SIAM'S OLD LUNAR CALENDER In the da

SIAM'S OLD LUNAR CALENDER

In the days prior to the formation of the first Thai kingdom of Siam, in central Thailand, that rich agricultural area was ruled and managed first by the Mon Dvaravati Kingdom (5th to 9th centuries) and then by the Khmer Angkor Kingdom (10th to 12th centuries). The Mons and the Khmers were both highly skilled agriculturalists and developed advanced irrigation and rice farming systems by making use of the Chao Phraya River. When the Tais assumed control of the area in the 13th century, they adopted the Mon-Khmer systems. This highly skilled agricultural culture, which became strongly attached to Buddhism, was a society based almost entirely on these two features, and that combination has been passed on to many Thai countryside areas of today.

Again referring Months of the Thai Lunar Calendar, we see that in the old calendar, which was based on the growing seasons, the first lunar month occurred sometime between late November and early December. From this we can assume that at that time either weather patterns were quite different from those of today or the peoples of old designated the New Year as the time of the rice harvest rather than a new growing season. Today in many of the rural villages of Thailand, farmers continue to celebrate their New Year according to the old calendar, that is, at the end of November, despite the fact that the New Year is now in April, which is in the 5th lunar month of the old calendar.

Phases of the Moon and Date & Day, according to the old lunar calendar -- shows how the old lunar dates for Thai New Year are reconciled with the contemporary western calendar dates. The first two days together make up what is called the 'Troot Festival', where 'Troot' has a double meaning :'the end of something combined with the beginning of something new'. The larger Songkran Festival as it is celebrated today is comprised of four days. The first two are the 'Troot Festival', and the second two immediately follow and are a time for relaxation and merriment after attending to family and religious duties.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปฏิทินจันทรคติเก่าของสยาม ในวันก่อนการก่อตัวของแรกไทยราชอาณาจักรสยาม ในภาคกลาง พื้นที่เกษตรที่อุดมสมบูรณ์ถูกปกครอง และจัดการก่อน โดย อาณาจักรทวาราวดีของมอญ (ศตวรรษที่ 5-9) และ อาณาจักรเขมรอังกอร์ (ศตวรรษที่ 10-12) มอนส์และ Khmers มีทั้ง agriculturalists มีทักษะสูง และพัฒนาชลประทานขั้นสูงและข้าวที่ระบบการทำฟาร์มโดยใช้แม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อ Tais ถือว่าการควบคุมพื้นที่ในศตวรรษ 13 พวกเขานำระบบ Mon-Khmer นี้คลินิกเกษตรวัฒนธรรม ซึ่งกลายเป็นอย่างยิ่งกับพุทธศาสนา สังคมตามคุณลักษณะสองเหล่านี้เกือบทั้งหมด และชุดนั้นได้ผ่านไปในพื้นที่ชนบทไทยในวันนี้ การอ้างอิงอีก เดือนของปฏิทินจันทรคติไทย เราเห็นว่า ในปฏิทินเก่า ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลเติบโต เดือนแรกที่เกิดขึ้นบางครั้งระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายนและช่วงต้นเดือนธันวาคม จากนี้ เราสามารถสมมติว่า ที่ เวลารูปแบบใดสภาพอากาศที่ค่อนข้างแตกต่างจากปัจจุบันหรือคนเก่ากำหนดให้ปีใหม่เป็นเวลาเก็บเกี่ยวข้าวแทนที่เป็นฤดูกาลเติบโตใหม่ วันนี้ในหมู่บ้านชนบทไทย เกษตรกรยังคงฉลองปีใหม่ของพวกเขาตามเดิมปฏิทิน คือ ที่จุดสิ้นสุดของเดือนพฤศจิกายน ทั้ง ๆ ที่ปีใหม่ในเดือนเมษายน ซึ่งในค่ำเดือน 5 ปฏิทินเก่า เฟสของดวงจันทร์ และวัน และ วัน ตามปฏิทินจันทรคติเก่า - แสดงว่าวันจันทรคติเก่าวันปีใหม่ไทยจะกระทบยอดกับวันปฏิทินตะวันตกร่วมสมัย สองวันแรกกันแต่งที่เรียกว่า 'Troot เทศกาล' ที่ 'Troot' มีความหมายคู่: 'จุดสิ้นสุดของสิ่งที่รวมกับจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่' เทศกาลสงกรานต์ใหญ่จะมีการเฉลิมฉลองวันนี้ประกอบด้วยสี่วันด้วย 'เทศกาล Troot' เป็นครั้งแรก และสองสองทำตาม และมีเวลาสำหรับพักผ่อนและ merriment หลังจากเข้าร่วมกับครอบครัว และศาสนาหน้าที่ทันที

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สยามเก่าของปีจันทรคติในวันก่อนที่จะมีการก่อตัวของราชอาณาจักรไทยคนแรกของไทยในภาคกลางของประเทศไทยที่พื้นที่การเกษตรที่อุดมไปด้วยถูกปกครองและการบริหารจัดการครั้งแรกโดยชาวมอญทวารวดีราชอาณาจักร (ที่ 5 ถึงศตวรรษที่ 9) แล้วโดยเขมรนครราชอาณาจักร (10 ถึงศตวรรษที่ 12) มอนส์และเขมรมีทั้งเกษตรกรที่มีทักษะสูงและการพัฒนาชลประทานขั้นสูงและระบบการทำนาโดยการใช้แม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อ Tais ปลอมควบคุมพื้นที่ในศตวรรษที่ 13 พวกเขานำระบบมอญเขมร วัฒนธรรมการเกษตรที่มีทักษะสูงซึ่งกลายเป็นที่แนบมาอย่างยิ่งให้พุทธศาสนาเป็นสังคมขึ้นอยู่เกือบทั้งหมดในทั้งสองคุณสมบัติและการรวมกันที่ได้รับการส่งต่อไปยังหลายพื้นที่ชนบทไทยในวันนี้. อีกครั้งหมายถึงเดือนของปฏิทินจันทรคติไทยที่เราเห็น ที่ในปฏิทินเก่าซึ่งก็ขึ้นอยู่กับฤดูกาลเติบโตค่ำเดือนแรกที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายนและช่วงต้นเดือนธันวาคม จากนี้เราสามารถสรุปได้ว่าในช่วงเวลาที่ทั้งรูปแบบสภาพอากาศค่อนข้างแตกต่างจากวันนี้หรือประชาชนของเดิมกำหนดให้ปีใหม่เป็นช่วงเวลาของการเก็บเกี่ยวข้าวมากกว่าฤดูปลูกใหม่ วันนี้ในหลายหมู่บ้านชนบทแห่งประเทศไทยเกษตรกรยังคงที่จะเฉลิมฉลองปีใหม่ของพวกเขาตามปฏิทินเก่านั่นคือเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่แม้จะมีความจริงที่ว่าปีใหม่อยู่ในขณะนี้ในเดือนเมษายนซึ่งอยู่ในดวงจันทร์ 5 เดือนของปฏิทินเก่า. ขั้นตอนของดวงจันทร์และวันที่และวันตามปฏิทินจันทรคติเก่า - แสดงให้เห็นว่าวันที่ดวงจันทร์เดิมสำหรับปีใหม่ของไทยจะคืนดีกับวันที่ในปฏิทินตะวันตกร่วมสมัย สองวันแรกรวมกันเป็นสิ่งที่เรียกว่า 'Troot Festival' ที่ 'Troot' มีความหมายที่สอง: 'จุดสิ้นสุดของบางสิ่งบางอย่างรวมกับจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ ๆ ' ที่มีขนาดใหญ่เทศกาลสงกรานต์ขณะที่มันมีการเฉลิมฉลองในวันนี้ประกอบด้วยสี่วัน สองคนแรกเป็น 'Troot Festival' และสองสองทันทีตามและเวลาสำหรับการพักผ่อนและความสนุกสนานหลังจากที่เข้าร่วมกับการปฏิบัติหน้าที่ของครอบครัวและศาสนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บริษัท สยามเก่าจันทรคติปฏิทิน

ในวันก่อนที่จะมีการก่อตัวของราชอาณาจักรไทย แรกแห่งสยาม ในภาคกลางที่อุดมไปด้วยพื้นที่การเกษตรถูกปกครองและบริหารโดยมอญสมัยทวารวดีราชอาณาจักร ( 5 ศตวรรษที่ 9 ) แล้ว โดยราชอาณาจักรเขมรเมืองพระนคร ( 10 ถึง 12 ศตวรรษ )ชาวมอญและเขมรทั้งเกษตรกรที่มีทักษะสูงและพัฒนาชลประทานขั้นสูงและระบบการปลูกข้าวโดยการใช้ประโยชน์ของแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อทีเอไอเอสถือว่าการควบคุมของพื้นที่ ในศตวรรษที่ 13 พวกมอญเขมร ใช้ระบบ วัฒนธรรมนี้เกษตรที่มีทักษะสูง ซึ่งก็มีความผูกพันธ์กับพระพุทธศาสนาเป็นสังคมที่ใช้เกือบทั้งหมดในคุณสมบัติเหล่านี้สองและชุดที่ถูกส่งผ่านไปยังชนบทไทยหลายพื้นที่ของวันนี้

อีกหมายถึงเดือนของปฏิทินจันทรคติไทย เราเห็นในปฏิทินเก่า ซึ่งขึ้นอยู่กับฤดูปลูกเดือนจันทรคติแรกเกิดขึ้นช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนและสายก่อน ธันวาคม