Research on bullying has recently b

Research on bullying has recently broadened its
scope to understand the role of morality as a factor
in relation to children’s aggressive behavior. In
particular, a series of studies have investigated the relationship
between moral disengagement and bullying
[Hymel et al., 2010].However, two notable limitations
of the extant literature were identified. First, although
Bandura [1986, 1991] identified different sets of selfjustification
mechanisms, research has traditionally
measured moral disengagement as a unidimensional
construct, with one exception [Pornari and Wood,
2010]. Second, moral disengagement has consistently
been measured as an individual factor. To date, literature
fails to provide empirical evidence investigating
the relation of class moral disengagement (i.e., moral
disengagement at the class-level) with children’s aggression
and/or bullying.
This study aims to test the relation between different
sets of mechanisms of moral disengagement and
bullying behavior among elementary-school children
at both the individual and class level. Given the pervasive
incidence of bullying across the globe and the
detrimental effects it has on children’s health andwellbeing
(for recent meta-analyses see, Gini and Pozzoli,
2009; Ttofi et al., 2011], it is crucial that we maximize
our understanding of bullying and any factor

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิจัย bullying มีให้ล่าสุดของขอบเขตการเข้าใจบทบาทของศีลธรรมเป็นตัวคูณเกี่ยวกับพฤติกรรมก้าวร้าวของเด็ก ในเฉพาะ ชุดของการศึกษาได้ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างคุณธรรม disengagement bullying[Hymel et al., 2010]อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดสำคัญและสองวรรณกรรมยังระบุ แรก แม้ว่าBandura [1986, 1991] ระบุชุด selfjustificationกลไก วิจัยมีประเพณีวัด disengagement คุณธรรมเป็นการ unidimensionalก่อสร้าง ยกเว้น [Pornari และไม้2010] disengagement สอง คุณธรรมได้อย่างสม่ำเสมอการวัดเป็นปัจจัยแต่ละตัว วันที่ วรรณคดีล้มเหลวให้ตรวจสอบหลักฐานประจักษ์ความสัมพันธ์ของคลาส disengagement คุณธรรม (เช่น คุณธรรมdisengagement ระดับชั้น) กับเด็กรุกรานหรือ bullyingการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างความแตกต่างกันชุดกลไกของ disengagement คุณธรรม และbullying พฤติกรรมเด็กนักเรียนประถมศึกษาที่บุคคลทั้งสอง และเรียนระดับ ให้ชุมชนที่ที่แพร่หลายอุบัติการณ์ของ bullying ทั่วโลกและผลผลดีมันมี andwellbeing สุขภาพเด็ก(เพื่อดูวิเคราะห์เมตาล่าสุด Gini และ Pozzoli2009 Ttofi et al., 2011], มันเป็นสิ่งสำคัญที่เราขยายเราเข้าใจของ bullying และปัจจัยใด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยเกี่ยวกับการกลั่นแกล้งนี้ได้ขยายขอบเขตของ
เข้าใจบทบาทของศีลธรรมเป็นปัจจัย
ในความสัมพันธ์กับพฤติกรรมก้าวร้าวของเด็ก ใน
โดยเฉพาะชุดของการศึกษาได้ศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณธรรมความเป็นอิสระและกลั่นแกล้ง

[ hymel et al . , 2010 ] อย่างไรก็ตาม สองข้อเด่น
ของวรรณกรรมที่ยังถูกระบุ ครั้งแรก แม้ว่า
Bandura [ 19861991 ] ระบุชุดที่แตกต่างกันของกลไก selfjustification
, วิจัยตามเนื้อผ้า
วัดเป็นแบบอย่างทางศีลธรรม ในฐานะ unidimensional
สร้างด้วย pornari ข้อยกเว้น [ หนึ่งและไม้
2010 ] สองผู้นำคุณธรรมได้ต่อเนื่อง
ถูกวัดเป็นปัจจัยของแต่ละบุคคล วันที่วรรณกรรม

หลักฐานเชิงประจักษ์ที่ล้มเหลวเพื่อให้ตรวจสอบความสัมพันธ์ของคลาสคุณธรรมความเป็นอิสระ ( เช่นคุณธรรมที่เป็นอิสระในระดับคลาส
) กับเด็กก้าวร้าว

และ / หรือกลั่นแกล้ง การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างแตกต่างกัน
ชุดกลไกของผู้นำคุณธรรม จริยธรรม และพฤติกรรมของเด็กประถมที่โรงเรียนแกล้ง

ทั้งในระดับบุคคลและระดับคลาส ได้รับการรังแกแพร่หลายทั่วโลกและ

ผลเสียมันมีเด็กสุขภาพ andwellbeing
( ล่าสุด โดยวิธีการวิเคราะห์เมต้าเห็นจีนี่ pozzoli
2009 ; และ , ttofi et al . , 2011 ] มันเป็นสิ่งสำคัญที่เราเพิ่ม
ของเราความเข้าใจของการกลั่นแกล้งและปัจจัยใด ๆ