับ LNC และยามเช้าตรู่ที่ออกดอกในช่วงฤดู ​​1 (รูป. 2A และ B) กว่าที่ออกดอกใน 2 ฤดูกาล (รูป. 2E และ F) นี้ถือเป็นจริงสำหรับสายพันธุ์ทั้งในการทดลองที่ 1 และ 2
3.4.2 ความอุดมสมบูรณ์ของหน่อใน 2 ฤดูกาลอาจจะลดลงได้ถึง 40% ด้วยน้ำองุ่นและสถานะไนโตรเจนที่ออกดอกในช่วงฤดู ​​1For พันธุ์ทั้งความสัมพันธ์ผกผันของเขาถูกพบระหว่างความอุดมสมบูรณ์ของตาในฤดูกาลที่ 2 และ LNC และยามเช้าตรู่ที่ออกดอกในช่วงฤดู ​​1 (รูป. 2A และ B) สำหรับชีตาอุดมสมบูรณ์อยู่ระหว่าง 1.31 and2.05: ลดลง LNC หรือยามเช้าตรู่ที่ออกดอกในช่วงฤดู ​​1 อาจลดความอุดมสมบูรณ์ของตาในฤดูกาลที่ 2 ได้ถึง 36% การลดลงนี้จะไปถึง 40% สำหรับ Aranel เป็นความอุดมสมบูรณ์หน่อของมันอยู่ในช่วง 1.34-2.21.
3.4.3 น้ำหรือไนโตรเจนซึ่งเป็นปัจจัย จำกัด มากขึ้น? ชีราซและ Aranel แสดงแตกต่างที่สำคัญที่เกี่ยวกับผลกระทบของน้ำและไนโตรเจนในความอุดมสมบูรณ์ของตา (รูปที่. 3) ตัวอย่าง Aranel สถานะไนโตรเจนองุ่นที่ออกดอกของฤดูกาลที่ 1 อธิบายมากที่สุด (60%) ของการเปลี่ยนแปลงในฤดูกาลที่ 2 ความอุดมสมบูรณ์ตา ในขณะที่สำหรับสถานะชีน้ำที่ออกดอกในช่วงฤดู ​​1 อธิบายมากที่สุด (50%) ของการเปลี่ยนแปลงในฤดูกาลที่ 2 ตา fertility.3.5 ผลของสภาพการเจริญเติบโตใน 1 ฤดูกาลกับจำนวนผลไม้เล็ก ๆ ต่อพวงในช่วงฤดู ​​23.5.1 หลักฐานสำหรับช่วงเวลาที่สำคัญเพียงแค่หลังดอกบานองุ่นใน 1 ฤดูกาลวิเคราะห์ช่วงเวลาที่เป็นไปได้ต่างๆสำหรับผลกระทบของ FTSW กับจำนวนผลไม้เล็ก ๆ ต่อเครือเปิดเผยในช่วงเวลาที่สำคัญจาก 400 ถึง700◦Cdหลังจากที่ตาออกมาใน 1 ฤดูกาลกับช่วงเวลาที่สำคัญระหว่าง 500 และ600◦Cd (รูปที่ 1B.) ในระหว่างที่ค่าแมกซี่แม่ของ r2 (r2 = 0.54) และต่ำสุด p-value (p = 0.024) ก็มาถึง (รูป. 1D) สำหรับความอุดมสมบูรณ์ตา, ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนผลไม้เล็ก ๆ ต่อเครือของฤดูกาลที่ 2 และ LNC และยามเช้าตรู่ได้ดีเมื่อ LNC และยามเช้าตรู่ถูกวัดที่ออกดอกของฤดูกาลที่ 1 กว่าในการออกดอกของฤดูกาลที่ 2 (รูป. 2E และ F) และนี่ถือเป็นจริงสำหรับสายพันธุ์ทั้งในทั้งสองการทดลอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.4 . ผลของเงื่อนไขที่เติบโตใน 1 ฤดูกาลใน บัด ความอุดมสมบูรณ์ในซีซั่นที่ 2
3.4.1 . หลักฐานสำหรับช่วงเวลาหลังต้นองุ่นออกดอกในฤดูที่ 1
สมมติว่าต้นองุ่นมีผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ภาวะน้ำหน่อในระหว่างรอบระยะเวลาของความไวระหว่างการพัฒนาช่อดอก เรากลับไปภาวะเจริญพันธุ์เพื่อนใน ftsw สมมุติช่วงเวลาต่างๆ ( รูปที่ 1A )คุณค่าสูงสุดของอาร์ทูได้ถึง 500 - 600 ในช่วงหลัง◦ซีดีหน่อแตกใน 1 ฤดูกาล ( R2 = 0.7 ) , และที่สำคัญที่สุดในเวลาเดียวกัน ( p = 0.005 ) ตอนนั้นในรุ่น 1 , ftsw ลดความอุดมสมบูรณ์ของหน่อในฤดูกาลที่ 2 ( รูปที่ 1A ) แม้ว่าช่วงเวลานี้ปรากฏจะวิกฤติที่สุด และช่วงก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จยังละเอียดอ่อนและทั่วไปที่มีระยะเวลาอาจจะกำหนดจาก 400 ถึง 700 ◦ cdafter budburst . นี้ได้รับการยืนยันโดยความจริงที่ว่าเพื่อนภาวะเจริญพันธุ์ใน 2 ฤดูกาลได้ดี และดีกว่า และมีความสัมพันธ์กับผู้ที่มีความต้องการทางปัญญา predawn ออกดอกในฤดูที่ 1 ( รูปที่ 2A และ b ) กว่าที่ออกดอกในฤดูกาล 2 ( รูปที่ 2 และ F ) นี้ถือเป็นจริงสำหรับทั้ง 2 พันธุ์ ในการทดลองที่ 1 และ 2
3.4.2 .บัด ความอุดมสมบูรณ์ใน 2 ฤดูกาลอาจจะลดลงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ โดยข่าวลือน้ำและไนโตรเจนสถานะที่ออกดอกในฤดูกาลเนื่องจากทั้งสองพันธุ์ความสัมพันธ์ผกผันระหว่างภาวะเจริญพันธุ์พบหน่อในซีซั่น 2 และจำกัด predawn และออกดอกในฤดูที่ 1 ( รูปที่ 2A และ B ) สำหรับ Shiraz , ความอุดมสมบูรณ์ของดอกตูมอยู่ระหว่าง 1.31 and2.05 :ลดลงในผู้ที่มีความต้องการทางปัญญาหรือ predawn ออกดอกในฤดูที่ 1 อาจจะลดความอุดมสมบูรณ์ของหน่อในฤดูกาลที่ 2 ได้ถึง 36 เปอร์เซ็นต์ ลดลงถึง 40% สำหรับราเนลเป็นดอกตูมความอุดมสมบูรณ์ระหว่าง 1.34 ถึง 2.21 .
3.4.3 . น้ำ หรือ ไนโตรเจน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยจำกัด ? และ Shiraz ราเนลแสดงความแตกต่างที่สำคัญเกี่ยวกับผลกระทบของน้ำและไนโตรเจนต่อความอุดมสมบูรณ์ของตา ( รูปที่ 3 )สำหรับราเนลต้นองุ่นออกดอกไนโตรเจนสถานะที่ 1 ฤดูกาลอธิบายมากที่สุด ( 60% ) ของการเปลี่ยนแปลงในรุ่นเจริญพันธุ์ 2 หน่อ ขณะที่ชีน้ำสถานะที่ออกดอกในฤดูที่ 1 อธิบายมากที่สุด ( 50% ) ของการเปลี่ยนแปลงในรุ่นเจริญพันธุ์ 2 หน่อ 3.5 . ผลของเงื่อนไขที่เติบโตใน 1 ฤดูกาลในเบอร์รี่เบอร์ต่อพวงในฤดูกาล 23.5.1 .หลักฐานสำหรับช่วงเวลาหลังต้นองุ่นออกดอกในฤดูที่ 1 การวิเคราะห์ต่าง ๆเป็นไปได้ เวลาผลของ ftsw หมายเลขเบอร์ต่อพวงเปิดเผยช่วงเวลาที่อ่อนไหวจาก 400 ถึง 700 ◦ซีดีหลังจากแตกหน่อแตกใน 1 ฤดูกาลกับช่วงวิกฤติระหว่าง 500 และ 600 ◦ซีดี ( รูปที่ 1A ) ในระหว่างที่แม๊ แม่ ค่า R2 ( R2 = 0.54 ) และค่าร้อยละ ( P = 0024 ) ถึง ( ภาพดี ) สำหรับความอุดมสมบูรณ์ของป๋า ความสัมพันธ์ระหว่างหมายเลขเบอร์ต่อพวงของฤดูกาลที่ 2 และผู้ที่มีความต้องการทางปัญญา predawn และดี เมื่อผู้ที่มีความต้องการทางปัญญา predawn และชนิดดอก 1 ฤดูกาลกว่าที่ออกดอกฤดูกาล 2 ( รูปที่ 2 และ F ) และนี้ถือเป็นจริงสำหรับทั้งสองพันธุ์ใน
2 การทดลอง