9 Benefits of 3D Printing3D printin

9 Benefits of 3D Printing
3D printing (also known as additive manufacturing) has already been adopted by many big names to replace their current prototyping methods and even to be used as part of the manufacturing process. With an increasing popularity that is already spreading into the consumer market, additive manufacturing is certainly one of the technologies to follow in the 21st century. But what are the real benefits of 3D printing?
Cheap Manufacturing
As discussed in the first post of this series, 3D printing is increasingly being used by large companies such as Converse or Alessi to replace some of their traditional manufacturing methods with cost savings of up to 70%. This is achieved through lower shipping and packaging costs related to overseas parts suppliers, less human resource involved and cheaper and sometimes more reliable raw materials.
Although currently 3D home-printed objects are not necessarily cheaper than their mass-manufactured counter parts, printing your own object a priceless experience for many (at least until its novelty wears off). 3D printed objects are only expected to get cheaper with improved additive manufacturing techniques, cheaper consumables, main stream adoption and self-replicating practices.
Quick Production
The speed of 3D printing compared to traditional methods is similar to comparing a sports car’s top speed to a horse cart’s. They both take you where you want to go but the journey time differs considerably. With industrial 3D printers being able to ‘manufacture’ most objects in a matter of hours, the classical manufacturing methods, taking up to several days or even weeks (from prototype to end product), are slowly becoming obsolete.
This leads to massive cost savings and to an on-demand manufacturingmodel. Why should you have warehouses filled up with stocks of your products if you can create them according to demand? Even if this model might not work with the big offline manufacturers due to their dependence on offline retailers that usually buy in bulk, it can prove extremely efficient for an online business.
Less waste
Manufacturing metal and plastic objects in particular is usually a wasteful process with chunky parts and a lot of surplus material. For some aircraft makers, up to 90% of the material is being cut away and no longer useful. Making a similar object using additive manufacturing not only uses less energy but also reduces waste to a minimum. And sometimes, the finished 3D printed product can be up to 60% lighter compared to the machined part but still as sturdy according to the Economist. Significant cost savings can be achieved in this way and less waste also means a lower impact on the environment.
Better quality
Think about 3D printing ascake baking. You can make a cake by whisking some cake mix, pouring it in an oven tray and baking everything. The result may taste amazing but it can have unwanted air bubbles inside, different thickness and all nuts or fruits could be grouped to one side. However, if you could assemble the cake layer by layer similar to additive manufacturing, you could achieve perfection through a full control of where each layer is going and how it fits with the rest.
Avoiding most of the mass manufacturing faults does not only make better products but it also extends their life as they will break less often. This is not necessarily a great benefit for manufacturers who need the product life cycle to be profitable, but it is certainly a major benefit for the end consumer.
Accessibility
With more people getting access to 3D printing, it may not be long until we will all have our own multi-purpose contraption (with additive manufacturing being only one of the many functionalities) capable of creating the products we need, when we need them. This can seriously shake up the current consumerism culture built on the contemporary industrial supply chain; nevertheless, it remains to be seen if this is only an ideology or a possible transitional period in human evolution.
Sustainability
Less waste compared to traditional manufacturing methods is not only a cost saving feature of 3D printing but also a possible eco-friendly attribute. Add to this the multi-purpose characteristic of a 3D printer (can build different objects without the need of using specialised machines for each part) and their digital ecosystem (all 3D models are transmitted electronically so in theory they can be printed out where they are needed, minimising therefore transport costs) and you get a sustainable manufacturing process. Integrating additive manufacturing with more classic production methods – as is the case with 3D printed textiles in the clothing industry – adds another layer (excuse the pun) to the sustainability case.
New shapes and structures
Traditional manufacturing methods rely on moulds and cutting technologies to produce a finite number of shapes and structures, with more complex hollow ones having to be created from several

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

9 ประโยชน์ของการพิมพ์ 3 มิตินำมาใช้พิมพ์ 3 มิติ (การผลิตหรือที่เรียกว่า additive) โดยชื่อใหญ่หลาย การแทนวิธีการสร้างต้นแบบปัจจุบัน และแม้ ที่จะใช้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิต ด้วยการเพิ่มความนิยมที่มีการแพร่กระจายแล้วเข้าสู่ตลาดผู้บริโภค สารเติมแต่งเป็นหนึ่งเทคโนโลยีตามในศตวรรษที่ 21 แต่ประโยชน์จริงการพิมพ์ 3 มิติคืออะไรการผลิตราคาถูกตามที่กล่าวไว้ในโพสต์แรกของชุดนี้ พิมพ์ 3 มิติมากขึ้นใช้ โดยบริษัทขนาดใหญ่เช่นสนทนาหรือ Alessi แทนบางส่วนของวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมของพวกเขา ด้วยการประหยัดต้นทุนถึง 70% นี่คือความสำเร็จการลดลง และต้นทุนของบรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศส่วนซัพพลายเออร์ ทรัพยากรมนุษย์ที่เกี่ยวข้อง และถูกกว่าและบางครั้งเพิ่มเติมวัตถุดิบที่เชื่อถือถึงแม้ว่าขณะนี้วัตถุ 3 มิติที่บ้านพิมพ์ไม่จำเป็นต้องถูกกว่าส่วนมวลผลิตเคาน์เตอร์ของพวกเขา การพิมพ์วัตถุของคุณเองเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าสำหรับหลาย ๆ คน (น้อยจนแปลกใหม่ที่สวมปิด) วัตถุ 3 มิติพิมพ์เท่าคาดว่าจะได้รับเปรียบเทียบกับเทคนิคการผลิตสารเติมแต่งปรับปรุง ถูกกว่าวัสดุสิ้นเปลือง หลักสตรีมการยอมรับและปฏิบัติตัวเองผลิตอย่างรวดเร็วความเร็วในการพิมพ์ 3 มิติเปรียบเทียบกับวิธีดั้งเดิมจะคล้ายกับการเปรียบเทียบความเร็วของรถสปอร์ตกับรถเข็นม้าเป็น พวกเขาทั้งสองพาคุณที่คุณต้องการไป แต่ระยะเวลาที่แตกต่างอย่างมาก ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติอุตสาหกรรมที่ความสามารถในการ 'ผลิต' วัตถุมากที่สุดในเรื่องของการชั่วโมง วิธีการผลิตแบบคลาสสิก ถ่าย ไปอีกหลายวัน หรือแม้กระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมา (จากต้นแบบได้กับผลิตภัณฑ์สุดท้าย), ช้าจะกลายเป็นล้าสมัยนี้นำไปสู่การประหยัดต้นทุนขนาดใหญ่ และ manufacturingmodel ตามความต้องการ ทำไมคุณจึงควรมีคลังสินค้าที่เต็มไป ด้วยหุ้นของผลิตภัณฑ์ของคุณถ้าคุณสามารถสร้างได้ตามความต้องการ แม้ว่ารุ่นนี้อาจไม่ทำงานกับผู้ผลิตใหญ่แบบออฟไลน์เนื่องจากพวกเขาพึ่งพาร้านค้าปลีกแบบออฟไลน์ที่มักจะซื้อจำนวนมาก สามารถพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพมากสำหรับธุรกิจออนไลน์ขยะน้อยลงผลิตวัตถุโลหะ และพลาสติกโดยเฉพาะจะมีกระบวนการสิ้นเปลืองส่วนหนา ๆ และวัสดุส่วนเกินจำนวนมาก สำหรับบางผู้ผลิตเครื่องบิน เกือบ 90% ของวัสดุถูกตัดเก็บ และไม่มีประโยชน์ ทำให้วัตถุคล้ายกันโดยใช้สารเติมแต่งไม่เพียงแต่ใช้พลังงานน้อยลง แต่ยัง ช่วยลดขยะให้น้อยที่สุด และบางครั้ง ที่เป็น 3D พิมพ์ผลิตภัณฑ์อาจถึง 60% น้ำหนักเบาเมื่อเทียบ กับ part กลึง แต่ยังคง เป็นแข็งแรงทนทานตามที่นักเศรษฐศาสตร์ ลดต้นทุนสามารถทำได้ด้วยวิธีนี้ และขยะน้อยลงยังหมายถึง สิ่งแวดล้อมต่ำกว่าคุณภาพดีกว่าคิดเกี่ยวกับ 3D พิมพ์อบ ascake คุณสามารถทำเค้ก โดย whisking บางขนมเค็ก เทในถาดเป็นเตาอบ และอบทุกอย่าง ผลอาจรสชาติตื่นตาตื่นใจ แต่มันจะมีฟองอากาศที่ไม่พึงประสงค์ภายใน ความหนาที่แตกต่างกัน และถั่วหรือผลไม้ทั้งหมดสามารถถูกจัดกลุ่มไปข้างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณไม่สามารถรวบรวมเค้กเลเยอร์โดยเลเยอร์ที่คล้ายกับสารเติมแต่ง คุณสามารถบรรลุความสมบูรณ์แบบผ่านการควบคุมของไปไหนแต่ละเลเยอร์และวิธีที่มันพอดีกับส่วนเหลือหลีกเลี่ยงมากที่สุดของมวลที่ผลิตบกพร่องไม่เพียงทำให้ผลิตภัณฑ์ดีขึ้น แต่ยังขยายชีวิตของพวกเขาพวกเขาจะทำลายมักจะน้อยกว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นประโยชน์ดีสำหรับผู้ผลิตที่ต้องการวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์จะมีกำไร แต่แน่นอนมันเป็นประโยชน์สำคัญสำหรับผู้บริโภคการเข้าถึงด้วยการเข้าถึงการพิมพ์ 3D คน มันอาจไม่ยาวจนกว่าเราทั้งหมดจะมี contraption เอนกประสงค์ของเราเอง (มีสารเติมแต่งที่เป็นเพียงหนึ่งในฟังก์ชันการทำงานมาก) สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่เราต้องการ เมื่อเราต้องการได้ นี้อย่างจริงจังสามารถเขย่าวัฒนธรรมบริโภคนิยมปัจจุบันที่สร้างขึ้นในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมร่วมสมัย อย่างไรก็ตาม มันยังคงอยู่จะเห็นได้ว่านี้เพียงมีอุดมการณ์หรือช่วงเวลาเป็นไปได้ในการวิวัฒนาการของมนุษย์ความยั่งยืนขยะน้อยลงเมื่อเทียบกับวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมไม่ใช่เฉพาะต้นทุนบันทึกคุณลักษณะการพิมพ์ 3 มิติ แต่มีแอตทริบิวต์มิตรไปได้ เพิ่มไปนี้ลักษณะอเนกประสงค์ของเครื่องพิมพ์ 3D (สามารถสร้างวัตถุต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้เครื่องเฉพาะสำหรับแต่ละส่วน) และระบบนิเวศของดิจิตอล (โมเดล 3D ทั้งหมดจะถูกส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ดังนั้นในทางทฤษฎีสามารถพิมพ์ออกมาซึ่งมีความจำ ลดดังนั้นการขนส่งต้นทุน) และคุณได้รับกระบวนการผลิตอย่างยั่งยืน สารเติมแต่งการรวมกับการผลิตที่คลาสสิกมากขึ้น – เป็นกรณีที่ มี 3 มิติพิมพ์สิ่งทอในอุตสาหกรรมเสื้อผ้า – เพิ่มอีกชั้นหนึ่ง (ข้อแก้ตัว pun) กับกรณีความยั่งยืนรูปทรงใหม่และโครงสร้างวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมอาศัยแม่พิมพ์และตัดเทคโนโลยีเพื่อผลิตจำนวนจำกัดของรูปร่าง และโครงสร้าง ยิ่งซับซ้อนกลวงที่มีการสร้างจากหลาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

9 ประโยชน์ของการพิมพ์ 3 มิติการพิมพ์ 3D ( ที่รู้จักกันว่า การผลิตสารเติมแต่ง ) ได้ถูกนำมาใช้โดยชื่อใหญ่หลายแทนที่วิธีการต้นแบบปัจจุบันของพวกเขาและยังถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิต ด้วยการเพิ่มความนิยมที่กำลังแพร่กระจายไปในตลาดผู้บริโภค การผลิตสารเติมแต่งเป็นมั่นเหมาะหนึ่งของเทคโนโลยีการติดตามในศตวรรษที่ 21 แต่อะไรคือประโยชน์ที่แท้จริงของการพิมพ์ 3D ?การผลิตราคาถูกตามที่กล่าวไว้ในบทความแรกของชุดนี้ การพิมพ์ 3D มากขึ้นจะถูกใช้โดย บริษัท ขนาดใหญ่เช่น พูดคุย หรือ ลสเพื่อแทนที่บางส่วนของวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมของพวกเขา ด้วยการประหยัดต้นทุนได้ถึง 70% นี่คือความผ่านการจัดส่งสินค้าลดลงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศบรรจุภัณฑ์ซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนน้อย ทรัพยากรบุคคล ที่เกี่ยวข้อง และถูกกว่า และบางครั้งก็เชื่อถือได้ วัตถุดิบถึงแม้ว่าในปัจจุบัน บ้านพิมพ์ 3D วัตถุไม่ได้ถูกกว่าเสมอไปกว่ามวลที่ผลิตชิ้นส่วนนับ , การพิมพ์วัตถุของคุณเองที่มีประสบการณ์มาก ( อย่างน้อยก็จนกว่าความแปลกสวมปิด ) พิมพ์ 3D วัตถุเท่านั้นที่คาดว่าจะได้รับที่ถูกกว่าด้วยการปรับปรุงเสริมเทคนิคในการผลิต วัสดุที่ถูกกว่า การยอมรับ กระแสหลัก และตนเองจําลองปฏิบัติการผลิตที่รวดเร็วความเร็วของการพิมพ์ 3 มิติเมื่อเทียบกับวิธีการแบบดั้งเดิมจะคล้ายกับการเปรียบเทียบรถกีฬาด้านบนความเร็วม้าเกวียน พวกเขาทั้งสองพาคุณไปที่ที่คุณต้องการไป แต่เวลาเดินทางแตกต่างมาก ด้วยเครื่องพิมพ์ 3D อุตสาหกรรมสามารถ ' ผลิต ' วัตถุส่วนใหญ่ในเรื่องของการชั่วโมง วิธีการผลิตแบบคลาสสิก การไปหลายวันหรือสัปดาห์แม้ ( จากต้นแบบผลิตภัณฑ์สุดท้าย ) จะค่อยๆกลายเป็นล้าสมัยนี้นำไปสู่การประหยัดค่าใช้จ่ายมากและความต้องการ manufacturingmodel . ทำไมคุณมีคลังสินค้าเต็มกับหุ้นของผลิตภัณฑ์ของคุณ ถ้าคุณสามารถสร้างได้ตามความต้องการ ถ้ารูปแบบนี้อาจไม่ทำงานกับผู้ผลิตตัวใหญ่ครับ เนื่องจากการพึ่งพาร้านค้าปลีกแบบออฟไลน์ที่มักจะซื้อเป็นกลุ่ม สามารถพิสูจน์เป็นอย่างมากที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจออนไลน์ลดของเสียการผลิตโลหะและพลาสติกในวัตถุโดยเฉพาะมักจะเป็นกระบวนการที่สิ้นเปลืองกับส่วนหนา ๆและมากของวัสดุส่วนเกิน บางผู้ผลิตอากาศยานได้ถึง 90% ของวัสดุที่ถูกตัดทิ้ง และไม่มีประโยชน์ การใช้วัตถุที่คล้ายกันผลิตเสริมไม่เพียง แต่ใช้พลังงานน้อยกว่า แต่ยังช่วยลดของเสียให้น้อยที่สุด บางครั้งเสร็จ 3D ผลิตภัณฑ์การพิมพ์ได้ถึง 60 % น้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับเครื่องส่วนหนึ่ง แต่ยังแข็งแรงตามที่นักเศรษฐศาสตร์ การประหยัดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญสามารถทำได้ในลักษณะนี้ และ ลดของเสีย ยังหมายถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมคุณภาพที่ดีกว่าคิดเกี่ยวกับการพิมพ์ 3D ascake อบ คุณสามารถสร้างเค้ก โดยตีเค้กผสมเทไว้ในถาดเตาอบและอบทุกอย่าง ผลที่ได้อาจลิ้มรสที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ก็มีฟองอากาศที่ไม่ต้องการอากาศข้างใน ต่างกันที่ความหนา และถั่วหรือผลไม้จะถูกจัดกลุ่มไปข้างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม , ถ้าคุณสามารถประกอบเค้กชั้นโดยชั้นคล้ายกับการผลิตสารเติมแต่ง , คุณสามารถบรรลุความสมบูรณ์ผ่านการควบคุมเต็มรูปแบบของที่แต่ละชั้นไปและวิธีการที่เหมาะสมกับที่พักหลีกเลี่ยงมากที่สุดของมวลการผลิตข้อบกพร่องที่ไม่เพียง แต่ให้ผลิตภัณฑ์ที่ดี แต่มันยังขยายชีวิตของพวกเขาเป็นพวกเขาจะแตกบ่อย ๆ นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ผลิตที่ต้องการวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ที่จะเป็นประโยชน์ แต่แน่นอนมันเป็นประโยชน์หลักสำหรับผู้บริโภคปลายการเข้าถึงกับผู้คนมากขึ้นการเข้าถึงการพิมพ์ 3D , มันอาจจะไม่นานจนกว่าเราจะมีเครื่องมืออเนกประสงค์ของเราเอง ( กับการผลิตสารเติมแต่งเป็นเพียงหนึ่งของฟังก์ชันหลาย ) ความสามารถในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เราต้องการ เมื่อเราต้องการพวกเขา นี้อย่างจริงจังสามารถเขย่ากระแสวัฒนธรรมบริโภคนิยม ที่สร้างขึ้นในโซ่อุปทานอุตสาหกรรมในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม มันยังคงที่จะเห็นถ้าเป็นแค่อุดมการณ์ หรือช่วงเปลี่ยนผ่านที่เป็นไปได้ในวิวัฒนาการของมนุษย์ความยั่งยืนเสียน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม คือ ไม่เพียง แต่ประหยัดค่าใช้จ่าย คุณลักษณะของการพิมพ์ 3 มิติ แต่ยังเป็นไปได้กับคุณลักษณะ เพิ่มนี้อเนกประสงค์คุณสมบัติของเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ( สามารถสร้างวัตถุต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้เครื่องเฉพาะสำหรับแต่ละส่วน ) และระบบนิเวศ ( 3D แบบดิจิตอลของพวกเขาทั้งหมดจะถูกส่งด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นในทางทฤษฎีที่พวกเขาสามารถพิมพ์ออกที่พวกเขาต้องการลดต้นทุน ดังนั้นการขนส่ง ) และคุณได้รับกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน บูรณาการการผลิตสารเติมแต่งที่มีการผลิตวิธีการคลาสสิกมากขึ้น และเป็นกรณีที่ มี 3D พิมพ์สิ่งทอในอุตสาหกรรมเสื้อผ้า–เพิ่มอีกชั้น ( แก้ตัวเล่นสำนวน ) เพื่อความยั่งยืนของกรณีรูปร่างใหม่และโครงสร้างวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมที่อาศัยเทคโนโลยีการผลิตแม่พิมพ์และตัดจำนวนที่จำกัดของรูปร่างและโครงสร้างที่ซับซ้อนมากขึ้นกับกลวงต้องถูกสร้างขึ้นจากหลาย ๆ